"EdTech พันล้าน" ช่วยสร้างLifelong Learning ได้อย่างไร?
โลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงในทุกวินาที มีความท้าทายทุกรูปแบบให้ได้เรียนรู้ "การเรียนรู้ตลอดชีวิต lifelong learning"จึงเป็นสิ่งที่ทุกช่วงวัยต้องทำให้เกิดขึ้นแก่ตนเอง อันนำไปสู่การปรับตัว และพร้อมรับมือเรื่องที่เกิดขึ้น
ตลอดระยะเวลา 16 ปี กลุ่มเลิร์น คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากแพสชันของ "นายสาทร อุพันวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และ นายสุธี อัสววิมล กรรมการบริหาร ฯ หรือ พี่โหน่ง OnDemard" ซึ่งมีเป้าหมายและความเชื่อว่าการเรียนรู้ช่วยทำให้ชีวิตคนดีขึ้น โดย “เลิร์น คอร์ปอเรชั่น” มีพันธกิจหลัก คือ การสร้างEdTech เทคโนโลยีการเรียนรู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคน
นายสาทร กล่าวว่า 16 ปีที่ผ่านมา เราดำเนินการเรื่องการศึกษามาโดยตลอด โดยเฉพาะการส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิต และ EdTech ซึ่งตั้งใจนำนวัตกรรมการศึกษาเข้ามาช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัยดีขึ้น
พร้อมทั้งสนับสนุนให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้จึงต่อยอดธุรกิจจนเกิดเป็น Lifelong Learning EdTech Ecosystem หรืออีโคซิสเต็มส์เพื่อเทคโนโลยีการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด ตอบสนองการเรียนรู้ทุกช่วงวัยและครอบคลุมทุกกลุ่มคนไม่ใช่เฉพาะแค่นักเรียนหรือในสถานศึกษา โดยขณะนี้สามารถเข้าถึงคนแล้วกว่า 2.5 ล้านคนทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
“Degree Plus” EdTech การเรียนรู้ที่มากกว่าปริญญา ตอบโจทย์
StartDee คู่หูการเรียน ตอบโจทย์ "เด็กไทย" สู่การศึกษาในอนาคต
‘เอ็ดเทค’ มิติใหม่ จุดเปลี่ยน การศึกษาในอนาคต
6 เทคโนโลยีพลิกผันมหา'ลัย ยุค 4.0
EcTech พันล้าน พัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ด้วยความเชื่อว่ามนุษย์ต้องมีการเรียนรู้และพัฒนาตลอดชีวิตทำให้ปัจจุบันเลิร์น คอร์ปอเรชั่น ขยายธุรกิจออกเป็น4 กลุ่ม มูลค่าการเติบโตมากกว่า1,000 ล้านบาท ได้แก่
1.Out-School ธุรกิจสอนพิเศษและแนะแนวการศึกษาคือกลุ่มพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาการนอกเหนือจากในห้องเรียนตั้งแต่วัยประถมถึงมัธยมผลักดันให้วัยเรียนก้าวสู่เป้าหมายและมหาวิทยาลัยในฝัน ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านการเรียนต่อในต่างประเทศกับวัยเรียนและวัยทำงาน
โดยมีแพลตฟอร์ม Learn Anywhere แอปพลิเคชั่นเรียนออนไลน์ที่รวบรวมคอนเทนท์จากกลุ่ม Out-School ไว้ในแอพพลิเคชั่นเดียวธุรกิจในกลุ่มนี้ ได้แก่ OnDemand และ lgnite by OnDemand เป็นต้น OnDemand มีการเติบโตทางการตลาดประมาณ 700ล้านบาท
2.Chain School ธุรกิจบริหารโรงเรียนเอกชน คือธุรกิจบริหารและดูแลหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยปัจจุบันมีโรงเรียนสาธิตพัฒนาฝ่ายมัธยมหรือLSP (LEARN Satit Pattana) อยู่ภายใต้การบริหารงานโดยการใช้เทคโนโลยีและคอร์สเรียนคุณภาพจาก เลิร์น คอร์ปอเรชั่น
ควบคู่กับแผนการเรียนตามเป้าหมายรายบุคคลที่ตรงประเด็นเพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสู่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยและทักษะภาษาอังกฤษมาตรฐาน Cambridge International ทำให้โรงเรียนสามารถเพิ่มจำนวนนักเรียนจากหลักตัวเลข 100 เป็น 900 คน ในระยะเวลา3ปี
คาดว่าในปีนี้จะมีนักเรียนกว่า 1,000 คน รวมถึงต้องการเป็นต้นแบบให้แก่โรงเรียนในระบบต่างๆ เพื่อช่วยให้ประเทศดีขึ้น ซึ่งมีตลาดเติบโตปีละ 300 ล้านบาท
ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มทักษะการทำงาน
3.Professional & Skills หรือกลุ่มพัฒนาทักษะการทำงานแห่งโลกอนาคตและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ คือธุรกิจที่มุ่งพัฒนาทักษะใหม่แห่งอนาคตให้กับวัยทำงานหรือผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะตัวเองให้สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานโลก
โดยธุรกิจกลุ่มนี้ได้รับไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำระดับประเทศกว่า 500 แห่งธุรกิจในกลุ่มนี้ได้แก่ Skoodio สอนทักษะสมัยใหม่ๆ ให้แก่กลุ่มคนรุ่นใหม่ และบริษัทเอกชน และ Degree Plus แพลตฟอร์มรวบรวมทุกมหาวิทยาลัย ที่จะทำให้เด็กได้องค์ความรู้ใหม่ๆ เด่นๆ ของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ เป็นต้น ขณะนี้มียอดขายประมาณเกือบ 100 ล้านบาท
4.In-School ธุรกิจผลิตสื่อและเนื้อหาสนับสนุนการสอนในโรงเรียน คือ กลุ่มพัฒนาคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน โดยมี Learn Education ดำเนินงานภายใต้การดูแลของบริษัทด้วยเทคโนโลยี Online Blended Learning Solution หรือการเรียนการสอนออนไลน์แบบผสมผสานที่สามารถให้ผู้เรียนและผู้สอนบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกัน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษามากกว่า 500 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งมีการเติบโตประมาณ 200 กว่าล้านบาท
คาดอัตราการเติบโตEdTech ด้านการศึกษา20%
“ภาพรวมของกลุ่มธุรกิจ EdTech มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งในส่วนของเลิร์น คอร์ปอเรชั่น มีอัตราการเติบโต 3-4 เท่าตัว โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่ม Out-School ที่มีการเติบโตสูงมาก ขณะที่กลุ่ม Chain School และProfessional & Skills มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น และขณะนี้ทาง กลุ่มเลิร์น คอร์ปอเรชั่น ได้การเตรียมยื่นขอจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดการณ์ว่าปีหน้าจะมีการเติบโตประมาณ 20%" นายสาทร กล่าว
นายสาทร กล่าวต่อไปว่ากลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของเลิร์น คอร์ปอเรชั่น เน้นย้ำเรื่องแก่นสำคัญของ EdTech ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่
1.เรื่องคน เราคัดเลือกและส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากร พร้อมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ ตอบสนองความต้องการคนในองค์กรที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ กว่า 90% และให้ความสำคัญกับเรื่องการสื่อสารภายในองค์กรเพื่อประสิทธิภาพด้านทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาผลิตภัณฑ์
2.การเรียนรู้ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น มีทีม Learning Design Technology หรือทีมออกแบบเทคโนโลยีการเรียนรู้ ที่ทำหน้าที่วัดความสำเร็จผู้เรียนและปรับการเรียนรู้เฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด รวมถึงสร้างแรงจูงใจเพื่อผลักดันการเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ
3.เทคโนโลยี ได้เริ่มจากการศึกษาความต้องการและพฤติกรรมของผู้เรียนอย่างละเอียด ก่อนออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นองค์กร ภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษาในระบบ หรือผู้ให้บริการคอนเทนต์ เพราะแพลตฟอร์มที่ดีควรจะมอบประสบการณ์พร้อมการเรียนรู้ที่ดีควบคู่การวัดผลเชิงคุณภาพ
บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรช่น ได้ให้ความสำคัญทั้ง 3 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายด้าน Social Impact หรือการสร้างผลลัพธ์เพื่อสังคม เปลี่ยนแปลงการเรียนรู้และพัฒนาสังคมในวงกว้างด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่เรามี โดยปัจจุบัน 4 กลุ่มธุรกิจ สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม 77 จังหวัด คิดเป็น 500 องค์กร 500 โรงเรียน หรือกว่า 2.5 ล้านคน