'Fin Lab' ติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุนในเด็กและเยาวชน

'Fin Lab' ติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุนในเด็กและเยาวชน

OKMD ผนึก CMDF ปลื้ม Fin Lab สำเร็จเกินคาด เด็กเยาวชนร่วมกิจกรรมทะลุเป้า  มั่นใจ ได้รับการติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุน และสามารถพัฒนาสู่นักลงทุนที่มีศักยภาพในอนาคต

ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ OKMD แถลงผลสำเร็จตลอดปี 2567 ของ โครงการ Fin Lab : คาราวานความรู้ตลาดทุนรุกสู่ภูมิภาค และบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ (New Gen) เข้าสู่ตลาดทุน ร่วมกับ นายจักรชัย บุญยะวัตร ผู้อำนวยการ  กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ผู้สนับสนุนหลักของโครงการ นายเศรษฐพล ธรรมจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ นายชนินทร์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการศึกษา สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร 

ดร.ทวารัฐ กล่าวว่า โคงการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่องค์ความเผยแพร่องค์ความรู้ทางการเงินผ่านตลาดทุนให้กับเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 13-18 ปี ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในด้านการเงินการลงทุนผ่านตลาดทุน สร้างทัศนคติการลงทุนที่ดี รวมทั้งพัฒนาให้เป็นคนต้นแบบ ที่สามารถขยายผลองค์ความรู้ดังกล่าวไปสู่คนรอบข้างและครอบครัว อันนำไปสู่การเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในอนาคต ซึ่งมีเครือข่ายพันธมิตรเข้าร่วมโครงการกว่า 70 หน่วยงาน โดยสามารถนำองค์ความรู้ทางการเงินการลงทุนไปขยายผลในรูปแบบต่างๆ หลากมิติ ทั้งมุมความรู้ในเชิงกว้าง และมุมความรู้ในเชิงลึก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

'OKMD' เปิดผลสำเร็จ 19 ปี เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจฯกว่า 17 หมื่นล้านบาท

OKMD ผนึก กสศ. ผลักดัน Mobile learning ส่งต่อเรียนรู้สู่เด็กยากจน

พัฒนาความรู้ในเชิงกว้างด้านการเงินการลงทุน

“ความรู้ในเชิงกว้าง” ได้แก่

(1) Online Platform ที่เด็กทุกคนสามารถใช้เครื่องมือเข้าถึงข้อมูลจากคลิปองค์ความรู้ด้านการเงินการลงทุนที่เหมาะสมกับช่วงวัยทั้ง 6 ด้าน  ได้แก่ รายได้ การออม รายจ่าย การลงทุน การจัดการหนี้ และภัยการลงทุน โดยมีการเผยแพร่ผ่าน E-Book ที่เกี่ยวข้องกับทักษะการจัดการทางการเงิน การออม และการบริหารการลงทุนผ่านตลาดทุนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Knowledge Portal และ TK Read รวมทั้งสื่อออนไลน์ในโซเชียลมีเดีย เช่น FB TikTokและช่องทางออนไลน์ของ OKMD โดยมีผู้เข้าถึงองค์ความรู้มากกว่า 6 ล้านคน/ครั้ง

(2) Knowledge Corner โดยพัฒนาการเชื่อมโยงและกระจายมุมความรู้ด้านการเงินการลงทุนในพื้นที่เป้าหมายโดยติดตั้งไว้ 14 แห่ง ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ศรีสะเกษ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ลำปาง ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สิงห์บุรี ชลบุรี และภูเก็ต มีผู้เข้าถึงองค์ความรู้จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567 จำนวนน 543,636 คน

(3) Knowledge Kiosk Alive โดยการสร้างสรรค์ชุดความรู้เผยแพร่ผ่าน Kiosk TV ซึ่งนำเสนอความรู้ด้านการเงินการลงทุนและประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้การเงิน 24 แห่ง พร้อมติดตั้งไว้ที่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง พิษณุโลก พิจิตร อุดรธานี อุบลราชธานี สิงห์บุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี สมุทรสาคร พังงา นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต สงขลา และกรุงเทพมหานคร มีผู้เข้าถึงองค์ความรู้ จนถึงพ.ย. 2567 จำนวน 335,901 คน  

\'Fin Lab\' ติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุนในเด็กและเยาวชน

พัฒนาคน ปูพื้นฐานด้านการออม เรียนรู้โลกการเงิน

"ความรู้ในเชิงลึก" มุ่งเน้นในการพัฒนาคน ประกอบด้วย

(1) Knowledge Market : การจัดตลาดนัดความรู้ในพื้นที่ 8 จังหวัด ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ขอนแก่น นครราชสีมา จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ภูเก็ต และยะลา โดยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ตลาดทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ และคาราวานความรู้จากหน่วยงานภาคีเครือข่ายกว่า 32 หน่วยงาน

โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจด้านการเงินการลงทุนจาก กองทุนการออมแห่งชาติ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สมาคมยุวชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วม 10,117 คน เกินความคาดหมายที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3,500 คน

(2) Fin Lab Online Bootcamp : การจัดค่ายอบรมบ่มเพาะ เชิงลึกออนไลน์ เน้นสร้างบุคลากรต้นแบบรุ่นใหม่ด้านการเงินและการลงทุนในภูมิภาค และพัฒนาต่อยอดเป็นต้นแบบคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีน้อง ๆ ระดับชั้นม.ต้น และม.ปลายกว่า 1,000 คนเข้าร่วมอบรม

(3) กิจกรรม Fin Lab Hackathon : ฝึกฝนให้เยาวชนที่เข้าร่วมอบรม รวมทีมและระดมสมองจัดทำโครงงาน รู้จักวางแผน กำหนดเป้าหมาย และฝึกกระบวนการคิด วางแผนทางการเงิน บริหารผลตอบแทนและความเสี่ยง มีทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายมากกว่า 58 ทีม

\'Fin Lab\' ติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุนในเด็กและเยาวชน

ด้านนายจักรชัย  กล่าวว่า CMDF ให้ทุนสนับสนุน OKMD ในเรื่องการสร้างความตระหนักรู้ ให้กับเด็กและเยาวชน โดยไม่จำกัดวงเพียงแค่คนในวัยทำงานเท่านั้น เพราะการปูพื้นฐานความรู้ด้านการออม การจัดการทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง เด็กและเยาวชนก็จะเกิดความตระหนักรู้และเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยส่วนตัวได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมที่ จ.ขอนแก่น เด็กและเยาวชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมนับพันคน และเขามีความสุขในกิจกรรม

“โลกของการเงินและการลงทุนเป็นโลกที่น่าตื่นเต้น เราอยากจะสนับสนุนในเรื่องของการให้ความรู้ในเรื่องการเงิน การลงทุนที่สามารถย่อยภาษาทางการเงินให้เข้าใจได้ง่ายสอดรับกับคนรุ่นใหม่ เราจะไม่ลังเลใจเลยที่จะรีบพิจารณาเงินทุนเท่าที่เราพอจะสนับสนุนได้ เพราะเด็กและเยาวชน จะเป็นนักลงทุนที่สำคัญในอนาคต เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า หนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นในบ้านเรา เกิดจากความไม่มีวินัยในเรื่องการออมและการลงทุน และอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ถ้าเราปูพื้นฐานทางด้านการเงินตั้งแต่เด็ก ผมเชื่อว่า คนรุ่นใหม่จะมีทักษะทางด้านการเงินและมีภูมิคุ้มกัน ที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต” นายจักรชัย กล่าว 

\'Fin Lab\' ติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุนในเด็กและเยาวชน

รู้หา รู้เก็บ รู้ใช้ แก้ปัญหาด้านเงิน

สอดคล้องกับ นายเศรษฐพล บอกว่า ในส่วนของ SET เองมองว่า เด็กและเยาวชนที่ได้รับการปูพื้นฐานทางด้านการออมการลงทุน ฝีกเขาตั้งแต่ การรู้หา รู้เก็บ รู้ใช้ จะทำให้เขาวางแผนชีวิตตัวเองได้ และเท่าที่สัมผัสในกิจกรรมนี้ตั้งแต่ต้น พบว่าเด็กรุ่นใหม่ มีความรู้เรื่องการเงินมากขึ้น เขาสามารถวางแผนทางการเงิน และมานำเสนอได้อย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่ระดับ มัธยมต้น เชื่อมั่นว่า พวกเขาจะเติบโตเป็นนักลงทุนที่ดีในอนาคต

ขณะที่ นายชนินทร์ กล่าวให้คำมั่นว่า จะนำบอร์ดเกม ที่ทาง OKMD มอบให้โรงเรียนในสังกัด กทม. ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน เพราะบอร์ดเกมสอนให้เด็ก คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง 

\'Fin Lab\' ติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุนในเด็กและเยาวชน

สำหรับกิจกรรม Fin Lab Hackathon หลังจากที่ได้มีการคัดเลือกกันอย่างเข้มข้นปรากฏว่า ทีมชนะเลิศระดับ ม.ต้น ได้แก่ ทีมออมคำ Project จากร.ร.บ้านแม่ง่อนขี้เหล็ก จ.เชียงใหม่ รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมDebt Free จากโรงเรียนดรุณสิกขาลัย ร.ร.นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ กรุงเทพฯ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม Smart Money Life Gamification จากร.ร.เซนต์คาเบรียลและร.ร.โยธินบูรณะ กรุงเทพฯ

ทีมชนะเลิศในระดับ ม.ปลาย ได้แก่  ทีม isave aplication จากร.ร.วิสุทธรังษี และ ร.ร.กาญจนานุเคราะห์ จ.กาญจนบุรี รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม ClearFinn ร.ร.หนองบัวพิทยาคาร จ.หนองบัวลำภู และร.ร.กาญจนาภิเษกวิทยาลัย จ.นครปฐม รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม AllFin จากร.ร.หาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา จ.สงขลาและยังมีการพัฒนาบอร์ดเกม The Fin Warrior : ยุทธการขยับเงิน เป็นชุดความรู้สำคัญ (Knowledge Kit) ภายใต้โครงการเพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้และเสริมทักษะด้านการเงินการลงทุน

ทั้งนี้ ได้มีการสนับสนุนบอร์ดเกมให้กับโรงเรียน ครู และแหล่งเรียนรู้ 662 แห่ง ทั้งนี้ได้ผลิตสื่อในรูปแบบ Print and Play เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถ ดาวน์โหลดไปใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ได้ ผ่านเว็บไซต์ของ OKMD และเพจกระตุกต่อมคิดกับ Fin Lab

\'Fin Lab\' ติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุนในเด็กและเยาวชน

สำหรับ กิจกรรมส่งท้ายของ Fin Lab คือการเปิดหลักสูตรอบรมเสริมทักษะทางการเงิน หรือ Fin Lab Online Bootcamp โดยเชิญกูรูทางการเงินมาให้ความรู้ เพื่อปลดล็อคปัญหาการเงินของคนไทยที่อยู่ในภาวะ “วัวหายล้อมคอก” จากกับดัก “หาได้เยอะ แต่ใช้ไม่พอ”  ส่วนหนึ่งคือการจัดการทางการเงินไม่เป็น ดังนั้น จึงควรมีทักษะ “ล้อมคอก” โดยผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความรู้เชิงกลยุทธ์ “หา ใช้ ออม ลงทุน ปกป้อง” ซึ่งก็คือความรู้ทางการเงินและตลาดทุน เพื่อเปลี่ยน Mindset โดยผู้เชี่ยวชาญได้ปูวิธีคิดแบบ Fin Mindset ซึ่งเป็นหลักคิดทางการเงินที่ดี

สอดแทรกเทคนิคและกลยุทธ์ในการนำเสนอไอเดียธุรกิจอย่างมืออาชีพ ทำความเข้าใจกระแสรายวัน ช่องทางการหาเงิน และวิธีการสร้างรายได้ ตลอดจนเรียนรู้การวางแผนทางด้านการเงิน การจัดการเงิน การบริหารการเงินส่วนบุคคล การวางแผนการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพรวมไปถึงเทคนิคการจัดการหนี้อย่างถูกต้อง ทางด้านการเงินและตลาดทุน

นอกจากนี้ยังมีการจําลองการใช้ AI กับโปรเจค วิธีการดึงเทคโนโลยีเข้ามาบูรณาการ ดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินของประเทศ เพื่อนำไปสู่ความมั่งคั่งร่วมกันและลดความเหลื่อมล้ำในอนาคต ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB กระตุกต่อมคิดกับ Fin Lab  และ TikTok : FinLabForFun

\'Fin Lab\' ติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุนในเด็กและเยาวชน