หุ้นไทยเช้าเปิดร่วงแรง 12 จุด เสี่ยงเข้าสู่ ศก.ถดถอยมากขึ้น บลูมเบิร์ก ปรับโอกาสเร็วขึ้นอีก 25%

หุ้นไทยเช้านี้ ณ 11 มี.ค. 2568 อยู่ที่ 1,165.46 จุด ลบ 11.98 จุด หรือลบ 1.02% มูลค่าการซื้อขาย 2,263.40 ล้านบาท เสี่ยงเข้าสู่ ศก.ถดถอยมากขึ้น บลูมเบิร์ก ปรับโอกาสเร็วขึ้นอีก 25% จาก 20% ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ให้กรอบ 1160-1200 จุด
ความเคลื่อนไหวตลาด "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 11 มี.ค.2568 เวลา 10.00 น.อยู่ที่ 1,165.46 จุด ลบ 11.98 จุด หรือลบ 1.02% มูลค่าการซื้อขาย 2,263.40 ล้านบาท
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ความพยายามในการดำเนินนโยบายการค้าที่เข้มงวดของทางสหรัฐฯ สร้างความกังวลมากยิ่งขึ้นต่อภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯในระยะถัดไป กระตุ้นโอกาสเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น โดยล่าสุด Bloomberg consensus ปรับเพิ่มโอกาสขึ้นสู่ระดับ 25% จาก 20% ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ประเด็นนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานต่อเนื่อง โดยวานนี้ S&P -2.7% และ Nasdaq -4%
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความเสี่ยงของภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสความน่าจะเป็นที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นกัน โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี วานนี้ -13bps ลงสู่ระดับ 4.17% ซึ่งคงต้องติดตามท่าทีของ FED ในช่วงถัดไปอย่างใกล้ชิด
ส่วนด้านราคาน้ำมันดิบย่อต่อเนื่อง โดยล่าสุดน้ำมันดิบ Brent หลุด 70 เหรียญต่อบาร์เรล ท่ามกลางความต้องการน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจใหญ่ เช่น จีน และสหรัฐฯ
สำหรับ SET ยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน ท่ามกลางประเด็นลบทั้งในและต่างประเทศ แนะเพิ่มความระมัดระวัง โดยเน้นจังหวะย่อสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาอยู่ในโซนล่าง และมี Valuation ที่ไม่แพง ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ที่น่าติดตาม ได้แก่ ไตรมาส 4/67 GDP ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการรายงานครั้งสุดท้าย คาดที่ระดับ 2.8%y-y ส่วนสหรัฐฯ ติดตามตัวเลข JOLTS Job Openings คาดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.615 ล้านตำแหน่ง ให้กรอบ 1160-1200 จุด
หุ้นแนะนำ PRTR บริษัทตั้งเป้าการเติบโตปี 2025 ที่แข็งแกร่ง โดยประเมินพอร์ตธุรกิจ Outsource จะเพิ่มขึ้น +13% เป็น 21,500 คน ส่วนธุรกิจ Recruitment ตั้งเป้าจัดหา 2,800 ตำแหน่ง (+14.8%) และ 3 ธุรกิจใหม่จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น Upside ส่วนเพิ่มอาจจะมาจากการทำ M&A คาดกำไรปีนี้ขยายตัว +24% ท่ามกลาง PE ปัจจุบันที่ 8 เท่า และอัตราปันผลสูงราว 8% น่าทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท