หุ้นไทยเช้านี้ดิ่ง 15.83 จุด แพนิคผลกระทบแผ่นดินไหว กลุ่มอสังหา-แบงก์ ลงแรง

หุ้นไทยเช้าอยู่ที่ 1,159.62 จุด ลบ 15.83 จุด หรือลดลง 1.35% แพนิคผลกระทบแผ่นดินไหว กลุ่มอสังหาริมทรัพย์-แบงก์ ลงแรง อย่าง SCB KBANK ORI หรือ AP SPALI ที่ราคาปรับตัวลงมาแรง
ความเคลื่อนไหวตลาด "หุ้นไทย" เปิดภาคเช้า ณ วันที่ 31 มี.ค.2568 ตลาดอยู่ที่ 1,159.62 จุด ลบ 15.83 จุด หรือลดลง 1.35% มูลค่าการซื้อขาย 6,580.45 ล้านบาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังปรับตัวลงมา หากพิจารณาสถิติสึนามิ ในปี 2004 ตลาดหุ้นจะปรับตัวลงมาประมาณ 2% แนวรับดัชนีหุ้นไทยแรกที่ให้ไว้ที่ 1,150 จุด และหากปรับร่วงลงไปต่อแนวรับถัดมาที่ 1,135 จุด แต่เท่าที่ดูจากตลาดเปิดมาเช้านี้ เป็นการค่อยไหลลง ภาพโดยรวมเป็นการลดลงมาเรื่อยๆ ปรับลงมากว่า 15 จุด
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ดัชนีหุ้นไทยยังคงเผชิญปัญหาหลายด้าน กรณีแผ่นดินไหวไม่มีอะไรที่ยืนยันได้ว่า จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะขณะนี้ยังคงกระแสข่าวจากต่างประเทศที่ยังมีแผ่นดินไหวอยู่ จึงทำให้ยังมีความกดดัน ขณะที่ในวันที่ 2 เม.ย.2568 ยังคงกดดันกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มส่งออกอาหาร ที่ยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน
หุ้นที่ให้ลงทุนยังคงเป็นกลุ่มแบงก์ ที่ยังลงมา อย่าง SCB KBANK แนะนำ KBANK ปรับลงมา 1% เราเชื่อว่า กลุ่มแบงก์กระทบจากเหตุแผ่นดินไหวก็จริง แต่ไม่ได้หนักเมื่อเทียบกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม แนวสูงอย่าง ORI หรือ AP SPALI ที่ราคาปรับตัวลงมาแรง
โดยแนะนำ ให้นักลงทุนอาจซื้อช่วงเช้า และขายช่วงบ่าย เพราะมีความรู้สึกว่า แรงซื้อในช่วงบ่ายอาจจะดีดกลับมาได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความไม่แน่นอน และยังคงต้องติดตามสถานการณ์ในวันที่ 2 เม.ย.2568 รวมถึงเหตุแผ่นดินไหวที่อาจจะมีอาฟเตอร์ช็อกซ้ำขึ้นอีกหรือไม่
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE เดือนก.พ. ที่เร่งขึ้นสู่ระดับ +2.8%y-y สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ +2.7%y-y สร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อภาพรวมเงินเฟ้อสหรัฐ
ขณะที่ความเสี่ยงในช่วงถัดไปที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด คือ ประเด็นการประกาศภาษีตอบโต้ของทรัมป์ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ภาพรวมเงินเฟ้อในช่วงถัดไป รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และการกำหนดนโยบายทางการเงิน ดังนั้นระยะสั้นตลาดอาจยังลดความเสี่ยง รอดูความชัดเจนของประเด็นนี้ก่อน
ส่วนด้านปัจจัยในประเทศวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปิดทำการเร็วกว่าปกติ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากประเด็นแผ่นดินไหว โดยเบื้องต้นเราคาดว่าประเด็นนี้คาดกระทบจิดวิทยาเชิงลบเพียงในระยะสั้นเท่านั้น
โดยกลุ่มที่อาจมีผลกระทบหลัก เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ความต้องการที่อยู่อาศัยแนวสูงชะลอลง, ประกันภัย บางบริษัทอาจโดนเคลมความเสียหายแต่ผลกระทบก็อาจจะไม่มากนักเนื่องจากคาดว่าบริษัทประกันต่างๆ มีการส่งต่อไปที่บริษัทรับประกันภัยต่อ เพื่อกระจายความเสี่ยง, กลุ่มท่องเที่ยว อาจมีการยกเลิกแผนการเที่ยวในระยะสั้น แต่คาดว่าไม่กระทบภาพการท่องเที่ยวในระยะยาว
อย่างไรก็ดี อาจจะมีกลุ่มที่ได้รับจิตวิทยาเชิงบวก เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และ กลุ่ม home improvement ที่คาดได้ปัจจัยหนุนจากการซ่อมแซม ดังนั้นมองจังหวะ Panic จากประเด็นนี้เป็นโอกาสในการทยอยสะสม
หุ้นแนะนำวันนี้ HMPRO คาดกลุ่ม Home Improvement ได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการซ่อมแซมอาคารหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผสานกับบริษัทมีการประกาศแผนโครงการซื้อหุ้นคืน โดยมีวงเงินทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย. ถึง 30 ก.ย.68 นี้ คาดจะเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน ราคาเป้าหมาย 10 บาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์