เปิดผลสำรวจคนไทยกิน "ปลาน้ำจืดดิบ" ตัวก่อโรคมะเร็ง
สบส.เผยผลสำรวจประชาชนภาคอีสานร้อยละ 18.7% นิยมกินปลาน้ำจืดดิบ เผยกินตามคนใกล้ชิด เมนูยอดฮิตปลาร้าหรือแจ่วบองดิบ เสี่ยงพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี
นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า การบริโภคปลาน้ำจืดดิบ ยังเป็นที่นิยมของประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ การอักเสบของท่อน้ำดี มะเร็งท่อน้ำดี และอาจเสียชีวิตได้ตามลำดับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองสุขศึกษา ได้ดำเนินการเฝ้าระวังพฤติกรรมการบริโภคปลาน้ำจืดดิบ ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 7 เมษายน 2566
ดำเนินการร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และศึกษาธิการจังหวัด กลุ่มตัวอย่างจำนวน 12,356 คน จากทุกภูมิภาค พบว่า
- ประชาชนไทยมีพฤติกรรมการบริโภคปลาน้ำจืดดิบ 10.9%
- โดยภาคอีสานเป็นภาคที่มีการบริโภคมากที่สุด 18.7%
- รองลงมาเป็นภาคเหนือ 13%
- ภาคกลาง 8.7%
- และภาคใต้ 7%
เมนูที่นิยมรับประทานดิบมากที่สุด คือ ปลาร้า แจ่วบองดิบ และลาบปลาน้ำจืดดิบ เหตุผลหลักๆ คือ รับประทานตามครอบครัว ญาติพี่น้อง รับประทานเพราะมีเทศกาลหรืองานสำคัญ หาซื้อรับประทานได้ง่าย และคิดว่ารสชาติอร่อยกว่าปลาปรุงสุก
นอกจากนี้ผู้ที่ทำอาหารให้กับครอบครัวมีความเชื่อว่าการทำให้เนื้อปลาสุก ทำได้โดยนำปลาไปสะดุ้งในน้ำร้อนแล้วยกขึ้นทันที หรือนำเนื้อปลาแช่ในน้ำโซดา 3 นาที และบีบมะนาวหรือใส่พริกลงในเนื้อปลา ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง นำไปสู่พฤติกรรมการบริโภคปลาน้ำจืดดิบได้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ดำเนินการขับเคลื่อนตำบลจัดการคุณภาพชีวิตปลอดโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี
โดยนำร่องในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 30 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงผ่านกระบวนการสนับสนุนชุดสื่อความรู้ให้กับ อสม. ให้ความรู้เรื่องวิธีการบริโภคปลาน้ำจืดที่ถูกวิธีกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และเฝ้าระวังเตือนภัยพฤติกรรมเสี่ยงของคนในชุมชนอย่างเป็นระบบ
ด้านนพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การบริโภคปลา ควรล้างให้สะอาด และปรุงสุกด้วยความร้อนอย่างทั่วถึงก่อนนำมารับประทาน ตามหลักสุขบัญญัติข้อที่ 4 กินอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอันตราย ไม่ทาน สุกๆ ดิบๆ ไม่ใช้เขียง มีด ที่หั่นหรือสับเนื้อปลาน้ำจืดดิบร่วมกันกับวัตถุดิบอื่น เช่น ผักสด ผลไม้
ที่สำคัญจะต้องล้างมือให้สะอาดก่อนปรุงอาหารและก่อนรับประทานอาหาร ต้องขับถ่ายในส้วมให้ถูกสุขลักษณะ หากถ่ายไม่ถูกที่ ของเสียที่ลงสู่แม่น้ำลำคลอง จะทำให้ไข่ของพยาธิใบไม้ตับมีโอกาสแพร่กระจายเข้าสู่สัตว์น้ำจืดที่เป็นพาหะของพยาธิใบไม้ตับได้