ชูนวัตกรรม "เครื่องดักจับควันบุหรี่"ลดพฤติกรรมเสี่ยงสูบบุหรี่

ชูนวัตกรรม "เครื่องดักจับควันบุหรี่"ลดพฤติกรรมเสี่ยงสูบบุหรี่

สสส.สัญจร วิทยาลัยเทคนิค กฟผ.แม่เมาะ ชูนวัตกรรม “เครื่องดักจับควันบุหรี่” ช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา ทวงคืนพื้นที่ปลอดภัย สร้างอากาศสะอาด สิ่งแวดล้อมดีในรั้วสถานศึกษา  

เมื่อเร็วๆนี้ วิทยาลัยเทคนิค กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน  ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมโครงการนวัตกรรมตรวจจับควันบุหรี่ในสถานศึกษา ภายใต้โครงการพัฒนาเครือข่ายและหนุนเสริมศักยภาพครูและแกนนำนักเรียนอาชีวศึกษา ป้องกันปัจจัยเสี่ยง (เหล้า บุหรี่) ในสถานศึกษา ชูต้นแบบสถานศึกษาใช้นวัตกรรมแก้พฤติกรรมเสี่ยง

น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า โครงการพัฒนาเครือข่ายและหนุนเสริมศักยภาพครูและแกนนำนักศึกษาอาชีวศึกษาป้องกันปัจจัยเสี่ยง (เหล้า บุหรี่) ในสถานศึกษา ซึ่ง สสส. เป็นผู้สนับสนุนให้มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ดำเนินโครงการในวิทยาลัยอาชีวศึกษา 45 แห่ง ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

ล่าสุด ในมีการจัดเวทีถอดบทเรียน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของครูและนักศึกษาแกนนำที่ได้เข้าร่วมอบรมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย ก่อนที่จะนำองค์ความรู้ลงไปพัฒนาต่อยอดในวิทยาลัยและชุมชนของตัวเอง ซึ่งผลงานของวิทยาลัยเทคนิค กฟผ.แม่เมาะ ที่มีการคิดค้นอุปกรณ์ตรวจจับควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ถือว่าน่าชื่นชมในฝีมือ และแนวคิดที่สร้างสรรค์ และความตั้งใจที่จะช่วยให้สถานศึกษาเป็นพื้นที่ปลอดควันและปลอดภัย เชื่อว่าจะนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดได้ในอนาคต 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ไทยค่าใช้จ่ายโรคNCDsกว่า 130,000 ล้าน ดึงซอฟต์พาวเวอร์จังหวัดลดเสี่ยงโรค

สอศ.-สสส ถอดบทเรียน หนุนครู-นักเรียนอาชีวะป้องกันเหล้า บุหรี่ในสถานศึกษา

"บุหรี่ไฟฟ้า" ต้นทางการสูบบุหรี่และเสพติดนิโคติน

“สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุด ในกลุ่มเด็กและเยาวชน คือ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นต้นทางของการสูบบุหรี่และการเสพติดนิโคตินของเด็กและเยาวชน งานวิจัยพบว่าเด็กที่ได้ลองสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเริ่มสูบบุหรี่ธรรมดามากกว่าเด็กที่ไม่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 4-5 เท่า ขณะที่เด็กจะมีพฤติกรรมการสูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวนเพิ่มเป็น 7 เท่า ที่สำคัญบุหรี่ยังนำไปสู่การใช้สารเสพติดชนิดอื่นอีกด้วย” น.ส.รุ่งอรุณ กล่าว

น.ส.รุ่งอรุณ ยังกล่าวอีกว่า จากผลสำรวจการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทย ปี 2565 โดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา พบว่า นักเรียนอายุ 13-15 ปี จำนวน 6,752 คน ในโรงเรียน 87 แห่ง สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 17.6% หรือ 5.3 เท่า โดยกลยุทธ์ทางการตลาดของอุตสาหกรรมยาสูบ

โดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์มุ่งเน้นไปที่เด็กและเยาวชนมากขึ้น มีการพบเห็นโฆษณาและการส่งเสริมการขายทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 48 ในปี 2565 และ นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อบุหรี่ซองและบุหรี่ไฟฟ้าที่มีรสชาติ โดย ร้อยละ 31.1 เห็นด้วยว่าทำให้สูบง่ายกว่าบุหรี่ธรรมดา และร้อยละ 36.5 เห็นด้วยว่าจะทำให้เด็กและวัยรุ่นสนใจการสูบมากขึ้น ซึ่งทั้งบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้ามี ‘สารนิโคติน’ ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาของสมองทำให้เกิดการเสพติด และอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้ายังมีมากกว่าบุหรี่ธรรมดา

ชูนวัตกรรม \"เครื่องดักจับควันบุหรี่\"ลดพฤติกรรมเสี่ยงสูบบุหรี่

วิจัยชี้เด็กอายุ 15-20 ปี ถูกชักจูงได้ง่าย

เนื่องจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีอันตรายเกือบ 2,000 ชนิด และนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้ามีปริมาณสูงกว่าบุหรี่ธรรมดา เมื่อสูบแล้วจะเป็นไอละอองฝอยเทียบเท่าฝุ่น PM 2.5 ที่สามารถทะลุทะลวงเข้าไปทำลายสุขภาพปอดและระบบทางเดินหายใจและหลอดเลือด และยังมีฤทธิ์กระตุ้นการเสพติดง่ายขึ้น เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

นายสุทธิพงษ์ ตุ้ยเต็มวงค์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายแผนงานและความร่วมมือและฝ่ายกิจการนักเรียนนักศึกษา วิทยาลัยเทคนิค กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง กล่าวว่า จากภารกิจหน้าที่จะดูแลในเรื่องของงานปกครอง ซึ่งเป็นหัวใจหลักและเป็นหัวใจสำคัญที่ดูแลนักเรียนนักศึกษาให้มีความประพฤติและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ชูนวัตกรรม \"เครื่องดักจับควันบุหรี่\"ลดพฤติกรรมเสี่ยงสูบบุหรี่

สำหรับปัญหาในกลุ่มวัยรุ่นช่วงอายุประมาณ 15 - 20 ปี ตามที่มีงานวิจัยจากหลายสถาบัน ออกมาว่าเด็กกลุ่มนี้จะถูกชักจูงได้ง่ายประกอบกับปัญหาสังคม ปัญหาการหย่าร้างของผู้ปกครอง ทำให้เด็กเหล่านี้ต้องการหาที่พึ่งพิง หรือหา Safe zone ที่เหมาะสำหรับตัวเองได้ค่อนข้างยาก และเด็กในช่วงวัยนี้จะเริ่มติดเพื่อน เมื่อถูกเพื่อนชักจูงหรือชักชวนไปไหน ทำอะไร เขาก็จะเชื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่วิทยาลัยต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ และจากปัญหาที่พบในวิทยาลัย จะเป็นเหล้า บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ได้กําหนดนโยบาย ออกประกาศ

โดยมีการกำหนดบทลงโทษกรณีพกพาเข้ามาในสถานศึกษา ทั้งตัดคะแนนความประพฤติ คะแนนกิจกรรม และถูกตรวจยึดเพื่อนําไปมอบให้กับสถานีตำรวจ เพื่อนำไปการทำลายต่อไป ส่วนนักเรียนเราก็จะมีการส่งบำบัด และหากพบเจอปัญหายาเสพติดใน เช่น ยาบ้ายาไอซ์ ยาอี กัญชา จะส่งบำบัดกับโรงพยาบาลแม่เมาะ ซึ่งเราเป็นเครือข่ายกัน

ชูนวัตกรรม \"เครื่องดักจับควันบุหรี่\"ลดพฤติกรรมเสี่ยงสูบบุหรี่

“โครงการ สสส. ที่เข้ามามีส่วนช่วยในการเพิ่มความรู้ ให้กับทั้งครู ผู้บริหาร และเด็กนักเรียนให้เกี่ยวกับเรื่องของสิ่งเสพติด สิ่งมึนเมา เหล้า บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และสารเสพติดต่าง ๆ สร้างความตระหนักให้เด็ก ๆ ได้ดีมากนะครับ แล้วก็ทำให้ช่วยลดในเรื่องของการตรวจค้นพบเจอน้อยลง ตั้งแต่ สสส. เข้ามามีส่วนช่วยในการรณรงค์ และอยากฝากถึงนักเรียนนักศึกษาที่กําลังหัดสูบ หรือว่ากําลังจะเลิก ขอเป็นกําลังใจให้หลีกเลี่ยงและหลุดพ้นจากวงจรการใช้บุหรี่ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และสารเสพติดพวก เพราะสารที่ทำให้เสพติดพวกนี้ ต้องใช้กําลังใจ และก็ขอเป็นแรงใจทำให้นักเรียนทุกคนปลอดภัย” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายพัสกร วงศ์ปัญญาวุธ หัวหน้าแผนกวิชาช่างกลโรงงาน ครูแกนนำ กล่าวว่า จากการเข้าร่วมกิจกรรม ได้ให้แกนนํานักศึกษาทำเป็นนวัตกรรม “เครื่องตรวจจับควันบุหรี่” ไปติดตั้งในจุดอับ จุดที่อาจจะไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ง่าย เช่น ในห้องน้ำ หรือตามมุมตึกต่าง ๆ แต่ปัญหาก็จะอาจจะมีอยู่บ้าง ซึ่งนวัตกรรมนี้เป็นนวัตกรรมที่คิดขึ้นมาใหม่ ยังไม่มีใครทำ แน่นอนว่า ความเสถียรภาพอาจจะยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ อาจมีติดปัญหาบ้าง

โดยเฉพาะเรื่องของสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพราะว่าจะใช้แอปพลิเคชัน ที่ใช้ในการรายงานการตรวจจับควันบุหรี่ ส่งข้อความไปที่ในแอปพลิเคชันที่สมาร์ทโฟน และการถูกขโมยเครื่องบ้าง ซึ่งทางวิทยาลัยต้องระวังเป็นพิเศษ และปัญหาที่พบอีกอย่าง คือ ความต่อเนื่อง เนื่องจากนักศึกษากลุ่มที่เป็นแกนนําที่ไปอบรมมา ในปีการศึกษาที่ผ่านมา ซึ่งในปีการศึกษานี้นักศึกษาออกไปฝึกงาน ทำการดำเนินงานค่อนข้างจะลำบาก ซึ่งอาจต้องมีการสร้างเครือข่ายแกนนำรุ่นน้องต่อไป

ชูนวัตกรรม \"เครื่องดักจับควันบุหรี่\"ลดพฤติกรรมเสี่ยงสูบบุหรี่
 
นายชิษณุพงค์ วงค์เรือน นักศึกษาชั้น ปวส. 2 นักศึกษาแกนนำวิทยาลัยเทคนิค กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง กล่าวว่า ที่วิทยาลัยได้จัดทำสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมตรวจจับควันบุหรี่ในสถานศึกษาโดยติดตั้ง 10 จุดในสถานศึกษา ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแอบลักลอบสูบ โดยจะมีการแจ้งเตือนพิกัดผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ของครูฝ่ายปกครองและนักศึกษาแกนนำ โดยความพิเศษของนวัตกรรมตรวจจับควัน คือจะไม่ดักจับควันที่เกิดจากการเผาไหม้อย่างอื่น แต่จะจับเฉพาะควันบุหรี่ ซึ่งส่งผลให้นักศึกษาในวิทยาลัยลดพฤติกรรมสูบลงไปได้อย่างมาก 

ชูนวัตกรรม \"เครื่องดักจับควันบุหรี่\"ลดพฤติกรรมเสี่ยงสูบบุหรี่