สุดช็อก! ครูสาวเข้าเวร ถูกหนุ่มขี้คุกติดยาบุกโรงเรียนข่มขืน ฮึดสู้ลำพัง
เตือนภัยสังคม สุดช็อก! ครูสาวเข้าเวร ถูกหนุ่มขี้คุกติดยาบุกโรงเรียนข่มขืน ฮึดสู้ลำพังจนหนีรอดมาได้ กลายเป็นประเด็นร้อน
กรณีคนร้ายแอบเข้าไปในโรงเรียน หวังข่มขืนครูสาวขณะเข้าเวรตามลำพัง เจ้าตัวขัดขืนถีบคนร้ายหนีออกมาได้ ขณะที่ตำรวจและผู้นำชุมชนเข้ารวบทันควัน พบมีประวัติติดสารเสพติด และเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเองมาแล้ว
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6” โพสต์ภาพในโรงพัก สภ.น้ำพอง พร้อมภาพผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวขึ้นท้ายรถสายตรวจตำรวจ สภ.น้ำพอง พร้อมข้อความระบุว่า “ความปลอดภัยของคุณครูหาได้จากไหน ในเมื่อบ้านพักครูบางแห่งบางพื้นที่ คือจุดอันตรายและไม่มีความปลอดภัยเลย ผู้ใหญ่ในกระทรวงฯเคยคิดจะแก้ปัญหาอะไรไหม
เรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เป็นเรื่องจริง ช่วงเวลา17:30น. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ยิ่งย้ำชัดเจนเลยว่า ความปลอดภัยในโรงเรียน (ขนาดเล็ก) เป็นศูนย์ ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป ความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ตรงไหน
น้องครูผู้ช่วยทักหา ว่ามีคนแปลกหน้ามาในโรงเรียน แล้วถ่ายรูปคนแปลกหน้าให้เราดู เราจึงบอกน้องไป ให้รีบหนีออกจากโรงเรียน ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่โรงเรียน เวลาผ่านไปไม่กี่นาที น้องครูผู้ช่วยโทรหาคล้ายกับขอความช่วยเหลือ พี่อยู่ไหน
มันถามน้องว่าอยู่บ้านพักครูคนเดียวหรอ ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ใกล้โรงเรียนเลย ตอบน้องกับไปว่าพี่อยู่ในเมือง กำลังจะกลับ ตอนนี้มันอยู่ รีบหนีขึ้นรถ หนีออกมาก่อน ลางสังหรณ์ใจไม่ดีแล้ว
ผ่านไปสักพัก แฟนน้องครูผู้ช่วยโทรหาว่าติดต่อแฟนไม่ได้ เลยรบกวนพี่ติดต่อให้หน่อย ทั้งเราและแฟนน้องครูผู้ช่วย พยายามติดต่อน้องครูผู้ช่วย ซึ่งโทรติดแต่ไม่มีใครรับสาย ครูที่โรงเรียนก็โทรมาถาม ไม่นานเลยมีเบอร์แปลกโทรหา ถามว่าครูอยู่ไหน รีบมาโรงเรียน และก็มีชาวบ้านโทรเฟสมาหาให้รีบมา ในใจภาวนาอย่าเป็นอะไรเลย
พอถึงโรงเรียน บริเวณหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยชาวบ้าน ใจก็เสียไปแล้วระดับนึง พอเห็นหน้าน้องครูผู้ช่วยก็ปล่อยโฮ่ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก คนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายขณะที่จะล็อคประตูบ้านพักครูทำร้ายร่างกายน้องครูผู้ช่วยเพื่อหวังจะข่มขืน แต่วิ่งหนีออกจากโรงเรียนมาได้ และได้มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณหน้าโรงเรียน กว่าจะจับคนร้ายได้กินเวลาไปรวมชั่วโมง เพราะอะไรนั้นหรอ
- แจ้งตำรวจไปแล้ว มีตำรวจอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่สามารถจับได้ต้องรอกำลังเสริม
- กำนันมาถึงที่เกิดเหตุขึ้นแล้ว แต่ต้องโทรประสานชมรม
- ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาถึงแล้ว แต่ต้องกลับไปใส่ชุด ถ้าไม่มีชุดไม่สามารถจับคนร้ายได้ (อิหยังวะ)
ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถไปจับคนร้ายได้ ต้องรอตำรวจก่อน ตำรวจพื้นที่สั่งไว้ เดี๋ยวมันเกินกว่าเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นคนร้ายเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง และทำร้ายคนในหมู่บ้านและถูกปล่อยตัวออกมา คนร้ายยังมีพฤติกรรมลักขโมย จนมาก่อเหตุอีกครั้งตำรวจบอกว่าคนเสพยาบ้ามีและบ้ามีเยอะต้องดูแลตัวเองตำรวจจับไม่ไหวหรอก
คำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย… มันมีเยอะมาก
1. เรามีความปลอดภัยของผู้เรียน แล้วความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ไหน ?
2. เลิกมองว่าครูต้องเสียสละ ยิ่งเป็นครูตามชนบทแล้ว ครูคืออาชีพอาชีพนึง
3. โรงเรียนขนาดเล็ก ให้ครูเป็นทุกอย่างไม่ได้ (เราทำทุกอย่างจริงๆ) ก่อนจะยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคืนครูให้ห้องเรียน คืนครูให้ครบชั้นก่อน
4. เรื่องครูอยู่เวร ยังไม่เข้าใจระบบนี้เลย การให้ครูอยู่เวรยาม เกิดเหตุอะไรขึ้นใครจะมารับผิดชอบชีวิตครู มาห่วงแต่ทรัพย์สินทางราชการแต่ไม่ห่วงความปลอดภัยในชีวิตครู เราจะเยียวยายังไง”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์และได้คุยกับทางคุณครู ซึ่งอนุญาตให้นำข้อมูลในเฟซบุ๊กไปเผยแพร่ใช้ในข่าวได้ แต่เนื่องจากต้องขออนุญาตทางผู้อำนวยการโรงเรียนก่อน จึงไม่สามารถให้สัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูลอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่โพสต์ได้ ซึ่งข้อมูลฝั่งครูทั้งหมดอยู่ในโพสต์แล้ว
สอบถามไปยัง พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง ถึงทางคดีทราบว่า หลังรับแจ้งเหตุ วันที่9 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง ได้รับแจ้งจากทางผู้นำชุมชน ว่าได้ล้อมคนร้ายเอาไว้ หลังเข้ามาก่อเหตุพยายามข่มขืนครูผู้ช่วย ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านหนองแวง ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยมีสายตรวจตำบลบัวเงิน และชาวบ้าน ช่วยกันล้อมไว้อีกแรง เพื่อรอกำลังเสริมจากทาง สภ.น้ำพอง
ซึ่งในสายตรวจตำบลและผู้นำชุมชนไปถึง ผู้เสียหายได้ขัดขืนและหลุดออกมาได้อยู่ในที่ปลอดภัย ทางตำรวจและผู้นำชุมชนก็เข้าควบคุมตัวได้ทันควันทันที ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.น้ำพอง และทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบฉี่ม่วง ทราบชื่อคือนายอนุวัฒน์ อายุ 33 ปี ที่อยู่หมู่ 17 บ้านหนองแวง ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
จากการสอบสวนและสืบค้นประวัติทราบว่า นายอนุวัฒน์ เคยจำคุกหลังก่อเหตุเผาบ้านตัวเองเมื่อ 3 ปีก่อน และเพิ่งพ้นโทษออกมาช่วงต้นปี 66 และเมื่อกลับมาบ้านก็เห็นครูผู้ช่วยมาสอนเด็กๆที่โรงเรียนก็เกิดแอบชอบ และมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า นายอนุวัฒน์ ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าไป 3 เม็ด แล้วเข้าไปในโรงเรียน ทำทีเข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหายซึ่งเข้าเวรที่โรงเรียน และเมื่อผู้ก่อเหตุทราบว่าผู้เสียหายอยู่คนเดียวก็พยายามเข้าไปหวังก่อเหตุข่มขืน แต่ถูกผู้เสียหายถีบแล้ววิ่งหลบหนีออกมาได้ โดยมีทางผู้นำชุมชนและสายตรวจตำบลล้อมเอาไว้พร้อมกับรอกำลังสนับสนุนจากทาง สภ.น้ำพอง
โดยทางผู้นำชุมชนและสายตรวจตำบลประเมินสถานการณ์แล้วว่าผู้เสียหายอยู่ในขั้นปลอดภัย ก็ได้ทำการล้อมผู้ก่อเหตุเอาไว้ก่อนจะเข้าควบคุมตัวได้อย่างทันควันพร้อมกับทาง ตำรวจ สภ.น้ำพอง โดยใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที ในการเข้าระงับเหตุควบคุมตัวหลังรับแจ้งเหตุตามยุทธวิธีของตำรวจ และจากการสอบสวนนายอนุวัฒน์ได้ยอมรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา บุกรุกเคหสถาน , กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอนเฟตามีน (ยาบ้า) ก่อนคุมตัวไว้ในห้องควบคุมผู้ต้องหา เตรียมส่งฟ้องศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ตามขั้นตอน