เตรียมตัว! กลุ่มได้ฉีดบูสเตอร์โดสด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าต.ค.นี้
สธ.คาดสิ้นก.ย.ฉีดวัคซีนโควิด19 ได้ 45 ล้านโดส ลุยต่อต.ค.24 ล้านโดส มุ่งทะลุเป้าเข็ม 1 ครอบคลุม 50 %ทุกจังหวัด เตรียมฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ผู้รับวัคซีนซิโนแวคครบโดส จัดลำดับกลุ่มฉีดเข็ม2ช่วงมี.ค.-พ.ค.ได้ก่อน เริ่มต.ค.นี้
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่กรมควบคุมโรค ในการแถลงสถานการณ์โควิด 19 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกยังมีรายงานการติดเชื้อขึ้นๆ ลงๆ ภาพรวมยังระบาดรุนแรงแม้ไม่รุนแรงเท่า 3-4 เดือนที่ผ่านมา โดยในรอบ 14 ชั่วโมงทั่วโลกติดเชื้อ 5.9 แสนราย ติดเชื้อใหม่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา 1.7 แสนราย เสียชีวิต 1.7 พันราย รองลงมาคืออินเดียติดเชื้อ 3.7 หมื่นราย เสียชีวิต ประมาณ 304 ราย และสหราชอาณาจักร ติดเชื้อ 1.7 หมื่นราย เสียชีวิต 147 ราย ส่วนประเทศไทยติดเชื้อรายใหม่ 1.4 หมื่นราย เสียชีวิต 253 ราย สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด19 ฉีดสะสมแล้ว 39,631,862 โดส คาดว่าเมื่อสิ้นเดือนก.ย.จะฉีดได้สะสมประมาณ 45 ล้านโดส
อ่านข่าว : ‘ซิโนแวค’ ฉีดบูสเตอร์โดส ต้านสายพันธุ์เดลตาสูงกว่า เข็มสองถึง 2.5 เท่า
สำหรับแผนการฉีดที่ ศบค.เห็นชอบ เป้าหมายคือฉีดประชาชนให้ได้อย่างน้อย 50% ของทุกจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดมีอย่างน้อย 1 อำเภอฉีดครอบคลุม 70% และมีต้นแบบ COVID Free Aria อย่างน้อย 1 พื้นที่ที่มีความครอบคลุม 80% ให้เพิ่มความครอบคลุมการฉีดกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ให้มากที่สุด และหากในจังหวัดนั้นมีประชากรเป้าหมายอื่นสำคัญ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจัดสรรได้ นอกจากนี้ ช่วง ต.ค.มีการฉีดเข็ม 2 มาก ให้มีการฉีดเข็ม 2 ให้มากที่สุด ขยายการฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งมีไฟเซอร์เข้ามา เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเปิดเรียน โดยจะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินการ การฉีดกระตุ้นในคนฉีดซิโนแวค 2 เข็มช่วง มี.ค.-พ.ค. เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปวัคซีนทุกชนิดจะลดลงตามเวลา และการควบคุมการระบาด พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งสามารถเปลี่ยนปรับเป้าหมายได้ตามสถานการณ์
ส่วนกลุ่มเป้าหมายการฉีด ต.ค. แบ่งเป็น 1. ประชาชนทั่วไปอายุ 18 ปีขึ้นไป 16.8 ล้านโดส 2.นักเรียนอายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ 4.8 ล้านโดส ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม ส่วนจะฉีดกลุ่มไหนชั้นไหนก่อนจะหารือร่วมศธ.ต่อไป 3.แรงงานในระบบประกันสังคม 0.8 ล้านโดส 4.หน่วยงานอื่น เช่น องค์กรรัฐ ราชทัณฑ์ 1.1 ล้านโดส และ 5.เข็ม 3สำหรับคนฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม 0.5 ล้านโดส ซึ่งปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
สูตรฉีดแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.สูตรปกติที่บริษัทแจ้ง อย.หรือฉีดวัคซีนผู้ผลิตเดียวกัน คือ ไฟเซอร์ 2 เข็ม แอสตร้าฯ 2 เข็ม ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม 2.สูตรไขว้ ขณะนี้ให้ฉีด 2 แบบ คือ ซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า (SA) และแอสตร้าฯ-ไฟเซอร์ โดย SA คือสูตรหลักฉีดประชาชนทั่วไป ประสิทธิภาพประสิทธิผลเทียบเท่าแอสตร้าฯ 2 เข็ม แต่จะช่วยฉีดครบได้เร็วขึ้น 3.การฉีดเข็มกระตุ้นซิดนแวค 2 เข็ม ด้วยแอสตร้าฯ เริ่มแล้วบางส่วนโดยเฉพาะภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่มีการระบาดมากขึ้น เพื่อนำไปควบคุมและเพิ่มภูมิมากขึ้น และ 4. ผู้ติดเชื้อหาย 1-3 เดือน ที่ไม่เคยรับวัคซีนหรือไม่ครบ 2 เข็มจะฉีดให้ใน ต.ค.
เมื่อถามว่าจัดลำดับกลุ่มบูสเตอร์โดสเข็ม 3 อย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เห็นว่า คนที่ฉีดครบก่อนภูมิคุ้มกันขึ้นก่อน และค่อยๆ ตกลง จะฉีดตามลำดับการฉีดครบของวัคซีน เช่น มี.ค. เม.ย. พ.ค. ภูมิคุ้มกันตกแล้วก็จัดมาฉีดก่อน หากกลุ่มนี้ฉีดครบแล้วก็เป็นกลุ่มที่ฉีด มิ.ย.ต่อไป เพราะคนเพิ่งฉีดครบ 2 เข็มภูมิคุ้มกันยังสูงอยู่ โอกาสติดเชื้อป่วยหนักรุนแรงน้อยกว่า โดยจะเริ่มฉีดในเดือนต.ค. และจะใช้วัคซีนแอสตร้าฯในการฉีดบูสเตอร์ ส่วนแนวทางปฏิบัติของผู้ที่จะต้องเข้ารับการบูสต์นั้น จะมีการประกาศให้ทราบ ล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวต่อไป
“ระยะต่อไปจะอยู่กับโควิดค่อนข้างนาน เพราะเชื้อมีการเปลี่ยนแปลงตลอด จึงขอฝากให้คงมาตรการควบคุมป้องกันโรคแบบครอบจักรวาล สถานประกอบการให้ทำบับเบิล แอนด์ ซีลมากขึ้น วัคซีนไม่ใช่เครื่องมือเดียว ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องคงเข้มมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล ต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ”นพ.โอภาส กล่าว