แนะแนวทางแม่มือใหม่ป้องกันแพร่เชื้อโควิด-19

แนะแนวทางแม่มือใหม่ป้องกันแพร่เชื้อโควิด-19

กรมอนามัย ลงพื้นที่ รพ.สมุทรสาคร แนะแนวทางแม่มือใหม่ป้องกันแพร่เชื้อโควิด-19 แพร่เชื้อของแม่หลังคลอดในขณะให้นมลูก

นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยทีมอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาอุปสรรคในการดูแลรักษาหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อและทารกแรกเกิด โดยทีมอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อชี้แนะแก่บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการทำงาน

นพ.อรรถพล  กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่าเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่สามารถยืนยันได้ว่ามีการแพร่เชื้อโควิด-19 จากแม่สู่ลูกในครรภ์ แต่มีรายงานการติดเชื้อโควิด-19 ของทารกแรกเกิด ร้อยละ 4 ซึ่งคาดว่าเกิดจากการติดเชื้อในช่วงหลังคลอด จากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากแม่ที่ติดเชื้อ ซึ่งส่วนมากสัมพันธ์กับประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับแม่หลังคลอด

ส่วนน้ำนมแม่ยังไม่มีรายงานการตรวจพบเชื้อมีชีวิตในน้ำนม สำหรับประเทศไทยที่มีการระบาดของ โรคโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร มียอดผู้ป่วยสะสมข้อมูลเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ ที่ติดเชื้อมาคลอด จำนวน 11 ราย เป็นหญิงไทย 3 ราย และเป็นต่างด้าว 8 ราย ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง

ทั้งนี้ แนวทางในการดูแลหญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิดนั้น ควรมีการสื่อสารให้แม่หลังคลอดทราบถึงประโยชน์ของการให้นมลูกอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน และการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อของแม่หลังคลอดในขณะให้นมลูก รวมถึงให้แม่เลือกและตัดสินใจในการเลี้ยงลูก ด้วยนมแม่

โดยมีแนวทางปฏิบัติ 2 แนวทาง ได้แก่ 1) ให้ลูกได้ดูดนมจากเต้า ในขณะที่ไม่ได้ให้นมลูกก็ให้ แม่และลูกอยู่ในห้องเดียวกันโดยอยู่ห่างกันประมาณ 2 เมตรหรือมีม่านกั้นระหว่างแม่และลูก โดยต้องมีญาติเป็นผู้ช่วยดูแลทารก 2) ให้ลูกอยู่ในห้องทารกแรกเกิด โดยมีเจ้าหน้าที่อุ้มลูกมาให้ดูดนมแม่จากเต้าเมื่อถึงเวลา หรืออาจให้แม่บีบเก็บน้ำนมและมีผู้ช่วยป้อน

ที่สำคัญก่อนการให้นมลูกหรือบีบน้ำนม ควรเช็ดทำความสะอาดบริเวณเต้านมและหัวนมด้วยน้ำสบู่ทุกครั้ง รวมทั้งล้างมือด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที สวมหน้ากากตลอดเวลาที่ให้นมลูก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19