แจก "วิธีแก้ง่วง" ในที่ทำงานสำหรับมนุษย์เงินเดือน
อาการง่วงยามเช้า เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับมนุษย์เงินเดือน แถมยังมีอาการเซื่องซึมเมื่อถึงที่ทำงาน และแทบจะลืมตาไม่ขึ้นหลังจากพักทาน ข้าวกลางวัน
KEY
POINTS
- ผู้ใหญ่วัยทำงานควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน หากเป็นผู้สูงอายุควรและหญิงตั้งครรภ์ควรนอนให้มากขึ้นที่ 10-11 ชั่วโมงต่อวัน
- วิธีแก้ง่วงในที่ทำงานฉบับมนุษย์เงินเดือน มีหลากหลายตั้งแต่ยืดเส้นยืดสาย จิบน้ำระหว่างวัน เลี้ยงคาร์โบไฮเดรตหนักๆ ในมื้อเที่ยง บอกลาของหวาน ฝึกลมหายใจ
- แม้วิธีแก้ง่วง จะช่วยให้วัยทำงานสดชื่นขึ้นและหายจากความง่วงได้ แต่ต้นเหตุจริงๆ คือ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนดึก ดังนั้น ควรจะนอนกลางคืนให้หลับสนิท นอนมีคุณภาพ
อาการง่วงยามเช้า เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับมนุษย์เงินเดือน แถมยังมีอาการเซื่องซึมเมื่อถึงที่ทำงาน และแทบจะลืมตาไม่ขึ้นหลังจากพักทาน ข้าวกลางวัน
ความง่วงที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน ส่งผลต่อพนักงานและองค์กร พนักงานเองก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเผลอสัปหงกบนโต๊ะทำงานหรือลามไปเวลามีประชุมต่างๆ เสียทั้งบุคลิกและเสี่ยงต่อการโดนเรียกตักเตือนจากหัวหน้างานอีกต่างหาก นี่ยังไม่รวมถึงเสียงกรนที่สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนร่วมโต๊ะทำงานข้างๆด้วย
องค์กรเองก็ได้รับผลกระทบจากความเหนื่อยล้าของพนักงาน เช่นกัน งานที่พนักงานควรจะทำได้เต็ม 100 แต่สามารถทำได้ไม่เต็มส่วนเช่นกัน ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากการอดหลับอดนอน หรือนอนไม่หลับในกลางคืนนั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เข้าใจตัวตนพนักงาน พัฒนาสู่เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
แค่เปิด..ก็เปลี่ยนเพราะทุกคนมีดี หลักบริหาร-วัฒนธรรม"ปุ้มปุ้ย"
วิธีแก้ง่วงฉบับวัยทำงาน
วันนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้รวบรวมวิธีแก้ง่วงแบบฉบับวัยทำงานมาฝากกัน
- นอนหลับตอนกลางคืนให้เต็มอิ่ม
ลองคิดดูซิว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเข้านอนกันตอนกี่โมง แล้วตื่นกี่โมง ถ้าเวลานอนของคุณน้อยกว่า 7-8 ชั่วโมงติดต่อกันหลายวันล่ะก็ ไม่แปลกเลยที่คุณจะมาง่วง วิธีแก้ไขก็ไม่ยากเย็นอะไร แค่ต่อจากนี้ไป เราต้องเข้านอนให้เร็วขึ้น อย่างปกตินอน 5 ทุ่ม ก็เขยิบมานอนสัก 4 ทุ่ม ให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ แต่ถ้าใครมีอาการนอนไม่หลับ หรือหลับยาก อันเป็นสาเหตุทำให้ตัวเองนอนไม่พอ อาจจะลองทานนมอุ่น ๆ กล้วย หรือน้ำผึ้งมาทานก่อนนอน จะช่วยให้หลับสบายขึ้น หรือจะหาน้ำมันหอมระเหยอย่างลาเวนเดอร์ มาดมดู จะช่วยคลายความเครียด ทำให้เราหลับได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน
- เปิดเพลงปลุกคุณให้ตื่น
เสียงเพลงช่วยกระตุ้นอารมณ์และการตอบสนองของคุณ รวมถึงหลายๆส่วนในสมองด้วย ถ้าคุณสามารถเต้นหรือร้องไปกับเพลงด้วย หรือแม้แต่คุณขยับหัวหรือฮัมเพลงตามจังหวะ ช่วยให้คุณตื่นอยู่เสมอ เปิดเพลงในระดับเสียงที่เหมาะสมหรือใช้หูฟังจะดีที่สุด ขอแถมวิธีการฟังเพลงที่ดี่ที่สุด คือการเปิดเพลงฟังโดยเปิดเสียงให้เบาจะดีกว่าเปิดเพลงเสียง เพราะคุณจะพยายามฟังเครื่องดนตรี เนื้อเพลง และจังหวะต่างๆ ซึ่งช่วยให้คุณมีสมาธิ และไม่ง่วง
- ออกไปสัมผัสแสงแดดยามเช้า
รู้ไหมว่าแสงแดดตอนเช้า ๆ ก่อน 9 โมง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในกล้ามเนื้อของคุณไปสู่สมองมากขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกตื่น และสดชื่นต่อเนื่องตลอดทั้งวันนั่นเอง ว่าแล้วพรุ่งนี้ก็ตื่นให้เร็วขึ้นสักหน่อย แล้วออกไปสัมผัสแสงแดดกันดีกว่า ตกบ่ายจะได้ไม่ง่วงเหงาหาวนอน หรือมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น
เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าในที่ทำงาน
- เคี้ยวน้ำแข็ง
ฟังดูอยู่เหนือความคาดคิด(เรามักถูกแนะนำให้เคี้ยวหมากฝรั่งแทน) แต่การเคี้ยวน้ำแข็งทำให้คุณแทบไม่เกิดอาการง่วงเลยอย่างแน่นอน อุณภูมิจากน้ำแข็งช่วยกระตุ้นสมองอยู่เสมอ วิธีการเย็นๆนี้ยังนำไปใช้ตอนคุณขับรถขณะเหนื่อยล้าจนเกือบหลับขณะกลางคืนได้อีกด้วย การเคี้ยวนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแทะดินสอหรือปากกา เป็นการสั่งการให้ร่างกายปล่อยอินซูลินซึ่งจะช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น
- ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
วิธีนี้ง่ายสุดและก็ไม่ต้องวุ่นวายอะไรมาก ใช้น้ำเย็นลูบหน้า ร่างกายของคุณจะตอบสนองกับอากาศเย็นโดยการปรับอุณหภูมิร่างกายให้อุ่นขึ้นเพื่อให้ทุกส่วนในร่างกายทำงานเป็นปกติ ดังนั้นถ้าคุณสามารถหาน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดลูบหน้าได้ จะช่วยให้คุณหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง(เพราะความเย็นจัด)
- ยืดเส้นยืดสาย
การสะบัดแข็งสะบัดขาหรือบิดตัวไปมาช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเรื่อง ช่วยให้สดชื่นขึ้น ลองเอียงคอข้างละประมาณ 20 วินาทีจะช่วยให้คุณสดชื่นขึ้นได้
- จิบน้ำระหว่างวัน
เมื่อนึกถึง "น้ำ" เราจะนึกถึงความสดชื่นมาเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้น "น้ำ" ก็เป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการแก้ง่วงได้เหมือนกัน อย่างที่มีคำแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเลย และต้องดื่มแบบจิบ ๆ ตลอดทั้งวัน เพราะการที่ร่างกายได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ชาร์จพลังงานในตัวให้เพิ่มขึ้นด้วย ที่สำคัญคือ น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำอุ่นอุณหภูมิห้องด้วยนะ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ในระบบไหลเวียนมาเลี้ยงเลือดได้ทันที จะช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ดี
- เลี่ยงคาร์โบไฮเดรตหนัก ๆ ในมื้อเที่ยง
ถ้ามื้อเที่ยงที่ผ่านมา เราจัดหนักจัดเต็มกับอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ก็อาจทำให้ช่วงบ่าย ๆ มีอาการง่วงซึมได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะการทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ ที่หนักแป้ง หนักน้ำตาล จะทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกระเพาะอาหารมากขึ้น เพื่อเร่งย่อยอาหารในปริมาณมากให้แล้วเสร็จ ทีนี้ก็จะทำให้เลือดที่ไหลไปเลี้ยงสมองมีน้อยลง หรือไหลเวียนช้าลง ทำให้เราง่วงซึม เฉื่อยชา หลังจากทานอาหารแล้วนั่นเอง
- บอกลาของหวาน
หลายคนคิดว่า ถ้าง่วงก็กินซะสิ ให้ปากได้ขยับเคี้ยวของหวาน ๆ บ้างจะได้แก้ง่วงได้ จริง ๆ แล้วของหวานก็ช่วยทำให้เรากระชุ่มกระชวยได้อยู่หรอก แต่แค่แป๊ปเดียวเท่านั้นเอง เพราะเมื่อเราทานของหวานซึ่งเป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วน จะไปทำให้ตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมามากขึ้น ทีนี้น้ำตาลในเลือดเราก็จะสูงขึ้นไปด้วย ส่งผลให้เราเกิดความรู้สึกง่วงนอนตามมา เพราะฉะนั้น บอกลาของหวานเลย ถ้าไม่อยากหลับทีหลัง
- ฝึกลมหายใจ
ถ้าไม่รู้จะแก้ง่วงอย่างไรดี งั้นลองมาฝึกลมหายใจปลุกตัวเองให้กระฉับกระเฉงขึ้นก็แล้วกัน เริ่มจากนั่งหลับตา พยายามหายใจเข้าออกถี่ ๆ ทางจมูก ถ้าทำได้สักวินาทีละ 3 รอบก็จะดีมาก แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็เอาเท่าที่ไหว ทำไปจนกระทั่ง รู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ฐานต้นคอ เหนือกระดูกไหปลาร้า และที่กระบังลมเกิดการเคลื่อนไหวตาม
ลองทำแบบนี้ติดต่อกันสัก 15 วินาที แล้วกลับมาหายใจแบบปกติ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนถึง 1 นาที วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ทำงานมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกมีพลัง ตื่นตัว แก้ง่วงได้ดีนักแล
- เดินไปเดินมา
ลองเดินไปมาเป็นระยะทางสั้นๆ หลายคนใช้วิธีการเดินเพื่อช่วยทำให้รางกายกระปรี้กระเปร่า โดยเฉพาะหากคุณต้องทำงานหน้าคอมเป็นระยะเวลานานๆถือเป็นการพักสายตาและผ่อนคลายไปในตัว
หากมีเอกสารที่คุณจะต้องส่งให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้จัดการ(เช่นการเซนต์เช็คหรือเอกสารอื่นๆ) คุณอาจจะเก็บไว้ส่งให้ตอนคุณกำลังง่วงนอนแทน ระหว่างการเดินไปกลับจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สดชื่นขึ้นได้ นอกจากนี้มีงานวิจัยระบุว่าการหยุดพักทำงานในช่วงเวลาหนึ่งๆช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการทำงานให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- งีบหลับ!
แค่ 15-20 นาทีคุณก็จะสดชื่นขึ้นทันที วิธีการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผล(แอดมินงีบพักตอนกลางวันบ่อย) เสริมด้วยการดื่มกาแฟก่อนงีบหลับ เมื่อคุณตื่นขึ้นมาฤทธิ์ขอกาแฟจะเริ่มทำงานทำให้คุณสดชื่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม
แม้ว่าวิธีที่กล่าวมาจะช่วยให้วัยทำงานสดชื่นขึ้นและหายจากความง่วงได้ แต่ต้นเหตุจริงๆ คือ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนดึก นอนไม่มีคุณภาพ สมองของจะมีการจดจำเวลาเข้านอนเป็นเวลาในทุกๆวัน ทำให้สมองมีรูปแบบการจดจำการนอนหลับเป็นรูปแบบ
การทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ จะช่วยให้คุณได้รับพลังงานเพียงพอในแต่ละวันโดยที่ทำให้คุณไม่ต้องงีบเพิ่มเติม โดยปกติผู้ใหญ่วัยทำงานควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน หากเป็นผู้สูงอายุควรและหญิงตั้งครรภ์ควรนอนให้มากขึ้นที่ 10-11 ชั่วโมงต่อวัน
อ้างอิง: jobsdb ,โรงพยาบาลยันฮี