ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.) ปิดตลาดลบ 36.60 จุด นักลงทุนช็อก 'ภาษีทรัมป์'

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.) ปิดตลาดลบ 36.60 จุด นักลงทุนช็อก 'ภาษีทรัมป์'

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (4 เม.ย.68) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,125.21 จุด ลดลง 36.60 จุด หรือ 3.15% "นักวิเคราะห์" ชี้ดัชนีฯ ปรับตัวลงหลังนักลงทุนกังวลภาษีทรัมป์ จับตารัฐบาลไทยเจรจากับสหรัฐ

"ตลาดหุ้นไทย"วันนี้ (4 เม.ย.68) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,125.21 จุด ลดลง 36.60 จุด หรือ 3.15% โดยดัชนีฯ เคลื่อนไหวผันผวนทั้งวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,156.02 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,122.51 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 48,274.36 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.) ปิดตลาดลบ 36.60 จุด นักลงทุนช็อก \'ภาษีทรัมป์\' ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.68)

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. GULF ราคาปิด 45.00 บาท ลดลง 3.75 บาท หรือ 7.69% มูลค่าซื้อขาย 4,182.02 ล้านบาท
  2. KBANK ราคาปิด 159.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.24% มูลค่าซื้อขาย 3,258.78 ล้านบาท
  3. BBL ราคาปิด 140.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 3.11% มูลค่าซื้อขาย 2,194.88 ล้านบาท
  4. PTTEP ราคาปิด 106.00 บาท ลดลง 9.50 บาท หรือ 8.23% มูลค่าซื้อขาย 2,028.54 ล้านบาท
  5. PTT ราคาปิด 31.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.33% มูลค่าซื้อขาย 1,934.24 ล้านบาท

SET ดิ่งเกือบ 37 จุด นักวิเคราะห์เชื่อนโยบายทางการค้าของทรัมป์เป็นปัจจัยหลัก

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงกว่า 36 จุดในวันนี้ว่า ปัจจัยหลักมาจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

  1. ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์: เป็นประเด็นใหญ่ที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อตลาด โดยเฉพาะนโยบายการค้าระหว่างประเทศ และการเรียกเก็บภาษีนำเข้า
  2. ความขัดแย้งทางการค้า: มีความกังวลว่าจีน และสหภาพยุโรปอาจไม่ยอมเจรจา และอาจตอบโต้มาตรการทางการค้าของสหรัฐ
  3. การปรับลดอัตราดอกเบี้ย: สถานการณ์ปัจจุบันอาจเร่งให้ธนาคารกลางพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.25% ภายในปีนี้

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า

นายประกิต ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าไว้ว่า ตลาดหุ้นจะไม่ปรับตัวลงรุนแรงเท่ากับวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มปรับตัว และเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น โดยดัชนีมีแนวรับที่ 1,080-1,120 จุด ซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 1,140-1,144 จุด

นอกจากนี้ นายประกิตให้คำแนะนำในการลงทุนโดยเน้นหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และโครงสร้างพื้นฐาน และให้รอจังหวะสะสมหุ้นอเมริกา เมื่อตลาดปรับตัวลงมากพอ โดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวลดลง ซึ่งจะเป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์