ส่อง! ทักษะสุดฮอตของคนวัยทำงาน ปี 2025
รายงานของ World Economic Forum เปิดเผยว่าโลกการทำงานจะต้องเผชิญกับภาวะ “Double disruption” ทั้งจากแพร่ระบาดของโรคใหม่ๆ และระบบ Automation เข้ามาทดแทนการจ้างคน
KEY
POINTS
- เมื่อการทำงานมีความยากและซับซ้อนมากขึ้น คนวัยทำงานต้องเตรียมพร้อม พัฒนาทักษะทั้ง Hard Skill และ Soft Skills ร่วมด้วย
- 10 ทักษะที่จำเป็นในปี 2025 จัดเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ทักษะด้านการคิดและแก้ปัญหา ทักษะการบริหารจัดการตัวเอง ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และทักษะด้านเทคโนโลยี
-
3 Circle of Skills ที่เราตั้งเป้าฝึกฝนได้ คือ Core Skill ทักษะในการทำงานปัจจุบัน Mastery Skill ทักษะการทำงานปัจจุบันในระดับที่เหนือกว่าคนทั่วไป และทักษะที่อาจจะต้องใช้ในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้า
รายงานของ World Economic Forum เปิดเผยว่าโลกการทำงานจะต้องเผชิญกับภาวะ “Double disruption” ทั้งจากแพร่ระบาดของโรคใหม่ๆ และระบบ Automation เข้ามาทดแทนการจ้างคน
จากผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้อาจทำให้คนทำงานที่มีทักษะไม่ตรงกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป มีโอกาสเสี่ยงตกงานสูง เพราะถ้าอ้างอิงตามการสำรวจล่าสุด พบว่ามีคนทำงานกว่า 50% ที่ยังขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับปี 2025 ซึ่งประกอบด้วยทักษะ 4 กลุ่มด้วยหลักด้วยกันคือ
- ทักษะด้านการคิดวิเคราะห์
- ทักษะด้านคน
- ทักษะด้านเทคโนโลยี
- ทักษะการบริหารจัดการตัวเอง
ขณะที่ World Economic Forum (WEF) ทำการสำรวจทิศทางอาชีพในอนาคต (Future of Jobs Survey) โดยรวบรวมมุมมองจาก 803 บริษัท ซึ่งรวมการจ้างงานมากกว่า 11.3 ล้านคน ใน 27 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 45 ประเทศจากทุกภูมิภาคทั่วโลก คาดว่างานประมาณ 23% จะเปลี่ยนแปลงภายในปี 2570 โดยมีการสร้างงานใหม่ 69 ล้านตําแหน่ง และการยุบงาน 83 ล้านตําแหน่ง จากงานทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 673 ล้านตำแหน่งในปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทักษะใหม่! ที่คนวัยทำงานต้องมี ไม่พลาดงานในอนาคต
วัยทำงาน 41% ทนทำงานเดิมแม้รายได้ต่ำ ขาดทักษะใหม่ที่ใช้หางานเงินเดือนสูง
อาชีพที่เติบโต และอาชีพที่จะถูกทดแทน
ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า อาชีพที่มีความต้องการสูงในอนาคต เป็นอาชีพที่มีเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysts) ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลมหัต (Big Data Specialists) ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Machine Learning Specialists) และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity Professionals) ซึ่งคาดว่าจะเติบโตโดยเฉลี่ยประมาณ 30% ภายในปี 2570
นอกจากนี้ คาดว่างานทางด้านพาณิชย์ดิจิทัล (Digital Commerce) จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านตำแหน่ง เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce Specialists) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation Specialists) และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลและกลยุทธ์ (Digital Marketing and Strategy Specialists)
ในช่วงปี 2566–2570 อาชีพที่เติบโตและอาชีพที่ถูกทดแทนเร็วที่สุด 5 อันดับ ประกอบด้วย
อาชีพที่เติบโต ได้แก่
- ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Machine Learning Specialists)
- ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน (Sustainable Specialists)
- นักวิเคราะห์ธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence Analysts)
- นักวิเคราะห์ความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security Analyst)
- วิศวกรฟินเทค (FinTech Engineers)
อาชีพที่ถูดทดแทน ได้แก่
- พนักงานธนาคารและตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง (Bank Tellers and Related Clerks)
- พนักงานให้บริการไปรษณีย์ (Postal Service Clerks)
- พนักงานเก็บเงินและพนักงานขายตั๋ว (Cashiers and Ticket Clerks)
- พนักงานบันทึกข้อมูล (Data Entry Clerks)
- เลขานุการฝ่ายบริหาร (Administrative and Executive Secretaries)
10 ทักษะจำเป็น ในปี 2025
นับวันการทำงานจะยิ่งมีความยากและซับซ้อนมากมากขึ้น โลกยุคใหม่จึงต้องการพนักงานที่มีทักษะการคิดและตัดสินใจที่ดี รวมถึงสามารถคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาให้กับองค์กรได้ ทักษะเหล่านี้จึงเป็น “ทักษะจำเป็น” ที่พนักงานควรมีไม่ว่าจะทำงานอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม มีดังนี้
ทักษะด้านการคิดและแก้ปัญหา
World Economic Forum ได้จัดให้กลุ่มทักษะที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจแก้ปัญหาเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดในอนาคต โดยมีทักษะย่อยมากถึง 5 ใน 10 ทักษะจำเป็น ในปี 2025 ที่อยู่ในกลุ่มนี้
เพราะในอนาคตการทำงานจะยิ่งมีความยากและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นโลกยุคใหม่จึงต้องการพนักงานที่มีทักษะการคิดและตัดสินใจที่ดี รวมถึงสามารถคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาให้กับองค์กรได้ ทักษะเหล่านี้จึงเป็น ทักษะจำเป็น ที่พนักงานควรมีไม่ว่าจะทำงานอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม
โดยทักษะในกลุ่มนี้ คือ
- Analytical thinking and innovation ทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะด้านนวัตกรรม (อันดับ 1)
- Complex problem-solving ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (อันดับ 3)
- Critical thinking and analysis ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (อันดับ 4)
- Creativity, originality and initiative ทักษะความคิดสร้างสรรค์และการริเริ่มสิ่งใหม่ (อันดับ 5)
- Reasoning, problem solving and ideation ทักษะการใช้เหตุผล ทักษะการตัดสินใจ และทักษะการระดมความคิด (อันดับ 10)
ทักษะการบริหารจัดการตัวเอง
ทักษะกลุ่มนี้เป็นทักษะที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในปีนี้ เพราะเมื่อองค์กรต้องเจอปัญหาหรือความเปลี่ยนแปลง อย่างในปี 2020 ที่ผ่านมา ที่ทุกองค์กรต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 สิ่งที่องค์กรคาดหวังจากพนักงาน คือ พวกเขาต้องสามารถรับมือกับปัญหาได้ สามารถจัดการกับอารมณ์และความกดดัน ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง รวมถึงรู้จักปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทักษะเหล่านี้จึงเป็นทักษะที่พนักงานควรพัฒนาและฝึกฝนอยู่เสมอ
โดยทักษะในกลุ่มนี้ คือ
- Active learning and learning strategies ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง (อันดับ 2)
- Resilience, stress tolerance and flexibility ทักษะการรับมือกับปัญหา อดทนต่อความกดดัน ทักษะการปรับตัว (อันดับ 9)
ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ในอนาคต โลกจะยิ่งต้องการผู้นำที่มีอุดมการณ์และเป้าหมายในการขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า ผู้นำยุคใหม่จึงต้องสามารถสร้างแรงบันดาลใจ สร้างสังคมการทำงานที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมและมีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของทีมออกมา
- โดยทักษะในกลุ่มนี้ คือ Leadership & Social Influence ทักษะการเป็นผู้นำและอิทธิพลทางสังคม (อันดับ 6)
ทักษะด้านเทคโนโลยี
ทุกองค์กรต้องปรับตัวสู่ดิจิทัลมากขึ้น ทักษะการใช้เทคโนโลยี ตลอดจนเครื่องมือดิจิทัลและโปรแกรมใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ Data & AI, Cloud Computing, Digital Marketing & E-Commerce, Software Engineering หรือ Product Development นอกจากนี้ทักษะด้านการออกแบบและเขียนโปรแกรมก็จะยิ่งมีความต้องการมากขึ้นเช่นกัน
โดยทักษะในกลุ่มนี้ คือ
- Technology use, monitoring and control – ทักษะการใช้ ดูแล และจัดการเทคโนโลยี (อันดับ 7)
- Technology design & programming ทักษะการออกแบบและการเขียนโปรแกรม (อันดับ 8)
3 Circle of Skills ที่ต้องฝึกฝน โดยเฉพาะทักษะสื่อสาร
ว่ากันว่า 3 Circle of Skills ที่เราตั้งเป้าฝึกฝนได้
- Core Skill คือ Skill ที่ใช้ในการทำงานปัจจุบันให้ได้ตามมาตรฐาน
- Mastery Skill คือสกิลที่ใช้ในการทำงานปัจจุบันให้ได้ในระดับที่เหนือกว่าคนทั่วไป
- Skill คือสกิลที่อาจจะต้องใช้ในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ โลกยุคนี้คนที่ ‘สื่อสารเป็นระบบ’ จะได้เปรียบ (Systematic Communication) แล้วมันมีอะไรบ้าง
- ต้องแยก Task งานได้ แล้วต้องรู้ว่ามีรายละเอียดอย่างไร
- ต้องสามารถเอาข้อมูลมา Visualization ได้
- ต้องทำ Flowcharts ได้ เพราะเราจะเข้าใจภาพรวมของ Flow
- ต้องทำ RACI Matrix คือโมเดลการบริหารโครงการ เราจะบริหารจัดการได้ว่าในแต่ละ Project จะมีใครรับผิดชอบส่วนไหนบ้าง
- เวลาทำงานโครงการใหญ่ ๆ จะต้องอธิบาย Landscape ได้ และนี่คือบางส่วนของข้อมูลที่ต้องรู้ เพื่อให้เราคนที่เห็นภาพรวม และสื่อสารได้อย่างเป็นระบบ
ทักษะด้านเทคโนโลยีที่ควรเติมเต็ม
1.Data Science & Cloud Computing
- งานด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลกลายเป็นศาสตร์สำหรับที่จะมาเปลี่ยนวิธีการทำงานของหลายสาขาอาชีพในอนาคต และเพิ่มมูลค่าให้หลายๆธุรกิจ รวมถึง ทักษะด้านการใช้การประมวลผลบนระบบคลาวด์ก็เป็นอีกสิ่งที่จะมาแน่ๆ เห็นได้จากการที่หลายๆบริษัทเริ่มเลือกใช้บริการ SaaS (Software as a service) กันมากขึ้น
2.Artificial intelligence (AI) and machine learning (ML)
- ทักษะนี้สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และทีมผลิตภัณฑ์ต้องรู้ เข้าใจ และทำเป็น แต่สำหรับสายงานอื่นๆ หากเข้าใจคอนเซปการทำงานเบื้องต้น ก็จะสามาระนำไปประยุกต์ใช้ในการคิดไอเดียงานหรือพูดคุยกับทีมพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น
3.Big Data
- เป็นทักษะด้านข้อมูลอีกอันหนึ่งที่หลายๆองค์กรจะมองหา และในประเทศไทยยังมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนจำกัดอยู่
4.Digital Marketing & Strategy
- การตลาดและกลยุทธ์แบบดิจิทัลจะเป็นที่ต้องการเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะใช้เวลากับโลกอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
5.Process Automation
- การเปลี่ยนระบบขั้นตอนต่างๆ ให้กลายเป็นอัตโนมัติ มีแนวโน้มถูกนำมาใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ต่างๆ รวมถึงระบบราชการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน
6.Business Development
- การพัฒนาธุรกิจเพื่อให้เกิดรายได้และเติบโต โดยมองหาโอกาสและช่องทางการขยายขนาดให้ธุรกิจ ตั้งแต่การทำ Research การหากลุ่มลูกค้า และการทำ Partnership เป็นต้น
7.Digital Transformation
- เป็นสิ่งที่ใช้ได้กับการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์หรือบริการให้กลายเป็นระบบดิจิทัล หรือจะใช้กับในระดับองค์กร คือการเปลี่ยนลักษณะองค์กรและรูปแบบการทำงานให้เป็นแบบดิจิทัล
8.Information Security & Cyber Security
- องค์กรต้องการคนที่มีความเข้าใจ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และการดูแลป้องกันอาชกรรมบนโลกออนไลน์ เนื่องจากหลายๆองค์กรหันมาถือข้อมูลขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นอีกทักษะที่ควรเรียนรู้เพิ่มเติมไว้
9.Software and Application Development
- ทักษะด้านการพัฒนาซอฟแวร์และแอปพลิเคชัน ซึ่งรวมถึงเรื่อง UX/UI และ blockchain programming ด้วย
10.Internet of Things (IoT)
- ทักษะด้าน Internet of Things หมายถึงการรู้และเข้าใจการทำงานของเครือข่ายอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อถึงกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในอนาคตได้
โดยนอกจาก Hard Skills เหล่านี้แล้ว ก็ควรหาวิธีพัฒนา Soft Skills ของตนเองควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะทำให้คุณกลายเป็น Candidate ที่โดดเด่น จนหลายๆบริษัทต้องแย่งชิงตัว เช่น
- ทักษะการแก้ปัญหา (Problem-solving)
- ทักษะการบริหารจัดการตนเอง (Self-management)
- ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Working with people)
โดยแนวโน้มของความต้องการทักษะเหล่านี้ คือองค์กรจะต้องการคนที่มีองค์ความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง โดยไม่ได้ยึดติดกับวุฒิและปริญญาเท่าในอดีต ดังนั้นหากคุณต้องการเพิ่มคุณค่าให้ตนเองและองค์กร จึงควรเริ่มศึกษาและเตรียมพร้อม Skill เหล่านี้เอาไว้ เพราะโอกาสมักจะเป็นของคนที่มองการณ์ไกลและเตรียมพร้อมตัวเองอยู่เสมอ
อ้างอิง:salika ,truedigitalacademy ,creativetalkconference