ดีเดย์ 15 ต.ค. นี้ ผู้ประกันตน อายุ 50 ปีขึ้นไป รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี
ประกันสังคมให้สิทธิผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ปีละครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดีเดย์เริ่มให้บริการ 15 ต.ค.นี้
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 63 นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน (สปส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 เพื่อเป็นการป้องกันโรคให้กับกลุ่มผู้ประกันตนสูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยง อายุ 50 ปีขึ้นไป และลดภาระการรักษาของบุคลากรทางการแพทย์ โดยคณะกรรมการประกันสังคมมีมติเห็นชอบประกาศคณะกรรมการการแพทย์ ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับประโยชน์ทดแทน ในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน พ.ศ. 2563
นพ.ชาตรี บานชื่น ประธานคณะกรรมการการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม ลงนามในประกาศฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2563 โดยมีสาระสำคัญในประกาศฉบับนี้ คือ ให้สิทธิผู้ประกันตนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป สามารถได้รับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ หรือ 4 สายพันธุ์ ณ สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดปีละ 1 ครั้ง โดยจะจ่ายให้แก่สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคม กำหนดในอัตราอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ ในอัตรา 250 บาท ต่อคนต่อปี และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ในอัตรา 450 บาท ต่อคนต่อปี
โดยผู้ประกันตนสามารถไปใช้สิทธิได้ ณ สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าวได้ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
นายทศพล กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม มีความมุ่งมั่น และทุ่มเทการทำงาน โดยยึดหลักการดำเนินงานภายใต้แนวทางของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในการบูรณาการงานด้านบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ เกิดความเหมาะสมเท่าเทียม รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกสถานการณ์อย่างทันท่วงที พร้อมติดตามสถานการณ์นั้นอย่างใกล้ชิด และรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจากผลกระทบภาวะวิกฤตโควิด-19 ในทุกด้าน เพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการแก้ไขให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อไป
"ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่า สำนักงานประกันสังคมจะดูแลผู้ประกันตน และพร้อมพัฒนางานด้านประกันสังคมให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานปรัชญาการพัฒนาแบบยั่งยืน เพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อชีวิตและสุขภาพของผู้ประกันตนต่อไป" นายทศพล กล่าว