รพ.นครธน ชู 6 ศูนย์โรคยาก ซับซ้อน เตรียมลุย Wellness รับเทรนด์สุขภาพ
รพ.นครธน กางแผนปี 2566 ปักหมุดยกระดับการรักษา 'โรคยากซับซ้อน' ชูความพร้อม 6 ศูนย์ทางการแพทย์ เตรียมเดินหน้าตลาด Wellness พร้อมวางแผนขยายกลุ่มคนไข้ชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ จีน และเมียนมา ตั้งเป้าสัดส่วนคนไข้ชาวต่างชาติเติบโตกว่า 30%
Key point :
- WHO คาดว่าในปี 2573 ประชากรโลกกว่า 23 ล้านคน จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โดย 85% อยู่ใน ประเทศกำลังพัฒนา
- รพ.นครธน กางแผนปี 2566 ปักหมุดยกระดับการรักษา 'โรคยากซับซ้อน' ชูความพร้อม 6 ศูนย์ทางการแพทย์ ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง และเทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับสากล
- ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของปีนี้ไม่น้อยกว่า 10% สอดคล้องตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย และสัดส่วนคนไข้ชาวต่างชาติเติบโตกว่า 30%
ประชากรโลก เสียชีวิตจาก โรคหลอดเลือดหัวใจถึง 17 ล้านคน หรือ คิดเป็น 48% ของการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อทั้งหมด รองลงมา คือ โรคมะเร็ง 21% โรคถุงลมโป่งพอง รวมโรคปอดเรื้อรังและหอบหืด 12% (4.2 ล้านคน) และ โรคเบาหวาน 4% (1.3 ล้านคน)
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ทำนายไว้ว่าในปี 2573 ประชากรโลกจำนวน 23 ล้านคน จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โดย 85% อยู่ใน ประเทศกำลังพัฒนา 17.5 ล้านคนของประชากรทั้งโลก
ขณะเดียวกัน เมื่อย้อนดูข้อมูลของ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ในประเทศไทย พบว่า จำนวนผู้ป่วยในจากโรคหัวใจ ที่รุนแรง เช่น โรคหัวใจวาย มีมากกว่า 84,000 คนในปี 2560 เพิ่มขึ้น 25% จาก 67,000 คนในปี 2556 และจำนวนผู้ป่วยในจากโรคหลอดเลือดสมอง ที่เข้ารับการตรวจรักษา มีมากกว่า 26,000 คนในปี 2560 เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จาก 17,000 คนในปี 2556
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 รพ.นครธน ได้แถลงวิสัยทัศน์กางแผนปี 2566 ภายในงาน Advanced Care, Humanized Healthcare ปักหมุดยกระดับการรักษา ชู 4 กลยุทธ์หลัก พร้อมรองรับผู้ใช้บริการทั้งกลุ่มคนไทย และกลุ่มชาวต่างชาติ โดยพันธกิจหลักในปี 2565-2569 นี้ มุ่งมั่นเพื่อก้าวสู่การยกระดับการรักษา (Advanced Care) บริการดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ให้การรักษากลุ่มโรคยาก ซับซ้อน ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง และเทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับสากล พร้อมพัฒนาระบบฐานข้อมูลอันทันสมัยในรูปแบบดิจิทัล (Digital Transformation) อีกทั้ง ขับเคลื่อนการบริการต่อผู้รับบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ (Humanized Healthcare)
6 ศูนย์ โรคยากซับซ้อน
นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ โรงพยาบาลนครธน เผยว่า ปัจจุบัน โรคมีวิวัฒนาการเพิ่มมากขึ้น และมีความยาก การรักษาในปัจจุบันกับอดีตแตกต่างกัน เนื่องจากเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้นทำให้สามารถต่อสู้กับโรคร้ายได้สัมฤทธิ์ผลดีขึ้น ปัจจุบัน รพ.นครธน มีศูนย์การแพทย์ ทั้งหมด 22 ศูนย์ ในจำนวนนี้ร่วมกับ บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก 2 ศูนย์ และร่วมกับ สไมล์ โอเปอเรชั่นส์ 1 ศูนย์
เรามองว่าจะมีเรือธงอะไรที่จะเป็นศูนย์ช่วยเหลือประชาชนให้สามารถรักษาโรคยากได้ โดยเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Wellness) และการรักษา (Medical) แบบองค์รวม ผ่าน 6 ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางรักษา โรคยาก ซับซ้อน ได้แก่
1. ศูนย์สมองและระบบประสาท นำเครื่องเอกซเรย์สำหรับตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือดชนิดสองระนาบ (Biplane DSA) เพิ่มศักยภาพในการร่วมรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ศูนย์หัวใจ ใช้นวัตกรรมร่วมรักษาด้วยเครื่อง Biplane DSA เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ
3. ศูนย์กระดูกสันหลัง โดยร่วมมือกับ บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก สามารถรักษาได้อย่างครบวงจร
4. ศูนย์มะเร็ง ร่วมกับ บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก เปิดศูนย์มะเร็งฮอไรซัน ให้การดูแลรักษาโรคมะเร็ง ตั้งแต่การป้องกัน การตรวจคัดกรอง การวินิจฉัย การรักษา การติดตามผลการรักษา ไปจนถึงดูแลด้านสภาวะจิตใจ
5.ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ การวินิจฉัย รักษาที่ครบวงจรภายในที่เดียวกัน (One Stop Service)
6. ศูนย์ทันตกรรม ร่วมกับ สไมล์ โอเปอเรชั่นส์ ชูนวัตกรรมการวางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล และการนำเทคโนโลยีมาร่วมวินิจฉัย และรักษาทางทันตกรรม
เตรียมลุยตลาด Wellness
ขณะเดียวกัน 'Wellness Industry' หรืออุตสาหกรรมความงามและการดูแลสุขภาพซึ่งมีแนวโน้มเติบโตมากในปัจจุบัน Global Wellness Institute (GWI) รายงานว่าปี 2568 มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพของทั้งโลก จะมีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 230 ล้านล้านบาท ซึ่ง รพ.นครธน มีแผนขยายบริการด้านดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Wellness) ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
นพ.วิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า Wellness Tourism มีการเติบโตมาก ทั้งในกลุ่ม Wellness Product เช่น สมุนไพร สปา , Wellness Retreat เช่น รักษะ ชีวาศรม , Wellness Real Estate นับเป็นตลาดที่ใหญ่ เพราะคนเริ่มสนใจเรื่องของ Senior living และ สุดท้าย คือ Wellness Clinic คลินิกที่ส่งเสริมสุขภาพ Anti-aging ตรวจพันธุกรรม โพรไบโอติกส์ ฯลฯ
“ปัจจุบัน รพ.นครธน มีศูนย์ Wellness ในโรงพยาบาล ให้บริการในกลุ่ม Wellness Clinic เช็กสุขภาพ ตรวจยีน สารอาหารในเลือด วิตามิน ดีท็อกซ์ การให้วิตามินเฉพาะบุคคล เป็นต้น ในอนาคตจะมีการขยายไปให้ครอบคลุมทั้ง 4 กลุ่ม ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ประเทศไทยเหมาะทั้งด้านอาหาร ค่าใช้จ่าย ภูมิประเทศ และการให้บริการ เพราะฉะนั้น ถือเป็นข้อได้เปรียบ”
ทุ่ม 400 ล้านพัฒนาบริการ
เพ็ญศิริ ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานการตลาดและพัฒนาธุรกิจ โรงพยาบาลนครธน กล่าวเสริมว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา รพ.นครธน มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นราว 30% เมื่อเทียบกับปี 2564 และผลกำไรมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 75% ผลจากการเพิ่มบริการเพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 และตั้งเป้าอัตราการเติบโตของปีนี้ไม่น้อยกว่า 10% สอดคล้องตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย
โดยในปีนี้วางงบลงทุนไว้ที่ 400 ล้านบาท ในการนำนวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ การปรับปรุงสถานที่ภายใน และภายนอกโรงพยาบาลให้ทันสมัยทั้งทางเข้า ตัวอาคาร ห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด และหอพักผู้ป่วย ไปจนถึงการพัฒนาระบบสารสนเทศ ซึ่งนอกจากจะเน้นในกลุ่มคนไทยแล้ว ยังมีแผนขยายต่อไปกลุ่มคนไข้ชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ จีน และเมียนมา รวมทั้งกลุ่มคนไข้ต่างชาติที่อาศัยอยู่ในย่านพระราม 2 (Expat) ซึ่งคาดหวังสัดส่วนคนไข้ชาวต่างชาติจะมีอัตราเติบโตกว่า 30%
4 กลยุทธ์ ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตคนไทย
รศ.ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลนครธน กล่าวถึง 4 กลยุทธ์หลักในการดำเนินงาน ปี 2566 ได้แก่
1. ยกระดับการรักษา สู่การแพทย์เฉพาะทางโรคยากซับซ้อน โดยก้าวขึ้นสู่การเป็นโรงพยาบาลที่มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทางและมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน 6 ศูนย์หลัก
2. ผสานนวัตกรรมการรักษาอันทันสมัยและเทคโนโลยีการแพทย์มาตรฐานระดับสากล อาทิ เครื่องเอกซเรย์สำหรับตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือดชนิด สองระนาบ (Biplane Digital Subtraction Angiography) หรือ Biplane DSA มีเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์สำหรับการตรวจเฉพาะทางอื่นๆ ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสะดวกสบายไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง
3. ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรด้านการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก และ สไมล์ โอเปอเรชั่นส์ เพื่อทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น
4. การบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ หัวใจหลักในการให้บริการ สร้างความอุ่นใจและสบายใจให้กับผู้ป่วยและครอบครัว