BANPU เผชิญขาดทุน 682 ล้าน เหตุด้อยค่าเงินลงทุนและขาดทุนค่าเงิน

            บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU  รายงานผลประกอบการปี 2567 รายได้จากการขายรวม จำนวน 5,148 ล้านดอลลาร์  (เทียบเท่า 181,549 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจำนวน 65 ล้านดอลลาร์จากปีก่อน โดยรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจก๊าซ 20 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจอื่นๆ 159 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่รายได้ ลดลงจากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ 83 ล้านดอลลาร์ ธุรกิจถ่านหิน 31 ล้านดอลลาร์

        รายได้จากธุรกิจอื่นๆ จำนวน 355 ล้านดอลลาร์  คิดเป็นร้อยละ 7  ของรายได้รวม ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า (Energy Trading) ในประเทศญี่ปุ่น และธุรกิจผลิตและติดตั้งระบบแบตเตอรี่ในประเทศสิงคโปร์

       รายได้จากธุรกิจถ่านหิน จำนวน 3,290 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 31 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 1 เป็นผลจาก ปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มขึ้น จำนวน 2.91 ล้านตันหรือคิดเป็นร้อยละ 10 ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของถ่านหิน ลดลงจำนวน 10.82เหรียญสหรัฐต่อตันหรือคิดเป็นร้อยละ 10 และต้นทุนขายเฉลี่ยลดลง จ านวน 3.77เหรียญ สหรัฐต่อตันหรือคิดเป็นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีก่อน 

             โดยตลอดทั้งปี 2567 บริษัทฯ ดำเนินมาตรการต่างๆ เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน การลดต้นทุนรวมทั้ง การบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอโดยบริษัทฯ สามารถสร้างกำไรจากการดำเนินงานได้ 83.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรจากกำไรสุทธิจากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน 64.6 ล้านดอลลาร์

           ทั้งนี้จากการขายสัดส่วนการลงทุน โรงไฟฟ้า Nakoso ในประเทศญี่ปุ่น ตามแผนกลยุทธ์บริหารสินทรัพย์ของกลุ่ม จึงรายงานผลกระทบจากการด้อยค่าเงินลงทุนจำนวน 48.03 ล้านดอลลาร์  และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่เป็นผลจากขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 87.99 ล้านดอลลาร์ อันเป็นผลจากการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ส่งผลให้บริษัทรายงาน ผลขาดทุนสุทธิ 23.66 ล้านดอลลาร์   

          บริษัทฯ รายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA1 ) รวม 1,330 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย EBITDA จากธุรกิจถ่านหินจำนวน 863 ล้านดอลลาร์ (ลดลงร้อยละ 8 จากปีก่อนหน้า) ธุรกิจก๊าซ ธรรมชาติจำนวน 232 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 74 จากปีก่อนหน้า) ธุรกิจไฟฟ้าจำนวน 233 ล้านดอลลาร์ (ลดลงร้อยละ 44จากปีก่อนหน้า) และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานจำนวน 2 ล้านดอลลาร์