เปิดเส้นทางชีวิต "ปลัดนนท์" จาก รปภ. สู้จนถึงฝัน "ปลัดอำเภอ"
"พชรดนัย สิทธิพิพัฒนกิจ" หรือ "ปลัดนนท์" ลบทุกขีดจำกัดของชีวิต เดินทางจาก รปภ. สู่ "ปลัดอำเภอ" เปิดใจเล่าเส้นทางชีวิตก่อนจะประสบความสำเร็จในวันนี้
"ผมจะเรียน ม.รามคำแหง" ประโยคสั้น ๆ ที่นายพชรดนัย สิทธิพิพัฒนกิจ หรือ ปลัดนนท์ ปลัดอำเภอท่าใหม่ จ.จันทบุรี เอ่ยกับคุณแม่ หลังจากทราบว่าครอบครัวไม่สามารถส่งเสียให้ตนเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาได้
"พชรดนัย" หรือ ปลัดนนท์ ก้าวสู่รั้วรามคำแหงในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2554 พร้อมกับเงินดำรงชีวิตจากครอบครัว จำนวน 1,300 บาท ชีวิตนักศึกษาเริ่มต้นด้วยการเช่าหอพักใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อเข้าเรียนตามปกติเหมือนนักศึกษาทั่วไป ทว่าผ่านไป 3 วัน พชรดนัยรู้ตัวว่าไม่สามารถดำเนินชีวิตเช่นนี้ได้ เงินในกระเป๋าเริ่มลดลงและคงจะหมดในเร็ววัน หวนนึกถึงปณิธานของตนในวันที่เอ่ยกับคุณแม่ คือ "ผมจะเรียน ม.รามคำแหง ส่งตัวเองด้วยการทำงานและเรียนไปด้วย จนกว่าจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางข้าราชการ"
ครอบครัวของ พชรดนัย หรือ ปลัดนนท์ มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน โดยมีคุณพ่อเป็นเสาหลักในการหาเงินจุนเจือครอบครัว ซึ่งไม่เพียงพอต่อการส่งเสียด้านการศึกษา ทุกคนจึงเรียนจบเพียงการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน ส่วนพชรดนัยนั้นมีความฝันจะทำงานเป็นข้าราชการ จึงคิดหาหนทางที่จะไปสู่จุดนั้นให้ได้
"หลังจากจบ ม.6 และทราบว่าครอบครัวไม่สามารถส่งให้เรียนต่อได้ ผมใช้เวลาครุ่นคิดอยู่หลายวันว่าจะทำตามความฝันในการรับข้าราชการได้อย่างไร กระทั่งเพื่อนแนะนำมหาวิทยาลัยรามคำแหงให้รู้จัก ซึ่งเป็นสถาบันแห่งโอกาสที่มีค่าเทอมถูกที่สุด จึงตัดสินใจทันทีว่าจะเรียนต่อที่นี่ เพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำตามความฝัน และจะต้องพยายามด้วยตนเองจนกว่าจะประสบความสำเร็จ
เมื่อรู้ที่หมายด้านการเรียนต่อของตนเองแล้ว การเลือกคณะก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องใช้เวลาคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน เพื่อน ๆ แนะนำให้เรียนนิติศาสตร์ เพราะผมชอบเรียนด้วยการท่องจำ และเป็นคณะเหมาะกับผม แต่การเรียนกฎหมายดูท่าว่าจะยากเกินไป จึงเลือกคณะรัฐศาสตร์แทน ซึ่งพอจะแบ่งเวลาเรียนและเวลาทำงานได้"
ขณะเป็นนักศึกษา พชรดนัย ทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่กับการเรียน อาทิ พนักงานร้านสะดวกซื้อ ลูกจ้างร้านอัดรูป พนักงานเสิร์ฟ และอื่น ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ในที่สุดการทำงานก็กลืนกินเวลาเรียนที่สำคัญไป ทำให้การเรียนในช่วง 3 ปีแรก พชรดนัยสะสมหน่วยกิตได้เพียง 50 หน่วยกิต ก่อนจะกลับมามุ่งมั่นตั้งใจเรียน เก็บหน่วยกิตที่เหลือทั้งหมดตามหลักสูตร โดยใช้เวลาเรียนต่ออีก 1 ปีครึ่ง รวมระยะเวลาการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ ม.ร. คือ 5 ปี จบการศึกษาปี 2558
"เส้นทางการเป็นข้าราชการดำเนินต่อหลังจากจบปริญญาตรี ผมสอบ ก.พ. หรือการสอบความรู้ความสามารถเพื่อคัดเลือกบุคคล เข้าทำงานในหน่วยงานราชการ แต่ก็สอบตกตั้งแต่ปีแรก และปีต่อมาก็มีครอบครัว ทำให้ต้องดูแลภรรยาและลูก มีภาระหน้าที่ที่หนักขึ้น ไฟในการเดินตามความฝันเริ่มดับลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไปสอบ ก.พ. ทุกปี ตั้งแต่ปี 2559 - 2561 กระทั่งสอบผ่านนักคิดวิเคราะห์และแผน ในปี พ.ศ. 2562 และมีสิทธิ์สอบ ก.พ. ภาคพิเศษ ซึ่งในขณะนั้นผมทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ด้วย
สถานที่ทำงานงานรักษาความปลอดภัยอยู่บนทางด่วนที่กำลังสร้างใหม่ ผมมีหน้าที่หลักคือตรวจตราดูความเรียบร้อยของพื้นที่ ซึ่งพอจะมีเวลาว่างให้อ่านหนังสือ จึงใช้โอกาสนี้ทบทวนความรู้และฝึกหัดทำข้อสอบ เรียนรู้เพิ่มเติมจากช่องทางต่าง ๆ จนที่สุดก็สอบผ่านทั้ง ก. และ ภาค ข. ได้"
พชรดนัย กล่าวต่ออีกว่า ผลสอบผ่านทำให้มีแรงกลับมาสู้บนเส้นทางข้าราชการอีกครั้ง จึงมุ่งมั่นอ่านหนังสือเพื่อเข้าสอบคัดเลือกเป็นปลัดอำเภอ ซึ่งมีกำหนดสอบในปี 2564 ควบคู่กับการดำรงอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย โดยไม่คิดจะเปลี่ยนที่ทำงานจนกว่าจะสอบได้
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 พชรดนัย เข้าสอบคัดเลือกเป็นปลัดอำเภอ ณ สนามสอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามารถสอบผ่านไปสู่การสอบสัมภาษณ์ และสอบได้ลำดับ 454 โดยปัจจุบัน พชรดนัย ได้บรรจุเป็นปลัดอำเภอท่าใหม่ จ.จันทบุรี เรียบร้อยแล้ว
สำหรับน้อง ๆ ที่เพิ่งเรียนจบ หรือใครที่กำลังลังเลว่าชีวิตจะเดินไปทางไหนต่อ ขอแนะนำ ม.รามคำแหง สถาบันแห่งโอกาสที่มีค่าเทอมถูกที่สุด เพียงหน่วยกิตละ 25 บาท ค่าลงทะเบียนต่อเทอมประมาณ 1,400 บาท และเป็นสถาบันที่ไม่บังคับเข้าเรียน เราสามารถเลือกเรียนในช่องทางที่สะดวกได้ ขอเพียงศึกษาให้มีความรู้ เข้าสอบให้ผ่านทุกวิชา ไม่ว่าคุณจะมีอายุ 18 ปี หรือ 50 ปี ก็สามารถเรียนและทำตามความฝันได้
"ขอบคุณ ม.รามคำแหง ที่ให้โอกาสด้านการศึกษา ขอบคุณเพื่อน ๆ ในเพจรัฐศาสตร์ ม.ร. FC ที่คอยแบ่งปันวิธีเรียน วิธีสอบ รวมถึงวิธีเลือกวิชาลงทะเบียนในแต่ละ และคณาจารย์ที่ตั้งใจสอนให้ศิษย์มีความรู้ มีความเท่าเทียมกันทุกคน พูดได้เลยว่าถ้าไม่มี ม.รามคำแหง ก็คงไม่มีปลัดอำเภอคนนี้" "พชรดนัย" หรือ ปลัดนนท์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มาจาก PR Ramkhamhaeng University