สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี ปี 2 ส่งเสริม 'เด็กไทย' สุขภาพดี 4 ด้าน
เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ และ DEPA เดินหน้า โครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี AIA Healthiest Schools มอบสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย ยกระดับให้นักเรียนและชุมชนรอบๆ มุ่งเน้นให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพทั้ง 4 ด้าน
KEY
POINTS
- เด็กไทยจำนนวนกว่า 37% ทานผักในปริมาณที่ไม่เหมาะสม 75% ออกกำลังกายไม่เพียงพอ 11% มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
- ด้านสุขภาพจิต พบว่า กว่า 28% มีภาวะเครียด 32% มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า จากการแข่งขัน รวมไปถึงสภาวะแวดล้อมต่างๆ ซึ่งถือว่าต้องเร่งแก้ไข
- เอไอเอ ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ และ DEPA เดินหน้า โครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี มอบสื่อการเรียนรู้ ยกระดับนักเรียน ชุมชนรอบๆ มุ่งเน้นให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพทั้ง 4 ด้าน
ข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พบว่า เด็กไทยจำนนวนกว่า 37% ทานผักในปริมาณที่ไม่เหมาะสม 66% ทานผลไม้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ขณะเดียวกัน เด็กไทยกว่า 75% ออกกำลังกายไม่เพียงพอ 11% มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
นอกจากนี้ ปัญหาสุขภาพจิต ข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิต พบว่า กว่า 28% มีภาวะเครียด 32% มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า นักเรียนมีภาวะเครียดจากการแข่งขัน รวมไปถึงสภาวะแวดล้อมต่างๆ ซึ่งทำให้มีผลและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า ต้องเร่งแก้ไข
การเสริมสร้างพฤติกรรมด้านสุขภาพที่ดีให้กับเด็กในวันนี้ คือ การดูแลให้เด็กๆ ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีต่อไปในอนาคต เพราะโรงเรียน เปรียบเสมือบ้านหลังที่สอง และมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยปลูกฝังให้เด็กๆ มีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่ใช่แค่สุขภาพกายเท่านั้น แต่รวมไปถึงสุขภาพใจ และสิ่งแวดล้อมด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ช่วยเพิ่ม GDP ประเทศได้
- การศึกษาในยุคเทคโนโลยี AI ที่จะไม่เหมือนเดิม
- อนาคตของการเรียนรู้ AI 'ปฏิวัติการศึกษา 4.0' ยั่งยืนอย่างไร
โครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี
ในปี 2022 เอไอเอ ประเทศไทย ได้ริเริ่มโครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี AIA Healthiest Schools ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ซึ่งมีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา และ ระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการมากถึง 500 โรงเรียน
และในปีนี้ มีโรงเรียนส่งโครงการเข้าประกวด ปีที่ 2 มากถึง 91 โครงการ โรงเรียนสมัครเข้าร่วมมากกว่า 600 โรงเรียน อีกทั้ง ยังได้นำสื่อการเรียนการสอนโครงการไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างจริงจัง และสามารถส่งเสริมนักเรียนรวมถึงชุมชนโดยรอบ ทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ โภชนาการ และการพัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
สุขภาพดี ทั้ง 4 ด้าน
สำหรับ โครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี เป็นโครงการที่มอบสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย แบบไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับครูผู้สอนโรงเรียนในเอเชียและออสเตรเลีย ให้สามารถดาวน์โหลดสื่อการเรียนรู้ ทั้งในรูปแบบคลิปวิดีโอ แบบฝึกหัด รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ให้นักเรียนสามารถร่วมสนุกได้ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน เพื่อช่วยให้เด็กที่มีอายุระหว่าง 5-16 ปี ได้เรียนรู้วิธีที่จะมีสุขภาพที่ดี วางแผนเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อยกระดับให้นักเรียนและชุมชนรอบๆ โรงเรียนมีสุขภาดีและความสุขมากยิ่งขึ้น มุ่งเน้นให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
ด้านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
มุ่งเน้นปลูกฝังให้เด็กนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักประโยชน์ของผัก ผลไม้ อาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงนักเรียนมีส่วนร่วมและเรียนรู้ ผ่านสื่อการสอนของโครงการ นำไปสู่การปฏิบัติจริง เช่น การหาวิธีปรุงอาหารในลักษระต่างๆ ให้น่ารับประทาน และทำให้นักเรียนรับประทานง่ายขึ้น ส่งผลให้จำนวนอาหารเหลือทิ้งในโรงเรียนน้อยลง นักเรียนรับประทานอาหารได้มากขึ้น มีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้น
ด้านการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง
เทคโนโลยีในปัจจุบันก้าวเข้ามาในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้นักเรียนขยับร่างกายน้อยลง อาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเนือยนิ่ง ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายด้าน โดยทำให้กระบวนการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลเป็นพลังงานลดลง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น โครงการฯ มุ่งเน้นให้นักเรียนขยับร่างกายมากขึ้น สนุก รู้จักการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ มีวิธีการสอน สนับสนุนให้นักเรียนขยับหลากหลาย เพื่อให้สุขภาพดี
ด้านการมีสุขภาพใจที่ดี
โครงการฯ มุ่งหวังและสนับสนุนให้นักเรียนรู้จักความรู้สึกของตัวเอง และรู้จักวิธีการจัดการกับความรู้สึกนั้นๆ รวมไปถึงใช้สื่อการสอนเป็นตัวช่วยสำหรับคุณครู เพื่อให้นักเรียนสนุกไปกับการเรียนรู้อารมณ์และจิตใจของตัวเอง เพื่อลดสภาวะความเครียดของนักเรียนที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวและมีสุขภาพใจที่ดีต่อไปในภายหน้า
ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน
โครงการฯ ได้นำสื่อการสอนที่มุ่งหวังให้นักเรียน ครู รวมไปถึงผู้ปกครอง ได้รู้จักวิธีการช่วยสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนได้ ร่วมศึกษาเหตุผลของการดูแลรักษาโลกเพื่อการมีสุขภาพที่ดี กระตุ้นให้นักเรียนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ ไม่เพียงแค่ที่โรงเรียน แต่ยังนำกลับมาใช้ที่บ้าน เพื่อให้สิ่งแวดล้อมของโลกดีขึ้นอย่างยั่งยืน
รางวัลชนะเลิศ รับรางวัลมูลค่า 3.5 แสนบาท
โรงเรียนที่ได้ รางวัลชนะเลิศระดับประถมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 2 วัดดอนมูลชัย จ.ตาก จากการดำเนินโครงการ Change for Good ที่นำสื่อการเรียนรู้จากโครงการฯ ไปประยุกต์ใช้เพื่อให้นักเรียนและชุมชนรอบๆ โรงเรียนมีสุขภาพดี และมีความสุขมากยิ่งขึ้น ผ่านโครงการต่างๆ เช่น กิจกรรมอารยเกษตร กิจกรรมลานธรรม ลานปัญญา มุ่งพัฒนาจิตใจ ด้วยหลักธรรมทางศาสนา และศูนย์ทรัพยากรคืนชีพ ที่นำขยะมาใช้ประโยชน์ได้ด้วยการคัดแยกขยะมากกว่า 30 ประเภท
สำหรับ รางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1 กิตติขจร จ.ตาก โดยใช้สื่อการเรียนรู้จากโครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี เพื่อจัดกิจกรรม รวมถึงโครงการที่โรงเรียนริเริ่มขึ้น ได้แก่
- B1 Better Food ที่ใช้เมนู Thai School Lunch และจัดอาหารกลางวัน และนมให้นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ
- B2 Better Health ใช้แอปพลิเคชั่นก้าวท้าใจ ส่งเสริมการออกกำลังกาย
- B3 Better Mind ให้นักเรียนเลือกเรียนสิ่งที่ใช่ ถูกใจสิ่งที่ชอบ จาก 17 หลักสูตร
- B4 Better Surrounding ให้นักเรียนดูแลพื้นที่รับผิดชอบคัดแยกและรีไซเคิลขยะ
- B5 Better Model ขยายผลสู่ครอบครัวและชุมชน
โรงเรียนต้นแบบ
ที่ผ่านมา โครงการฯ ได้จัดทำโรงเรียนต้นแบบ ซึ่งได้แก่ โรงเรียนราชวินิตประถม บางแค เป็นโรงเรียนต้นแบบในระดับประถมศึกษา และ โรงเรียนเกษมพิทยา เป็นโรงเรียนต้นแบบในระดับมัธยมศึกษา โดยทางเอไอเอ ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 4 ด้น มาเป็นวิทยากรให้กับโรงเรียน ได้แก่ ด้านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดย เชฟเจเรมี่ ซีเมียน กรรมการตัดสินในรายการ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย
ด้านการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง โดย สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ อดีตนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย
“กิจกรรม คือ ดูแลในเรื่องของการให้ความรู้แบดมินตันเบื้องต้น ตอนแรกกลัวว่าเด็กบางคนไม่ชอบกีฬา ไม่ชอบออกกำลังกาย แต่พอได้นำสื่อการเรียนการสอนเข้าไป ก่อนที่จะทำการสอนทักษะเบื้องต้น ให้วอร์มอัปร่างกาย โดยใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ลูกเทนนิส โยนลูกเทนนิสแข่งกัน กระโดดข้ามกรวย ทำให้เด็กมีความสนใจมากขึ้น ทำให้รู้ว่าภารกิจสำเร็จในระดับหนึ่งที่ทำให้เด็กสนุกและมีความสุขไปด้วย อีกทั้งครูสามารถต่อยอดหลังจากที่เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะเบื้องต้นต่อไปได้ ในฐานะนักกีฬามาก่อน มองว่า ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน หากมีร่างกายไม่แข็งแรง สิ่งเหล่านี้เราก็จะใช้ได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น แค่ขยับ ก็ร่างกายแข็งแรงและสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ด้านสุขภาพใจที่ดี โดย มุนิน สายประสาท นักเขียนการ์ตูนเชิงจิตวิทยา เจ้าของสำนักพิมพ์ 10 มิลลิเมตร
“สื่อการสอน เป็นการให้เด็กวาดรูปสีหน้าอารมณ์บนลูกเต๋าแต่ละด้าน ไม่ว่าจะ สนุก ดีใจ เสียใจ โกรธ ฯลฯ ทำให้เห็นว่าเขาจะรู้สึกต่างกัน เช่น เบื่อ เขิน อิจฉา ฯลฯ ให้เด็กๆ ได้ทบทวนความรู้สึกตัวเอง และได้ลองเขียนมันออกมา ซึ่งช่วยให้เขามีสมาธิมากขึ้น เป็นกิจกรรมที่สนุก และช่วยในเรื่องสุขภาพจิต อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างกิจกรรมที่ Connect กับเด็กๆ ครูเอง หากมีสื่อการสอน ก็สามารถเติมความคิดสร้างสรรค์ เสริมเข้าไปได้อีกด้วย”
ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน โดย วิลาวัณย์ ปานยัง ทูตเยาวชน On Young World Ambassador ในการประชุมสุดยอดผู้นำรุ่นใหม่ระดับโลก On Young World Summit 2019 หนึ่งในผู้ก่อตั้งเพจ Environman
“ความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งสำคัญ ส่งผลต่อเด็กๆ การนำเอาสื่อไปใช้ มีการให้เด็กได้เขียนว่าตัวเขาอยากจะดูแลโลกอย่างไร แยกขยะ ตั้งเป้าอย่างไร ซึ่งเด็กๆ ให้ความร่วมมือมาก และเราสอนในเรื่องการแยกขยะ รู้จักประเภทขยะ และกลับมาเป็นเงินได้อย่างไร ผลคือเด็กๆ ให้ความร่วมมือ โดยให้เด็กลองหาขยะในโรงเรียน บางคนหาอะไรไม่ได้ ก็ขอครู พอได้ลองแชร์ให้ฟัง ให้เข้าใจว่าขยะไม่ใช่สิ่งสกปรกและไกลตัว ซึ่งเด็กๆ ค่อนข้างสนใจในเรื่องนี้ และคาดหวังว่าในอนาคตเด็กโตขึ้นไปจะจัดการขยะได้มากขึ้น โครงการนี้ทำให้เด็กรู้ว่าสุขภาพที่ดีไม่ใช่แค่กาย แต่รวมไปถึงใจ และสิ่งแวดล้อม หากโรงเรียนทั่วประเทศเข้าร่วมเพิ่มขึ้น มองว่าเป็นเรื่องดี”
ชยพง สายฟ้า รองผู้อำนวยการโรงเรียนเกษมพิทยา เผยว่า การสร้างเด็ก สร้างสุขภาพที่ดี การรักษาสิ่งแวดล้อม และความเครียดโดยใช้ศิลปะการวาดรูปเข้ามาช่วย เด็กและนักเรียนสนุกมากเพราะได้เจอพี่ๆ ที่แชร์ประสบการณ์ แรงบันดาลใจให้น้องๆ
กิจกรรมกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ผลที่คาดไว้เกินคาด นักเรียนได้เปลี่ยน Mindset พฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่น การออกกำลังกาย หลังเลิกเรียน แทนที่จะกลับบ้าน หรือเล่นมือถือ เกมออนไลน์ แต่กลายเป็นหันมาออกกำลังกาย ในสิ่งที่ตนเองถนัด บางคนชอบฟุตบอล บาสเกตบอล แบตมินตัน หลังเลิกเรียนจะเห็นเด็กๆ สนุกกับการเล่นกีฬาก่อนกลับบ้าน
“ขณะที่ การคัดแยกขยะ น้องๆ หลายคนเริ่มตระหนักว่าเราจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ชักชวนเพื่อนๆ บริหารจัดการขยะ แยกขยะ หรือแม้แต่เรื่องใจ เด็กๆ สนุกในการได้วาดรูป ในส่วนของโรงเรียนได้ผลเกินคาด และดีใจที่โรงเรียนอื่นๆ ได้เข้าร่วม ได้สัมผัสกับกิจกรรมเหล่านี้”
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งส่งเสริมและปลูกฝังพฤติกรรมต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพของเยาวชนไทยอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่สอดคล้องกับนโยบายเป้าหมายทางการศึกาภายในประเทศของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ยังส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชน ที่ส่งเสริมด้านสุขภาพ และการศึกษา จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อเยาวชนของประเทศชาติได้อย่างแท้จริง
ด้าน นิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า เอไอเอ จะยังคงเดินหน้าส่งเสริมสุขภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง การมีสุขภาพใจที่ดี และการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตลอดทั้งมอบความรู้ผ่านสื่อการสอนให้แก่นักเรียน คุณครู ผู้ปกครอง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไป