สธ.เร่งวางแผนยุทธศาสตร์ดูแลผู้สูงอายุทุกมิติ เป็นของขวัญปีใหม่
สธ.เร่งวางแผนยุทธศาสตร์ดูแลผู้สูงอายุทุกมิติ เป็นของขวัญปีใหม่ เน้นเพิ่มโอกาสดูแลตนเองได้ยาวนาน ลดการพึ่งพา ไม่เป็นภาระลูกหลาน-งบประมาณ รองรับสังคมสูงอายุ
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้บริหารสธ.ว่า มีการหารือเรื่องของขวัญปีใหม่ 2566 จะเน้นการดูแลผู้สูงอายุ เพราะประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงอายุเต็มรูปแบบ ต้องมีการเตรียมการต่างๆในการดูแลผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ และมีการวางนโยบาย โดยมอบหมายให้กองยุทธศาสตร์และแผนงาน เร่งทำการศึกษาและวางแผนวางยุทธศาสตร์ วิธีการต่างๆ ในการรองรับสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้น ให้มีสุขภาพดี ดูแลตัวเองได้ ไม่ใช่อายุยืนยาวเพราะยา แต่ต้องมีคุณภาพจากการดูแลตัวเองได้ ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ไม่ใช่ผู้ป่วยติดเตียง เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่สธ.จะขับเคลื่อนต่อไป
“พัฒนาแนวทาง 3 หมอ คือ อสม. รพ.สต. และหมอครอบครัว ต้องสอดคล้องประสานงานอย่างเต็มที่ ใช้เทคโนโลยีทั้งหมดที่มีอยู่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อลดภาระความแออัดการบริการสุขภาพ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยยิ่งขึ้น”นายอนุทินกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าของขวัญปีใหม่จะมีแค่ผู้สูงอายุเรื่องเดียวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ของขวัญมีทุกวันอยู่แล้ว แต่ของขวัญปีใหม่เป็นสัญลักษณ์ที่รัฐบาลให้ทุกกระทรวงนำเสนอ ซึ่งส่วนของสธ.นำเรื่องผู้สูงอายุขึ้นมา ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ดูแลผู้สูงอายุอย่างเดียว เพราะหากดูแลผู้สูงอายุอย่างดีก็จะไม่เป็นภาระของลูกหลาน ไม่เป็นภาระงบประมาณ จึงต้องเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ โดยดูทุกมิติทั้งหมด รวมถึงดูโอกาสของผู้สูงอายุ ในการทำงาน ไม่ใช่คอยพึ่งพารับการช่วยเหลืออย่างเดียว แบบนี้จะก่อปัญหาสังคม จะทำให้ลูกหลานห่วง บางคนต้องลาออกเพื่อไปดูแล ทำให้ขาดโอกาสในการทำงาน ขาดรายได้
ด้าน นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนันบสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า ในส่วนของ อสม.เรื่องค่าป่วยการขณะนี้ยังเป็น 1,000 บาทต่อเดือน มีการของบประมาณกลาง เพื่อขอเพิ่มให้อสม.เป็น 1,500 บาทต่อเดือนในปี 2566 ซึ่งภาระงานอสม.ก็เพิ่มขึ้น ขณะอยู่ระหว่างดำเนินการ