ตลาดฟิวเจอร์สหรัฐร่วงลง ขณะวอลล์สตรีทกำลังรอวันปลดปล่อย 2 เม.ย.

ตลาดฟิวเจอร์สหรัฐร่วงลง ขณะวอลล์สตรีทกำลังรอวันปลดปล่อย 2 เม.ย.

ตลาดฟิวเจอร์หุ้นสหรัฐร่วงลงในคืนวันอาทิตย์ นักลงทุนกำลังจับตามองไปยัง “วันปลดปล่อย” รอความชัดเจนเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ซีเอ็นบีซี รายงานวันอาทิตย์ (30 มี.ค.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทยว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เชื่อมโยงกับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 258 จุด หรือ 0.6%  S&P 500 ฟิวเจอร์ และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ ลดลง 0.7% และ 0.8% ตามลำดับ

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐร่วงลงในคืนวันอาทิตย์ เนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตามองไปยัง “วันปลดปล่อย” วันที่ 2 เมษายน หวังได้ความชัดเจนเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ภาษีศุลกากรหลายรายการที่รัฐบาลทรัมป์จะบังคับใช้จะมีผลบังคับใช้ในวันพุธนี้ ซึ่งทรัมป์เรียกว่า “วันปลดปล่อย” รวมถึงภาษี 25% สำหรับ “รถยนต์ทุกคันที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ” นอกจากนี้ คาดว่าประธานาธิบดีจะประกาศแผนการจัดเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบโต้

ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรเป็นอุปสรรคต่อตลาดหุ้น ทำให้หุ้นร่วงลงอีกครั้งในวันศุกร์ ทรัมป์ไม่ได้ทำอะไรเพื่อบรรเทาความกังวลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสื่อสหรัฐ เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีได้กดดันที่ปรึกษาของเขาให้เข้มงวดมากขึ้นในเรื่องภาษีศุลกากร ในการให้สัมภาษณ์กับทีวีเอ็นบีซีนิวส์ เมื่อวันเสาร์ ทรัมป์กล่าวว่าเขา "ไม่สนใจ" เลยว่าผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติจะขึ้นราคาเนื่องจากภาษีศุลกากรใหม่เหล่านี้หรือไม่

เอ็มมานูเอล เคา นักกลยุทธ์ด้านหุ้นของธนาคาร Barclays ระบุว่า ในวันพุธ นักลงทุนคาดหวังว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นว่าคู่ค้าทางการค้ารายใดจะได้รับผลกระทบจากภาษีใหม่นี้ และจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด 

“ความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากรได้มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางและส่วนใหญ่ของตลาดรับรู้ไว้แล้ว ดังนั้น วันแห่งการปลดปล่อยอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจมากนัก อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครชนะสงครามการค้า และเมฆหมอกกำลังก่อตัวขึ้นปกคลุมแนวโน้มการเติบโตของโลก” เคา กล่าวไว้ในบันทึกประจำวันศุกร์ “การเจรจาน่าจะเริ่มหลังวันที่ 2 เมษายน ซึ่งจะทำให้มีช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนที่ยาวนานเกี่ยวกับขอบเขต ระดับ และระยะเวลาของภาษีศุลกากรขั้นสุดท้าย”

ท่ามกลางความกังวลด้านการค้าและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ดัชนีหลักทั้งสามต่างก็มีแนวโน้มที่จะปิดเดือนนี้ด้วยระดับที่ต่ำลง โดยดัชนี S&P 500

ลดลงแล้ว 6.3% ในเดือนนี้ ขณะที่ดัชนี Dow Jones Industrial Average

มีแนวโน้มว่าจะร่วงลง 5.2% ส่วนดัชนี Nasdaq Composite

ซึ่งเน้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลงรุนแรง 8.1%

นักลงทุนยังรอคอยข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะรายงานการจ้างงานเดือนมีนาคม ซึ่งจะเปิดเผยในเวลา 8.30 น.ของวันศุกร์ที่ 4 เมษายนตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ

  • ตลาดหุ้นร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.53% นับเป็นสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์

ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 0.96% ถือเป็นสัปดาห์ที่ 3 ในรอบ 4 สัปดาห์

และดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 2.59% นับเป็นสัปดาห์ที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์เช่นกัน

ดัชนี Russell 2000 ลดลง 1.64% นับเป็นสัปดาห์ที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์