สถานทูตญี่ปุ่นส่งมอบอาคารเรียน จ.พังงา

สถานทูตญี่ปุ่นส่งมอบอาคารเรียน จ.พังงา

สถานทูตญี่ปุ่นมอบอาคารเรียนตามโครงการก่อสร้างอาคารเรียนเพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยง ในจ.พังงา ตอกย้ำพันธกิจรัฐบาลญี่ปุ่นยินดีสนับสนุนโครงการส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ต่อไป

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. อัครราชทูตโอบะ ยูอิจิรองหัวหน้าคณะผู้แทนการทูต สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายอุเมะโนะจาก NPO (องค์การไม่แสวงหาผลกำไร) “The Flower of a Dream Association” นายอิกุจิ ประธานบริษัทจากบริษัท คอลลีน เพนซิล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ศาสตราภิชาน แล ดิลกวิทยรัตน์ ประธานมูลนิธิการศึกษาเพื่อการพัฒนา และนายทรูชิต ผู้อำนวยการมูลนิธิฯ ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ จังหวัดพังงา 

จังหวัดพังงานมีแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาราว 100,000 -150,000 คน แม้ว่าเด็กจะมีสิทธิเข้าเรียนโรงเรียนของรัฐบาลในประเทศไทยก็ตาม มีเด็กจำนวนมากที่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้เนื่องจากปัญหาทางด้านภาษาและอคติของสังคมที่มีต่อชาวเมียนมา ทำให้โรงเรียนปฏิเสธการรับเด็กเข้าเรียน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มูลนิธิการศึกษาเพื่อการพัฒนา ศูนย์การเรียนรู้ Unified Learning Center (ULC) จัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นการศึกษาปฐมวัยจนถึงการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยหลักสูตรที่จัดสอนได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการเมียนมา แม้ว่านักเรียนจะสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แต่ก็ไม่สามารถสมัครงานได้ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทางมูลนิธิฯ วางแผนขยายโอกาสทางด้านการศึกษา ที่จะสามารถทำให้นักเรียนสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อมุ่งเน้นการสมัครงาน

อย่างไรก็ตาม จำนวนห้องเรียน ณ ปัจจุบันไม่เพียงพอ นอกจากนี้ จากสถานการณ์ตึงเครียดภายในประเทศเมียนมาทำให้จำนวนแรงงานข้ามชาติเมียนมาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้สมัครเข้าเรียนกับมูลนิธิฯ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนเกินความจุของชั้นเรียน โรงอาหารและห้องสมุดจึงถูกปิดและใช้เป็นห้องเรียนแทน

จากสถานการณ์เหล่านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงสนับสนุนการสร้างอาคารเรียนตึกใหม่แก่มูลนิธิการศึกษาเพื่อการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ULCซึ่งจะทำให้นักเรียนสามารถเรียนจบจนถึงการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รวมทั้งให้การใช้ห้องสมุด โรงอาหาร ชั้นอนุบาลนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยให้การสนับสนุนผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ 

จากการสนับสนุนครั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีความคาดหวังว่า จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติหรือถิ่นเกิด และเกิดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กและนักเรียนในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสม

ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยินดีให้การสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ต่อไป