'ค่ายรากแก้ว' ปลูกต้นกล้า จากพี่สู่น้อง เมื่อวิทย์-คณิต อยู่รอบตัวเรา
สานต่อโครงการค่ายวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ 'รากแก้ว' ก้าวเข้าสูปีที่ 32 เสริมทักษะวิชาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม (STEM) เยาวชนไทย ปลูกต้นกล้าความรู้จากพี่สู่น้อง
“ผมตั้งใจให้ค่ายรากแก้วเป็นพื้นที่เปิดโลกการเรียนรู้แบบใหม่ ให้น้องๆ ได้เพลิดเพลินกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในมุมมองที่สนุกกว่าที่เคยผ่านทุกอย่างรอบตัวเรา รวมถึงปลุกแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้รู้จักตนเองมากขึ้น แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับผมเมื่อครั้งยังเป็นน้องค่าย ในฐานะประธานค่ายรากแก้วครั้งที่32 ผมจึงอยากส่งต่อแรงบันดาลใจเหล่านี้สู่น้องๆ รุ่นต่อไป เพื่อสานต่อความตั้งใจนี้จากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่รู้จบแม้ตัวผมจะเรียนจบไปแล้ว”
อุดมการณ์และความมุ่งมั่นที่ถ่ายทอดออกมาจากคำพูดของ น้องฟลุค - นายภาสวิชญ์ บุญนุช อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ เอกวิศวกรรมนิวเคลียร์และรังสี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานค่ายโครงการค่ายวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ 'รากแก้ว' ครั้งที่ 32 ได้สะท้อนถึงความทุ่มเทที่จะสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้น้องๆ มัธยมศึกษาของค่ายรากแก้ว ซึ่งอยู่ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญของการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
โดยตลอดระยะ 5 วัน นอกจากน้องๆ จะได้ใกล้ชิดกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันมากขึ้นผ่านกิจกรรมที่เน้นปฏิบัติการและการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงแล้ว ทุกคนยังได้ค้นพบตัวตนและเส้นทางอาชีพในฝัน พร้อมทั้งได้สร้างสัมพันธ์ใหม่ๆ กับเพื่อนต่างโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งความสำเร็จของค่ายดังกล่าว ได้สะท้อนผ่านแววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจจากน้องๆ สู่พี่ค่าย รวมถึงรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจจากพี่ๆ สู่น้องค่ายรากแก้วทุกคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บูรณาการ STEM Education สู่ของเล่นไม้ สร้างทักษะชีวิต "ศตวรรษที่ 21"
- '3เอ็ม' ตั้งเป้าหนุน ‘สะเต็ม’ (STEM) หวังเพิ่มศักยภาพผู้ขาดโอกาส!
- เด็กรุ่นใหม่เรียนป.ตรีน้อยลง สถาบันการศึกษาดิ้นปรับตัว
ในปีนี้ โครงการค่ายวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ 'รากแก้ว' ที่จัดโดย องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยการสนับสนุนของ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และบริษัทร่วมทุน ประกอบด้วย บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซพลอเรชั่น จำกัด บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และบริษัท พลังโสภณ จำกัด ได้ก้าวเข้าสูปีที่ 32
โดยค่ายรากแก้วมีเป้าหมายเพื่อเสริมทักษะวิชาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม(STEM) ที่เป็นองค์ความรู้สำคัญต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต ซึ่งความโดดเด่นของค่ายดังกล่าวไม่เพียงแต่ชี้ให้เยาวชนเห็นถึงประโยชน์ของวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ใกล้ตัวเท่านั้น แต่ยังแฝงกิจกรรมที่ฝึกทักษะแก้ปัญหาและเสริมความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมกันอีกด้วย โดยค่ายครั้งนี้ได้จัดขึ้น ณ โรงเรียนแหลมสิงห์วิทยาคม 'อาทรสังขะวัฒนะ 4 อุปถัมภ์' จังหวัดจันทบุรี มีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าร่วมถึง 200 คน พร้อมพี่เลี้ยง 60 คนจากกลุ่มนิสิตพี่เลี้ยงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่คอยมอบความรู้ปนความสนุก และดูแลน้องๆ ตลอด 5 วัน
แม้สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้ค่ายรากแก้วต้องงดไปถึง 3 ปี และทำให้ระยะเวลาค่ายปีนี้ต้องลดลงจาก 8 วันเหลือ 5 วัน แต่นิสิตที่ร่วมจัดค่ายทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท พร้อมได้คัดสรรกิจกรรมไฮไลท์จากทุกปีรวมไว้ในค่ายครั้งนี้ให้น้องๆ ได้ความรู้วิชาการพร้อมความสนุกจากกิจกรรมสันทนาการอย่างเต็มที่
น้องฟลุค ได้เล่าถึงกิจกรรมไฮไลท์ในค่ายว่า กิจกรรมของเราค่อนข้างครอบคลุมหลายศาสตร์ในแง่วิชาการ แต่เราก็ตั้งใจแทรกกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์ในด้านอื่นๆ ให้น้องๆ เข้าไปด้วย เช่นการแนะแนวอาชีพและกิจกรรมสันทนาการ เพราะถ้าเราเรียนให้สุด เราก็ต้องเล่นให้สุดเช่นกันเพื่อให้น้องๆ สนุกกับทุกช่วงเวลาในค่ายนี้ โดยกิจกรรมหลักด้านวิชาการของเราคือห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่ให้น้องๆ ลองใช้อุปกรณ์จริงที่พี่ค่ายได้เตรียมมา ซึ่งไฮไลท์จะเป็นช่วงที่ให้น้องๆ ได้ทดลองสกัด DNA จากเซลล์เยื่อบุของสัตว์
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม 4 ฐานมหัศจรรย์และคณิตคิดสนุกที่นำบริบทของโลกในชีวิตจริงและสถานการณ์ต่างๆ รอบตัวมาอธิบายให้น่าสนใจขึ้นผ่านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แบบที่หลายคนนึกไม่ถึง เช่นเรื่องการสุ่มของกับความน่าจะเป็น เพื่อเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับวิชาเหล่านี้ให้น่าสนใจและใกล้ตัวมากขึ้นครับ อีกด้านทางฝั่งกิจกรรมนันทนาการ ผมและเพื่อนๆ ได้เตรียมความสนุกแบบครบทุกรสชาติให้น้องๆ อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมกีฬาสี หรือการแสดง Rakkaew tonight โดยที่มีประโยชน์แฝงให้น้องๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ เสริมทักษะทีมเวิร์ค และได้ทำความรู้จักกับเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ ไปพร้อมกัน
ด้าน น้องป้อน - นางสาวชนินาถ ใจอารี อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะครุศาสตร์ เอกคณิตศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พี่เลี้ยงค่ายรากแก้วที่ได้เตรียมงานมาตั้งแต่ก้าวแรกของการจัดค่ายในปีนี้ ได้กล่าวเสริมถึงความประทับใจหลังได้ร่วมจัดค่ายมองว่า น้องๆ ปีนี้กล้าแสดงออกมาก ทั้งการแสดงความคิดเห็น และแสดงภาวะผู้นำผ่านการทำกิจกรรมร่วมกันเป็นทีม โดยในฐานะพี่เลี้ยงค่ายมองว่า ความโดดเด่นของค่ายนี้
นอกจากด้านวิชาการที่อัดแน่นแต่แฝงความสนุกแล้ว ยังเป็นพื้นที่แห่งโอกาสให้น้องๆ ได้ลองทำ และได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ หรือด้านการค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ กิจกรรมที่น้องๆ สนใจมากคือ ตลาดนัดคณะ ที่น้องๆ จะได้พูดคุยกับพี่ๆ จากหลากหลายคณะเพื่อเป็นแนวทางการตัดสินใจเข้ามหาวิทยาลัย และ Career options ที่จำลองอาชีพให้น้องๆ ได้ลองสวมบทบาทปฏิบัติจริง ตั้งแต่ คุณครู สถาปนิก วิศวกร ล่ามภาษามือ ไปจนถึงนักบริหารโครงการ อีกทั้งยังมีไฮไลท์เด่นจากพี่ๆ เชฟรอนมาแนะนำอาชีพที่เกี่ยวกับด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมมาแชร์ประสบการณ์ทำงานจริงอีกด้วย
ในฐานะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการตัดสินใจที่สำคัญ ค่ายรากแก้วถือเป็นกุญแจเพื่อค้นหาคำตอบในการเลือกเส้นทางอนาคตมากขึ้น น้องโชกุน - นายภัทรพล นาคสกุล อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแหลมสิงห์วิทยาคม จังหวัดจันทบุรี ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ได้จากค่ายว่า รู้จักค่ายนี้จากการที่พี่ๆ ได้มาแนะนำค่ายที่โรงเรียน ซึ่งผมอยู่ในช่วงที่กำลังต้องตัดสินใจเรื่องมหาวิทยาลัยพอดี โดยแม้จะรู้ว่าตัวเองชอบวิชาวิทย์คณิต แต่ก็อยากหาตัวเองให้ชัดขึ้น การได้เข้าค่ายนี้ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของผม โดยเฉพาะการที่ได้คุยกับพี่ค่ายเกี่ยวกับเส้นทางในอนาคต ไปจนถึงได้คุยกับพี่ๆ เชฟรอนเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงของการทำงานจริง
โดยส่วนตัวผมสนใจสาขาวิศวกรรมปิโตรเลียมและวิศวกรรมระบบควบคุมอยู่แล้ว ผมมองว่าค่ายนี้ให้หลายสิ่งมากกว่าความรู้ โดยไม่ได้เน้นแต่เพียงวิชาการอย่างเดียว แต่เราได้ทั้งคอนเน็กชันเพื่อคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากทั้งเพื่อนๆ และพี่ๆ ซึ่งไม่ได้หาโอกาสนี้ง่ายๆ ในห้องเรียนเราอาจจะได้ความรู้แบบหนึ่ง แต่ค่ายนี้เน้นทั้งปฏิบัติและการนำไปใช้ในชีวิตจริง ทำให้ผมรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากขึ้น
ด้าน นางสาวพรสุรีย์ กอนันทา รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวปิดท้าย ถึงการสานต่อพันธกิจด้านการศึกษาว่า เชฟรอน เล็งเห็นว่าสะเต็มศึกษาจะเป็นทักษะสำคัญของการขับเคลื่อนนวัตกรรมและพัฒนาประเทศชาติให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกศตวรรษที่ 21 ดังนั้น ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เราจึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพลังคนผ่านการสร้างรากฐานการศึกษาที่แข็งแกร่ง โดยโครงการค่าย วิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ รากแก้ว ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญซึ่งเชฟรอนได้ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 25 รวมถึงมีนักเรียนทั่วประเทศที่ผ่านการอบรมจากค่ายนี้ไปแล้วกว่า 5,200 คน
"โดยนอกจากค่ายนี้จะเป็นโอกาสให้น้องๆ ได้วิชาความรู้และประสบการณ์ตรงจากพี่ๆ เพื่อกลับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้แล้ว เรายังได้เห็นว่ามีน้องๆ ที่ผ่านการอบรมจากค่ายนี้หลายคนตั้งใจกลับมาเป็นพี่เลี้ยงจิตอาสาเพื่อส่งต่อความรู้สู่น้องๆ รุ่นต่อไป สะท้อนการถ่ายทอดความรู้ เจตนารมณ์และแรงบันดาลใจจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจและเป็นพลังสานต่อความมุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ ในทุกๆ ปี เรามีอาสาสมัครพนักงานเชฟรอนมาเข้าร่วมในกิจกรรมแนะแนวอาชีพให้กับน้องๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งของเรา ที่พนักงานจะเข้าร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมเมื่อมีโอกาสอีกด้วย"
การปลูกต้นกล้าความรู้สร้าง 'รากแก้ว' ที่แข็งแกร่งให้เยาวชน เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของค่ายรากแก้วที่มุ่งเพาะเมล็ดพันธุ์การศึกษาให้เติบใหญ่แผ่กิ่งก้านใบสู่ต้นกล้าน้อยๆ ต่อไป โดยเจตนารมณ์ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้แปรเปลี่ยนเป็น 'พลัง' เพื่อวันใหม่ของการศึกษาไทยในอนาคต