ตลาดหุ้นไทยเปิด บวกแรง 14.34 จุด หลัง 'พิชัย' สร้างความเชื่อมั่น SET ไม่หลุด 1200 จุด

ตลาดหุ้นไทยเปิด บวกแรง 14.34 จุด หลัง 'พิชัย' สร้างความเชื่อมั่น SET ไม่หลุด 1200 จุด "นักเวิเคราะห" แนะยังไม่ยืนยันเป็นขาขึ้ิน เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มปลอดภัย
ความเคลื่อนไหว "ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ เปิดตลาดภาคเช้า ณ วันที่ 26 ก.พ.68 อยู่ที่ 1,220.73 จุด บวก 14.34 จุด หรือเพิ่ม 1.19% มูลค่าการซื้อขาย 6,144.53 ล้านบาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาแรงหลังจากที่ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์และยืนยันว่า หุ้นไทยจะไม่หลุด 1200 จุด ทำให้สร้างความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่ง ขณะที่การรายงานงบไตรมาส 4/67 ที่ออกมา ส่วนใหญ่ CPALL งบออกมาดีกว่าคาด ถือว่าทำได้ดี ส่วน SPALI ก็เช่นกันทำได้ดีกว่าคาด และ PIN ที่ออกมาดีเช่นกัน ทำให้มีข่าวดีขึ้นมาเรื่อย ๆ
ขณะที่วันนี้ (26 ก.พ.2568) มีการประชุม กนง. ซึ่งก่อนหน้านี้หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก เพราะมีความกังวลว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่งในบ่ายวันนี้ ยังคงมีเสียงแตกอยู่ว่าจะมีการปรับลดหรือยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่ทว่าตลาดมีความเชื่อว่า การลดคงเกิดขึ้นแต่คงไม่ใช่ครั้งนี้ ส่งผลให้หุ้นแบงก์ปรับตัวขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่ปรับขึ้นมาได้ ยังไม่ได้มีการยืนยันว่าเป็นขาขึ้น ดังนั้นนักลงทุนควรลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ยังให้ความปลอดภัยเป็นหลัก เช่น กลุ่มแบงก์ อย่าง SCB รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงแรม เช่น MINT และหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ WHA ปรับลงมาแรงเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่มีการปรับโครงสร้างของบริษัท ขณะที่ หุ้น AMATA และ PIN ไม่ได้ลง
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกไทยเดือน ม.ค.ปรับขึ้นเด่น +13.6%y-y สูงกว่าคาดที่ +7.4% นำโดย ยางพารา, ไก่สดแช่แข็ง และอาหารทะเลกระป๋อง แต่ด้านการนำเข้าก็เร่งขึ้นเช่นกันสู่ระดับ +7.9% สูงกว่าคาดที่ +2.5% ส่งผลให้เดือน ม.ค. ไทยขาดดุลการค้ามากกว่าคาด กระตุ้นค่าเงินบาทอ่อนค่า เช้านี้อ่อนสู่ระดับ 33.7 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน ท่ามกลางความเชื่อมั่นต่อการลงทุนที่หดตัว โดย SET มีแนวรับสำคัญถัดไปที่ 1200 และ 1180 จุด
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดแรกของปีนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากภาครัฐฯที่อยากที่จะเห็น กนง. ปรับลดดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ดีมุมมองของเราและนักเศรษฐศาตร์ส่วนใหญ่กว่า 74% คาดวันนี้ กนง. จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ระดับ 2.25% ตามเดิม เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังทำได้ตามที่ ธปท. คาดหวัง ผสานกับเงินเฟ้อเริ่มกลับเข้าสู่กรอบระยะกลาง ดังนั้น กนง. อาจยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยในรอบนี้
แต่ในมุมมองกลับกัน หาก กนง. ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในรอบนี้ตามที่ภาครัฐฯเรียกร้อง ก็จะถือเป็น มูลค่าการซื้อขาย ต่อตลาดหุ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์, ไฟฟ้า, ค้าปลีก และกลุ่มหุ้นที่มีอัตราปันผลสูง นำตลาดฟื้นตัวได้เช่นกัน