เช็กให้ชัวร์! "รับงานไปทำที่บ้าน" อาชีพหารายได้เสริมยอดฮิต

ยุคปัจจุบันการทำงานเพียงอาชีพเดียว อาจมีรายได้ไม่เพียงพอ เพราะทุกอย่างล้วนต้องขับเคลื่อนด้วยเงิน “มนุษย์เงินเดือน  วัยทำงาน” จึงไม่ได้รอเพียงเงินเดือนแต่ละเดือนอีกต่อไป ต้องมองหารายได้เสริม อาชีพเสริม และ “การรับงานไปทำที่บ้าน” เป็นอีกทางเลือก ของคนที่กำลังมองหางานที่สอง ที่สามให้แก่ตนเอง

การรับงานไปทำที่บ้าน นั่นหมายถึง การจ้างงานด้วยวิธีการให้รับงานไปทำที่บ้าน เป็นการจ้างงานนอกระบบที่มีมานานมีลักษณะเป็นงานหัตถกรรมครัวเรือน หรืองานที่ไม่ใช้เทคโนโลยี ซับซ้อนในการผลิต มีการตัดขั้นตอนบางขั้นตอน หรือชิ้นส่วนของงานบางชิ้นไปทำการผลิตหรือผลิตทั้งหมด

อดีตการรับงานไปทำที่บ้านเป็นเพียงอาชีพเสริม แต่ปัจจุบันการรับงานไปทำที่บ้านได้กลายมาเป็นอาชีพหลักของหลายครอบครัว ซึ่งการรับงานไปทำที่บ้านที่อยู่กระจัดกระจายทั่วประเทศทั้งในเขตเมืองและชนบท มีลักษณะการทำงานเป็นระบบมากขึ้น จำนวนผู้รับงานก็มี การขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย

โดยเฉพาะภายหลังที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจเมื่อกลางปี 2540 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตหลายประเภทจำเป็นต้องปรับโครง สร้างการผลิตใหม่ โดยการปรับลดขนาดกิจการลง ส่งผลให้มีสถานประกอบการขนาดเล็กเพิ่มขึ้น และพบว่าสถานประกอบการขนาดเล็กจะมีการรับช่วง การผลิตมาทำเป็นทอดๆ มีการกระจายการผลิตสู่การใช้แรงงานตามหมู่บ้านหรือชุมชนต่างๆ ซึ่งนำไปสู่ “ระบบการรับงานไปทำที่บ้าน” ที่โตขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

3 กองทุนรัฐ ปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0%  สิทธิ 3 กลุ่มเฉพาะ

กองทุนรับงานไปทำที่บ้าน ช่วยแรงงานนอกระบบมากกว่า 59 ล้านบาท

ขยายเวลากู้เงินกองทุนฯ ดอกเบี้ย 0% ถึง 31 พ.ค.67

นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ตามที่กรมการจัดหางานได้มอบของขวัญวันแรงงานเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้มีโอกาสในการประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ ด้วยการขยายระยะเวลาการยื่นคำขอกู้ยืมเงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน เพิ่มอีก 1 เดือน จากวันที่ 30 เมษายน 2567 เป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2567

โดยลดอัตราดอกเบี้ยกองทุนจากร้อยละ 3 ต่อปี เป็น 0% นาน 24 เดือน มีเงื่อนไขคือ ผู้รับงานไปทำที่บ้านที่กู้เงินไปแล้ว ต้องชำระหนี้ครบถ้วนตามระยะเวลาที่กำหนดในงวดที่ 1- 12

ผู้มีสิทธิกู้กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้านต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีผลการดำเนินการ และมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้าน หรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย และไม่เป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน โดยวงเงินกู้สำหรับบุคคล ต้องมีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 2 ปี

ส่วนกรณีกลุ่มบุคคล ต้องมีผู้นำกลุ่ม และสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 5 ปี (เฉพาะกู้วงเงิน 300,000 บาท ต้องมีสมาชิก 6 คนขึ้นไป)

ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ และยื่นกู้ได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดในท้องที่ ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน หรือที่กองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน โทร.0-2245-1317 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางานโทร.1694

ลักษณะงานแบบไหน การรับงานไปทำที่บ้าน

งานที่รับไปทำที่บ้าน หมายความว่า งานที่ลูกจ้างรับจากนายจ้างไปผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมหรือแปรรูปสิ่งของในบ้านของลูกจ้าง หรือสถานที่อื่น ที่มิใช่สถานประกอบกิจการของนายจ้างตามที่ได้ตกลงกันเพื่อรับค่าจ้าง โดยใช้วัตถุดิบหรืออุปกรณ์ในการผลิตของนายจ้างทั้งหมดหรือบางส่วน และโดยปกติ การทำงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดในกระบวนการผลิตหรือธุรกิจในความรับผิดชอบของนายจ้าง

ลักษณะของการรับงานไปทำที่บ้าน เป็นงานที่ไม่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนในการผลิต มีการตัดขั้นตอนบางขั้นตอน หรือชิ้นส่วนของงานบางชิ้นไปทำการ ผลิตหรือผลิตทั้งหมด ลักษณะงานที่ส่งให้ทำเป็นงานที่สามารถเรียนรู้ได้ง่าย เป็นงานที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น มักใช้แรงงานคนทำการผลิตมากกว่าใช้ เครื่องจักร สำหรับประเภทของการรับงานไปทำที่บ้าน มีทั้งประเภทงานที่ผลิตหรือประกอบขึ้นเพื่อใช้ภายในประเทศ หรือเพื่อการส่งออก เช่น การทำกระเป๋า รองเท้า เข็มขัด ซองโทรศัพท์มือถือ ประกอบไฟแช็ค วิกผม ตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เจียระไนพลอย แหวน และประกอบเครื่อง อุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น

 ประเภทงานที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้

1. ตัดเย็บ (เสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าห้ม พรมเช็ดเท้า เสื้อผ้าตุ๊กตา เป็นต้น)
2. งานปัก ถัก ทอ (ถักวิกผล ทอผ้า ทอเสื่อ ปักผ้าคลุม ปักเลื่อม เป็นต้น)
3. งานประดิษฐ์ (ดอกไม้ประดิษฐ์ ตุ๊กตา เครื่องประดับ ร้อยลูกปัด เป็นต้น)
4. งานหัตถกรรม (จักสานต่าง ๆ ทำไม้กวาด เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น)
5. อุปโภค/บริโภค
6. ของใช้อื่น ๆ

ทั้งนี้ การส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน  ดำเนินการภายใต้ระเบียบกรมการจัดหางาน ว่าด้วยการส่งเสริมการมีงานทำ พ.ศ. 2560 ข้อ 5 จัดหางานจังหวัด หรือผู้อำนวยการสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ มีหน้าที่จดทะเบียนผุ้รับงานไปทำที่บ้านในพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้คำปรึกษา แนะนำ ส่งเสริมและพัฒนาการเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านให้มีการบริหารจัดการที่มีความเข้มแข็งและมั่นคงอย่างต่อเนื่อง

แนวทางส่งเสริมและพัฒนาผู้รับงานไปทำที่บ้าน

เพื่อให้การส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้านเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน กว้างขวางและครอบคลุมทุก จังหวัด กรมการจัดหางานจึงได้จัดตั้งสำนักงานทะเบียนผู้รับงานไปทำที่บ้านขึ้น ณ สำนักจัดหางานกรุงเทพ ทุกแห่ง และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณาจดทะเบียนจัดตั้งกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับการรับงานไปทำที่บ้านต่อผู้รับงานไปทำที่บ้านและ กลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ส่งเสริมและพัฒนาการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความมั่นคงในการทำงาน และพัฒนาทักษะ ฝีมือของผู้รับงานไปทำที่บ้าน

จดทะเบียนจัดตั้งกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน

การจดทะเบียนกลุ่ม เป็นการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้านประการหนึ่งที่เสริมสร้างการรวมกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านให้เข้มแข็ง สร้างความมั่นคง ในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อประโยชน์ในการรับงานไปทำที่บ้าน และสะดวกต่อการส่งเสริมพัฒนาความรู้ ทักษะ ฝีมือของผู้รับงานไปทำ ที่บ้าน โดยให้ผู้นำกลุ่มยื่นขอจดทะเบียน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักจัดหางานกรุงเทพในพื้นที่ ที่กลุ่มตั้งอยู่ ซึ่งกลุ่มต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

คุณสมบัติของผู้ขอจดทะเบียนเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้าน

• กรณีผู้รับงานไปทำที่บ้าน

1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
3. มีสถานที่ที่รับงานไปทำที่บ้านเป็นหลักแหล่ง

• กรณีผู้รับงานไปทำที่บ้านเป็นกลุ่มบุคคล

1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
3. มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 5 คน (มีผู้นำกลุ่ม)
4. สมาชิกต้องไม่เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านอื่น
5. มีสถานที่ที่รับงานไปทำที่บ้านเป็นหลักแหล่ง

• หลักฐานที่ใช้ในการจดทะเบียน

กรณีบุคคล

1. แบบคำขอจดทะเบียนผู้รับงานไปทำที่บ้าน (แบบ ท.รบ.1) 
2. บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน
3. แผนที่แสดงที่อยู่และแผนที่แสดงที่ตั้งสถานที่ที่รับงานไปทำที่บ้าน
4. เอกสารที่แสดงว่ามีการรับงานไปทำที่บ้าน

กรณีกลุ่มบุคคล 

1. แบบคำขอจดทะเบียนผู้รับงานไปทำที่บ้าน (แบบ ท.รบ.2) 
2. รายชื่อสมาชิกกลุ่ม
3. บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของสมาชิกกลุ่ม
4. แผนที่แสดงที่อยู๋และแผนที่แสดงที่ตั้งสถานที่ที่รับงานไปทำที่บ้าน
5. เอกสารที่แสดงว่ามีการรับงานไปทำที่บ้าน

กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน

เป็นทุนหมุนเวียนเพื่อให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้ยืมเงินไปซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์การผลิต หรือขยานการผลิตเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน ดำเนินการภายใต้ระเบียบกรมการจัดหางานว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2559 บริหารงานโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน

วัตถุประสงค์

• กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้านมีวัตถุประสงต์เพื่อให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้ไปซื้อวัตถุดิบ
  และอุปกรณ์ในการผลิตหรือขยายการผลิตเพื่อสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้รับงานไปทำที่
  บ้าน

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้กู้เงินและการชำระหนี้เงินกู้

คุณสมบัติของผู้กู้

กรณีผู้กู้เป็นรายบุคคล

1. เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน
2. มีผลการดำเนินการ และมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้าน หรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน
3. มีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท
4. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
5. ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุนฯ

กรณีผู้กู้เป็นกลุ่มบุคคล

1. เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียน (กลุ่มบุคคล) กับกรมการจัดหางาน
2. ต้องมีผู้นำกลุ่ม และสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน
3. มีผลการดำเนินการ และมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้าน หรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน
4. มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกัน ไม่น้อยกว่า 10,000 บาท
5. ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุนฯ

กรณีผู้กู้รายบุคคลจะต้องจัดให้มีผู้ค้ำประกันซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

1. มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ และ
2. เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างประจำ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานบริษัทเป็นผู้บริหาร
   หรือสมาชิกองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น หรือผู้ปกครองท้องที่ระดับกำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน
3. พนักงานบริษัทซึ่งมีเงินเดือนไม่ต่ำกว่า เดือนละ 15,000 บาท 
4. วงเงินกู้ไม่เกิน 20,000 บาทให้มีผู้ค้ำประกัน 1 คน 
5. วงเงินกู้ตั้งแต่ 20,001 - 50,000 บาท ให้มีคนค้ำประกัน 2 คน

กรณีผู้กู้เป็นกลุ่มบุคคลต้องมีผู้กู้ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มและสมาชิกกลุ่มรวมกันจำนวนไม่น้อยกว่าห้าคนเป็นผู้กู้ร่วมกัน

วงเงินให้กู้ยืมและระยะเวลาการชำระหนี้

กรณีบุคคล

• 1 - 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี 

กลุ่มบุคคล

• 1 - 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี 
• 50,001 - 100,000 ชำระคืนภายใน 4 ปี 
• 100,001 - 300,000 ชำระคืนภายใน 5 ปี 
• อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 3 ต่อปี  ผิดนัดชำระหนี้ร้อยละ 2 ปี 
• ระยะเวลาปลอดชำระหนี้เงินต้นไม่เกิน 4 งวด ตั้งแต่งวดที่ 1- 4 

เอกสารประกอบการกู้ยืมเงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน 

1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นที่หน่วยงานของรัฐออกให้ของผู้กู้ ผู้ค้ำประกัน
   และคู่สมรสแล้วแต่กรณี (กรณีบุคคล)
2. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นที่หน่วยงานรัฐออกให้ของผู้กู้และผู้สมรส  (กรณีกลุ่มบุคคล)
3. ทะเบียนบ้านของผู้กู้ และคู่สมรส
4. โครงการที่ขอกู็ยืมเงิน และรายละเอียดการประกอบกิจการของผู้กู้
5. หลักฐษนการจดทะเบียนเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้าน
6. หนังสือยินยอมของคู่สมรส หรือหน้ังสือมอบอำนาจของสมาชิกกลุ่ม (ถ้ามี)

สถานที่ที่สามารถใช้บริการ หรือติดต่อสอบถาม

• สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด
• สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 1-10  (ทั้ง 10 แห่ง)
• หรือติดต่อสอบถามได้ที่กองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
  โทร. 0-2245-1317  สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.doe.go.th/prd/hwfund
• www.vgnew-epd.com.

เช็กอาชีพที่สามารถรับงานไปทำงานที่บ้าน

การทำงานจากที่บ้าน กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยสภาพของเศรษฐกิจที่นับวันจะยิ่งฝืดเคือง การออกไปทำงานนอกบ้านสำหรับหลายคนอาจเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ เช่น แม่บ้านที่ต้องอยู่ดูแลบุตรหลาน หรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการหารายได้

ตลอดจนปัญหาทางด้านค่าครองชีพที่ไม่เพียงพอหากต้องออกไปทำงานนอกบ้านทุกวัน ดังนั้น หลายคนจึงเลือกที่หางานที่สามารถทำเป็นอาชีพเสริม หรือสร้างรายได้ที่ค่าตอบแทนอาจไม่สูงมากนัก แต่หากขยันทำมากก็ได้มากทำน้อยก็ได้น้อย อย่างอาชีพการรับงานโหลมาทำที่บ้าน

หลายๆ คนมักจะเลือกงานโหลคืออะไร งานโหลคืองานที่คิดรายได้จากการทำงานต่อ 1 โหล (12ชิ้น) หรือว่าจ้างแบบเหมาจ่าย เมื่อทำงานครบตามจำนวนก็จะได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นงานฝืมือ สามารถนำกลับมาทำที่บ้านได้และส่งตามกำหนดเวลาที่นัดหมายให้ส่งมอบงาน

• อยากทำต้องเสียค่าอะไรบ้าง?

สำหรับการว่างจ้างนั้นบางแห่งก็จะมีการสมัครสมาชิกหรือเงินค้ำประกันหากไม่ส่งงานหรือรับของไปแล้วหนีหาย ประมาณ 500 – 1,000 บาท ขึ้นอยู่ผู้ว่าจ้างแต่ละราย

อุปกรณ์บางอย่างต้องเตรียมเอง เช่น กรรไกร กาว เทปกาว ไม้บรรทัด เป็นต้น ซึ่งนั้นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องออกเอง

• ข้อควรระวังในการสมัครงาน?

อาจมีมิจฉาชีพมาหลอกให้เสียค่าสมัคร แต่ไม่มีงานให้ทำจริง ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำงานควรเลือกดูที่มีความน่าเชื่อ ขอดูรรีวิวผลงานหรือสอบถามสถานที่ตั้งกิจการ หรือข้อมูลติดต่ออื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีตัวตนจริง

สอบถามเรื่องการชำระเงินให้แน่ใจก่อนรับงาน ว่าส่งงานแล้วได้รับเงินทีหรือไม่ หากต้องรอจะต้องรอประมาณกี่วัน ซึ่งบางที่อาจต้องรอถึง 15 – 20 วันเลยกว่าจะได้เงิน

งานโหลรับมาทำที่บ้าน มีอะไรบ้าง?

1. พับซองการ์ดต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นการ์ดแต่งงาน งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ หรือซองเอกสาร โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อตีพิมพ์เสร็จแล้วจะต้องมาใส่การ์ดลงในซองทีละซอง ซึ่งมีจำนวนมากในการว่าจ้างแต่ละครั้งจะคิดค่าแจ้งแบบเหมา เช่น 500 ซอง จะได้ค่าตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 200 บาท โดยทางร้านจะเป็นคนส่งกระดาษให้ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ อาทิเช่น กาว กรรไกร ฯลฯ ต้องเตรียมเอง

2. พับถุงกาแฟ -ถุงกระดาษ

งานพับถุงกาแฟ ถุงกระดาษหรือถุงป็อบคอร์นต่างๆ อัตราการว่างจ้างจะขึ้นอยู่กับขนาดของถุงกระดาษ เช่น ขนาด 2.5 นิ้ว / ขนาดกว้าง 4×7 นิ้ว พับข้าง 1 นิ้ว / ขนาดใหญ่ กว้าง 6×11 นิ้ว พับข้าง 2 นิ้ว / ขนาดใหญ่สุด กว้าง 7×14 นิ้ว พับข้าง 2 นิ้ว เป็นต้น รายได้จะอยู่ที่เริ่มต้น 100 ใบ/70 บาท ไปจนถึง 1,000 ใบ/2,000 บาท เป็นต้น (ขึ้นอยู่กับขนาด)

3. แพคต่างหู – ตุ้มหู

เครื่องประดับยอดนิยมสำหรับสาวๆ โดยทั้วไปแล้วต่างหูที่มีราคาไม่แพงนั้นบางที่จะผลิตและส่งให้ผู้ประกอบการนำมาแพคใส่ถุงเอง เพื่อนำไปขายส่งหรือส่งไปยังลูกค้ารายใหญ่ต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นช่องทางในการหารายได้เสริม ค่าตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณชุดละ 100 บาท/50 คู่ เป็นต้น

4. แพคยางรัดผม

ยางรัดผมของสาวๆจะถูกนำมาแบ่งแยกแพคใส่ถุงเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ โดยค่าจ้างในการรับงานแพคยางรัดผมมาทำที่บ้านจะอยู่ที่ประมาณชุดละ 250 บาท

5. พับเหรียญโปรยทาน

เหรียญโปรยทานจะมีหลายรูป เช่น ถุงเงินถุงทอง รูปตะกร้อ รูปดาว รูปหัวใจ เป็นต้น โดยอัตราค่าจ้างจะอยู่เริ่มต้น 1.5-2 บาท โดยอุปกรณ์ต่างๆจำเป็นจะต้องซื้อเอง โดยบางร้านจะเป็นเพียงผู้รับซื้อเท่านั้น คือพับเหรียญโปรยทานแล้วนำไปขายทางร้านจะรับซื้อไว้ กับอีกแบบคือจ้างมารับงานพร้อมอุปกรณ์ไปทำค้างจ้างก็จะเป็นแบบเหมาจ่ายครั้งละ 300-500 บาทเป็นต้น

6. สบู่แฟนซี

สบู่แฟนซีเป็นอีกหนึ่งงานทำที่บ้านที่ได้รับความสนใจเนื่องจากมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและสามารถทำส่งได้เรื่อยๆ ส่วนใหญ่แล้วผู้ว่าจ้างมีอุปกรณ์ให้เช่น แม่พิมพ์ บางที่จะมีการสอนทำสบู่แฟนซีด้วย สำหรับคนที่ไม่สะดวกมาเรียนกก็สามารถให้จัดส่งทางไปรษณีย์ได้ โดยให้ทำสบู่ตามแบบพิมพ์ที่กำหนด ค่าจ้างจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท /100ชิ้น เป็นต้น

7. แพคขนมถุง – ขนมแผง

ขนมที่บรรจุมาในบีปหรือถุงใบใหญ่จะถูกนำมาแพคเป็นแผง หรือแบ่งขายเป็นถุงๆ เรามักจะพบวางขายหรือแขวนอยู่ตามร้านขายของชำต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ขนมปังแผ่น ขนมปังไส้สับปะรด เป็นต้น รูปแบบการทำงานอาจจำเป็นต้องซื้อขนมและนำไปแพคและมาขายต่อเป็นแผงหริอถุง เริ่มต้น 20 – 50 บาท/แผงหริอถุง เป็นต้น

8. แพคการบูรหอม

การบูรหอมจะถูกนำไปใช้เป็นของชำร่วยหรือส่งขายตามร้านค้าต่างๆ โดยผู้ที่สนใจจำเป็นจะต้องซื้อการบูร ถุงแก้ว หัวกระดาษ และเชือกเอง แพคตามรูปแบบที่กำหนด โดยบางผู้ว่าจ้างจะมีตัวอย่างให้ หรือมีวิดีโอสอนทำให้ โดยค่าจ้างจะอยู่ที่ประมาณ 200 ชิ้น รับค่าจ้างครั้งละ 900 บาท เป็นต้น

9. พับพวงมาลัยริบบิ้น

พวงมาลัยที่ทำมาจากริบบิ้นนั้นส่วนใหญ่จะให้พับดอกของพวงมาลัย โดยบางรายจะมีการสอนวิธีพับให้ ส่วนค่าจ้างนั้นจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 – 60 บาท (ทั้งพวง) หากพับแค่ดอกอย่างเดียวจะอยู่ที่ร้อยละ 10 บาท

10. งานติดกิ๊ฟ

รูปแบบการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นการติดตุ๊กตาหรือของตกแต่งอื่นๆลงบนตัวกิ๊ฟ ตรวจสอบดูให้แน่นหนาสวยงามให้เรียบร้อยก่อนนำส่ง โดยทางร้านจะจัดส่งอุปกรณ์ไปให้ทำและรับซื้อในราคาชุดละประมาณ 350 บาทต่อกิ๊ฟ 500 ชิ้น (1 ชุด)

11. ร้อยลูกปัด

ลักษณะจะเป็นการนำลูกปัดมาร้อยเป็นสร้อยคอหรือสร้อยข้อมือ เป็นต้น บางรายจะมีวิดีโอสอนวิธีการร้อยลูกปัดตามที่กำหนด โดยค่าจ้างจะอยู่ที่ประมาณชิ้นละ 10 บาท หรือคู่ละ 20 บาท หรืองาน 1 ชุด ทำได้ประมาณ 15 คู่ จะได้ค่าจ้างครั้งละ 300 บาท

12. ปักแผ่นเฟรม

รูปแบบงานจะเป็นการปักแผ่นเฟรมตามแบบที่กำหนด เช่น สีล้วนหรือแบบลวดลาย โดยแผ่นเฟรมที่ปักจะต้องสมบูรณ์สวยงาม ไม่มีรูที่เกิดจากการดึงไหมแรงเกินไป สมำ่เสมอกันทั้งแผ่น ค่าจ้างจะอยู่แผ่นละ 10 บาท โดยจะรับงานเป็นชุด ชุดละ 50 แผ่น

13. แพคกิ๊ฟติดผม

นำกิ๊ฟติดผมทั้งแบบกิ๊ฟติดผมแฟนซี ตุ๊กตา หรือกิ๊ฟดำ ฯลฯ มาแพคบนแผนกระดาษแข็งๆและใส่ถุงให้เรียบร้อยตามที่กำหนด สำหรับกระดาษผู้ทำหาเอง ส่วนกิ๊ฟร้านส่งไปให้ ค่าแรง 150 บาท ส่งงานให้ครั้งละ 1,000 ชิ้น

14. พับดาว พับนก

งานโหลทำที่บ้านอีกอย่างที่น่าสนใจคือ งานพับนก พับดาวกระดาษ ซึ่งจะถูกนำไปตกแต่งของชำร่วยหรือโมยาบต่างๆ ค่าจ้างจะอยู่ที่ พับนก 300 ตัว ค่าแรง 150 บาทต่อครั้ง และพับดาว 400 ดวง ค่าแรง 150 บาทต่อครั้ง

15. แพคดินสอ

รูปแบบการทำงานจะเป็นการนำดินสอมาเหลาให้แหลมเท่าๆกัน แพคใส่ถุง ถุงละ 1 แท่ง ปิดปากถุงให้เรียบร้อยก่อนนำส่ง ค่าจ้างจะอยู่ที่แท่งละ 1 บาท ชุดละ 300 แท่ง เป็นต้น

อาชีพหารายได้เสริมอยู่บ้านยอดฮิต ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ

หากใครเบื่อความเป็นมนุษย์ออฟฟิศ อยากเป็นฟรีแลนซ์ อยากเพิ่มรายได้จากงานประจำด้วยการทำอาชีพเสริม หรือหารายได้เสริมอยู่บ้าน โดยที่ไม่สะเทือนงานหลักควบคู่กันไป 

1. ขับรถส่งคน

เมื่อการอยู่บ้านทำให้คุณมีเวลาว่างมากขึ้น และทำให้มีโอกาสในการหารายได้เสริมได้มากขึ้น หากใครที่อยู่บ้านอยากมีรายได้ อาชีพขับรถส่งคนก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่น่าสนใจ เพราะเพียงแค่คุณมีรถยนต์ ก็สามารถหารายได้เสริมดี ๆ ได้แล้ว ไม่ต้องหาลูกค้าเอง

2. ตัวแทนจำหน่าย

เมื่อออนไลน์และแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ กลายเป็นสะพานแห่งใหม่ในการสร้างรายได้ เราสามารถจะเป็นตัวแทนในการจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ได้ทันที  ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจำหน่ายครีม เครื่องสำอาง ของเล่น ขนม โดยเริ่มจากหาสินค้าที่ต้องการจะขาย หาช่องทางในการขาย เช่น การเปิดเพจ Facebook ทำร้านค้าออนไลน์ตามแอปพลิเคชั่น และสุดท้ายคือการหาลูกค้า

3. ปลูกต้นไม้ขาย / เป็นชาวสวน

รู้หรือไม่ว่า อีกหนึ่งอาชีพหารายได้เสริมอยู่บ้านที่สามารถสร้างรายได้มากมาย คือ อาชีพปลูกต้นไม้ขาย เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไทยเป็นอากาศที่ร้อนชื้น จึงทำให้เราสามารถปลูกต้นไม้ได้แทบทุกชนิดได้ตลอดทั้งปี เเละส่งออกไปเมืองนอกได้ตลอดนั่นเอง ซึ่งในการปลูกต้นไม้นั่น เพียงแค่คุณศึกษาชนิดพันธุ์ในการปลูก วิธีการขยายพันธุ์ การดูแลบำรุงต้นไม้ให้ถูกต้อง ก็สามารถมีรายได้เสริมได้เเล้ว  ซึ่งต้นไม้ที่มีราคาและสามารถต่อยอดในการสร้างเงินได้ เช่น กระบองเพชร มอนสเตอร่า

4. ตัวแทนขายประกัน

หนึ่งในอาชีพหารายได้เสริมอยู่บ้านที่หลาย ๆ คนอาจนึกไม่ถึง แต่สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ นั่นคือ อาชีพตัวแทนขายประกันนั่นเอง หากคุณมีความรู้เรื่องประกัน สามารถวางแผนให้กับลูกค้าได้ ก็เป็นอาชีพที่น่าสนใจ แต่ถ้าจะเริ่มเป็นตัวแทนได้นั้น คุณจะเริ่มจากการมีใบอนุญาตในการขายประกัน พร้อมทั้งมีการอบรมและเติมความรู้อยู่เสมอ โดยผลตอบแทนมักจะมาในรูปแบบของค่าคอมมิชชั่นในการขาย

5. นักแคสต์เกม

หากคุณเป็นคนที่รักการเล่นเกม คุณต้องชอบอาชีพนี้ เพราะจะดีมั้ยหากคุณสามารถเล่นเกมที่คุณชอบและได้เงินด้วย ถือเป็นอาชีพในฝันของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว ซึ่งคือ นักแคสเกม แต่นอกจากการเล่นเกมเป็นแล้วก็ยังจะต้องพวกเขาอัดคลิป พูดคุยกับคนดูไปด้วย พากย์เกม เพื่อเป็นเหมือนเพื่อนเล่นเกมอยู่ข้าง ๆ และสร้างความสนุกสนานให้กับคนดู จากนั้นก็โพสต์ลงช่องทางต่าง ๆ เช่น Youtube และ Twitch เป็นต้น  ซึ่งเป็นการหารายได้เสริมอยู่บ้านจากการรีวิวเกม หรือ ยอดวิวของผู้ชม

6. ขายงานฝีมือ

อีกหนึ่งอาชีพสำหรับคนที่อยู่บ้านอยากมีรายได้ที่ชื่นชอบทำงาน handmade การเย็บปักถักร้อยเป็นงานอดิเรกในเวลาว่างอยู่แล้ว คุณสามารถใช้ไอเดียและฝีมือตรงจุดนี้มาพัฒนาเป็นงานฝีมือสร้างรายได้เช่นกัน อาจเริ่มจากการทำสินค้าง่าย ๆ เช่น สบู่แฮนด์เมด พวงกุญแจ การ์ดน่ารัก ๆ สร้อยคอ และหาช่องทางในการขายผ่านตลาดนัด ตลาดเฉพาะกลุ่ม และตลาดออนไลน์ได้เลย

7. เป็น Tutor รับสอนวิชาที่เราถนัด

หากคุณมีใจรักในการเป็นครูสอนพิเศษ พี่ติวเตอร์ที่ชอบในการสอนนักเรียนของตัวเอง ได้ความรู้เพิ่มตัว นอกเหนือจากการเรียนในโรงเรียน ซึ่งการเริ่มอาชีพนี้สามารถทำได้ที่บ้าน และอาจไม่ต้องใช้เงินลงทุน ซึ่งหลาย ๆ คนสามารถสอนพิเศษเป็นรายได้เสริมระหว่างทำงานประจำได้ โดยรายได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ประสบการณ์ของติวเตอร์ วิชาที่สอน จำนวนนักเรียน ความถี่ในการสอน นั่นเอง

8. ไลฟ์ขายเสื้อผ้าออนไลน์

หากคุณมีใจรักในการเป็นครูสอนพิเศษ พี่ติวเตอร์ที่ชอบในการสอนนักเรียนของตัวเอง ได้ความรู้เพิ่มตัว นอกเหนือจากการเรียนในโรงเรียน ซึ่งการเริ่มอาชีพนี้สามารถทำได้ที่บ้าน และอาจไม่ต้องใช้เงินลงทุน ซึ่งหลาย ๆ คนสามารถสอนพิเศษเป็นรายได้เสริมระหว่างทำงานประจำได้ โดยรายได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ประสบการณ์ของติวเตอร์ วิชาที่สอน จำนวนนักเรียน ความถี่ในการสอน นั่นเอง

9. ขายภาพถ่าย/วิดีโอ

หากใครที่อยู่บ้านแล้วอยากมีรายได้และชอบในการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ก็สามารถทำอาชีพขายภาพถ่ายหรือวิดีโอได้ เพราะอาชีพที่ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศและสามารถไปตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ชุมชน มุมแปลก ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครพบเจอ โดยนำภาพไปโพสต์ขายตามเว็บไซต์ ซึ่งลูกค้าก็จะเป็นบริษัทที่ต้องใช้ภาพทำภาพประกอบโฆษณาหรือทำการตลาดนั่นเอง อาชีพนี้เริ่มต้นได้จากภาพถ่ายหรือแนววิดีโอที่สนใจ เช่น ภาพถ่ายบุคคล ภาพถ่ายสัตว์ ภาพถ่ายสถาปัตยกรรม วิดีโอการท่องเที่ยว เมื่อเลือกสิ่งที่สนใจได้แล้วก็ต้องเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสม เช่น เลือกกล้องและเลนส์ที่เหมาะกับการถ่ายภาพบุคคล หน้าชัด หลังเบลอ เป็นต้น

10. รับดูแลสัตว์เลี้ยง

อาชีพรับดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการหารายได้เสริมอยู่บ้าน หากคุณรักในสัตว์เลี้ยงและมีความสามารถในการดูแลและเลี้ยงสัตว์ เบื้องต้นสำหรับอาชีพนี้ คุณต้องมีประสบการณ์และความรู้ในการเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงต้องมีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงที่คุณต้องการดูแล และหากอยากมีรายได้ที่ดีขึ้น คุณอาจจะต้องมีใบรับรองการฝึกอบรมสัตว์โดยเฉพาะได้ เพื่อฝึกสัตว์เลี้ยงนั้นๆ

11. ขายอาหาร / เครื่องดื่ม

การขายอาหารและเครื่องดื่มเป็นอาชีพที่มีศักยภาพในการเสริมรายได้อยู่บ้านได้เป็นอย่างดี ในการเริ่มต้นการขายนั้น ให้คุณลองเลือกอาหารหรือเครื่องดื่มที่คุณสนใจและชื่นชอบ รวมถึงการสร้างเมนูและสูตร เพื่อให้มีความน่าสนใจและหลากหลายยิ่งขึ้น โดยสามารถให้ผู้อื่นมาลองชิม เพื่อพัฒนาสูตรอาหารของคุณ ด้วยการเช็คความพึงพอใจของลูกค้าได้ด้วย เมื่อได้สูตรอาหารที่ดีแล้ว ก็ยังต้องหาวัตถุดิบและอุปกรณ์ทำอาหารที่มีคุณภาพดีด้วย นอกจากนั้นก็ยังต้องคิดเรื่องของต้นทุน ราคา และตวงปริมาณที่ต้องสต็อกในแต่ละวันอีกด้วย

12. รีวิวสินค้า

ในยุคที่การซื้อขายสินค้าออนไลน์เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น การดูรีวิวสินค้าก็ยิ่งเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้นไปด้วย หากคุณเป็นคนนึงที่มีประสบการณ์สั่งสินค้าออนไลน์ ก็สามารถหารายได้เสริมอยู่บ้านจากการรีวิวสินค้าเพื่อแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ของตัวเอง หรือลองหามุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับสินค้าที่นักรีวิวคนอื่นไม่ค่อยได้พูดถึงมาลองพูด เมื่อสร้างฐานผู้ติดตามที่ชื่นชอบรีวิวของคุณได้ งานจ้างรีวิวสินค้าต่าง ๆ ก็จะเข้ามาหาคุณมากขึ้น

นอกจากการเป็นนักรีวิวอิสระแล้ว คุณก็สามารถทำงานร่วมกับเอเจนซีที่สร้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อรับงานรีวิวสินค้าได้อีกด้วย ทำให้อาชีพเสริมอย่าง นักรีวิวสินค้าเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถมีรายได้จาก การถูกจ้าง หรือ การทำ Affiliate ได้

13. เป็นแอดมินเพจ

การใช้โซเชียลมีเดียเป็นสื่อในการทำธุรกิจเป็นสิ่งที่แทบทุกกิจการในปัจจุบันจะต้องมี และแน่นอนว่าต้องมีคนที่ดูแลเพจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพจบุ๊ค อินสตาแกรม หรือติ๊กต่อก เพื่อคอยอัปเดตข้อมูลลงในเพจ และคอยตอบข้อความและคอมเมนต์ ซึ่งก็คืองานของแอดมินเพจนั่นเอง

โดยที่คุณสามารถทำงานแอดมินเพจเพื่อหารายได้เสริมอยู่บ้านไปพร้อม ๆ กับอาชีพเสริมอื่นได้ เพราะเป็นงานที่ยืดหยุ่น แต่ก็ต้องอาศัยวินัยและความแอ็กทิฟในการดูแลเพจอยู่เสมอ เพราะโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการจัดการ

14. คีย์ข้อมูล / รับพิมพ์งาน

หากคุณมีทักษะในการใช้โปรแกรมอย่าง word, powerpoint, หรือ excel คุณก็สามารถหารายได้เสริมอยู่บ้านโดยการรับจ้างพิมพ์เอกสารได้ ไม่ว่าจะเป็นการถอดเทปคดีความไปจนถึงคลิปเสียงต่าง ๆ เพื่อแปลงข้อมูลออกมาเป็นตัวอักษรให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน แต่การรับจ้างคีย์ข้อมูลหรือพิมพ์งานก็เป็นงานที่ต้องใช้ความระมัดระวังและความรอบคอบสูงในการตรวจสอบข้อมูล ทั้งการสะกดคำและความครบถ้วนของข้อมูล ไม่อย่างนั้นอาจจะสร้างความเสียหายกับลูกค้า และส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของตัวคุณเองได้

15. รับดูดวง

การดูดวงเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่สำหรับคนที่เชื่อ การดูดวงก็นับเป็นสิ่งที่ทำควบคู่ไปกับการตัดสินใจต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ การเปลี่ยนงาน การเลือกที่อยู่ และอื่น ๆ หลายคนก็มองการดูดวงเป็นการบำบัดจิตใจอย่างหนึ่งที่ช่วยคลายความสับสนต่างและเป็นหลักในการตัดสินใจ อาชีพดูดวงก็สามารถเป็นการหารายได้เสริมอยู่บ้านได้ เพราะสมัยนี้การดูดวงออนไลน์ที่สะดวกสบาย รวดเร็ว และประหยัดเวลา ก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีมิจฉาชีพหลอกลวงผู้รับงานไปทำที่บ้านในลักษณะของการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียว่ามีงานหรือผลิตภัณฑ์ให้รับไปทำที่บ้าน เช่น งานแยกสีริบบิ้น ลูกปัด กระดุม เป็นต้น บางรายหลอกให้ผู้รับงานโอนเงินลงทุนค่าผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ว่าจ้างก่อน และเมื่อโอนเงินให้แล้วก็หนีหายไปโดยไม่มีงานให้ทำ หรือบางรายไม่จ่ายค่าตอบแทนให้ และผู้เสียหายส่วนใหญ่จะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนที่จะเอาผิดกับผู้หลอกลวงได้ 

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงฝากเตือนไปยังผู้ที่ต้องการหารายได้โดยการรับงานไปทำที่บ้าน ให้ตรวจสอบผู้จ้างงานว่ามีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ.2553 หรือไม่ เช่น มีการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการรับงานไปทำที่บ้านมอบให้แก่ผู้รับงานฯ  ซึ่งจะต้องมีชื่อที่อยู่ทั้งของผู้ว่าจ้างและผู้รับงานฯ อัตราค่าตอบแทน ไม่มีการเรียกหรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหาย ไม่ส่งมอบงานอันตรายให้ทำ เป็นต้น หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาติดต่อได้ที่ กองคุ้มครองแรงงานนอกระบบ 0 2245 7170 หรือที่โทรศัพท์สายด่วน 1506 กด 3

อ้างอิง :กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน , สำนักงานกิจการยุติธรรม, smeleader  , Grap