ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดเช้า ร่วง 8.38 จุด กังวลเงินเฟ้อ US-นโยบายทรัมป์

ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ อยู่ที่ 1,253.89 จุด ลบ 8.38 จุด หรือลดลง 0.66% มูลค่าการซื้อขาย 3,904.96 ล้านบาท นักวิเคราะห์ระบุ กังวลทิศทางเงินเฟ้อ US และความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์ ส่งผลให้ FED อาจไม่รีบลดดอกเบี้ยเร็ว ขณะที่ปัจจัยในประเทศ มาตรการใหม่ของตลาดคาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงลบเพิ่มเติมต่อการลงทุน ดังนั้นอาจเพิ่มความระมัดระวัง โดยกลยุทธ์ยังเน้นย่อตั้งรับหุ้นปันผลสูง แนะนำ KTB
ความเคลื่อนไหว "ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ เปิดตลาดภาคเช้า ณ วันที่ 20 ก.พ.68 อยู่ที่ 1,253.89 จุด ลบ 8.38 จุด หรือลดลง 0.66% มูลค่าการซื้อขาย 3,904.96 ล้านบาท
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอร์เรเตอร์ เปิดเผยว่า รายงานการประชุม FED รอบล่าสุด (FED Minutes) ที่ออกมาเมื่อคืนที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าคณะกรรมการ ยังคงมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์ รวมถึงเงินเฟ้อที่มีโอกาสสูงขึ้น จึงทำให้ FED จะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยจากรายงานดังกล่าวสอดคล้องกับเครื่องมือ FED Watch Tool ที่คาดปีนี้ FED จะลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว โดยด้าน US Bond Yield 10 ปี วานนี้ยังคงแกว่งบริเวณ 4.5%
ส่วนด้านปัจจัยในประเทศยังผันผวน โดยวานนี้ทางกระทรวงการคลัง เตรียมเร่งดำเนินการจัดตั้งกองทุน ThaiESG 2 เพื่อรับการโยกเงินกองทุน LTF เดิมราว 1.8 แสนล้านบาท โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีใหม่ และช่วยลดแรงไถ่ถอนของ LTF ที่ค้างอยู่ ซึ่งคาดจะมีความชัดเจนในช่วง 1Q25 ประเด็นนี้ถือเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นที่เข้ามาช่วยพยุงตลาด
แต่อย่างไรก็ดี อาจมีปัจจัยลบที่เข้ามาหักล้าง เนื่องจากวานนี้ช่วงเย็นทางตลาดหลักทรัพย์ชี้แจงการทบทวนมาตรการ Short Sell ใหม่ ซึ่งจากเดิมให้ใช้กฎ Uptick Rule กับทุกหลักทรัพย์ จะปรับมาให้ใช้ Uptick เฉพาะหุ้นที่ราคาลดลงจากราคาปิดวันก่อนหน้าจนถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และใช้กับหุ้นใน SET100 เท่านั้น ดังนั้นคาดประเด็นนี้อาจจะเพิ่มแรงกดดันให้กับหุ้นในกลุ่ม SET100 มากขึ้น ท่ามกลางตลาดที่ยังคงเปราะบาง ดังนั้นอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยให้กรอบวันนี้ 1250-1270 จุด
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ KTB ประกาศจ่ายปันผล 1.545 บาทต่อหุ้น สูงกว่าตลาดคาด และคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลที่สูงถึง 6.4% สะท้อน Dividend Payout ที่ระดับ 49% สูงกว่าปี 2023 ที่ 33% การตั้งสำรองมีแนวโน้มชะลอตัวลง ตอบรับคุณภาพสินทรัพย์ของ KTB ที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งสะท้อนจากสัดส่วนลูกหนี้ Stage 2 และ NPL ที่ปรับตัวลง ราคาเป้าหมายที่ 27 บาท