ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568

ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568

การขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรมในหลายๆ ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ต้องมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาผสมผสาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์  หรือการบริการให้ดียิ่งขึ้น

KEY

POINTS

  • แนวโน้มอัตราการขึ้นเงินเดือน ในปี 2568  พบว่า ภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มจะมีอัตราการขึ้นเงินเดือนมากสุด ได้แก่ High Tech (เทคโนโลยีขั้นสูง)  5.5% ส่วนภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อยู่ที่ 5%

  • "กฎหมาย บริหารธุรกิจ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ศิลปะและสังคมศาสตร์  และบัญชี" 5 อาชีพบัณฑิตจบใหม่เงินเดือนพุ่งในปี 2568 

  • ทักษะในทุกวันนี้ เมื่อก่อนเราควรเป็นเป็ด แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ต้องกลับไปเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งหากมีทักษะด้านใดด้านหนึ่งชัดเจน คนกลุ่มนั้นจะมีแต้มต่อมากๆ

การขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรมในหลายๆ ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ต้องมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาผสมผสาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ หรือการบริการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสถานการณ์แรงงานไตรมาสสาม ปี 2567 ค่อนข้างทรงตัว โดยการจ้างงานในสาขานอกภาคเกษตรกรรม ขยายตัวได้ ขณะที่ภาคเกษตรกรรมยังคงหดตัวต่อเนื่อง ด้านค่าจ้างเพิ่มขึ้นทั้งภาพรวมและภาคเอกชน

ส่วน อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยอยู่ที่ร้อยละ 1.02 ไตรมาสสาม ปี 2567 ผู้มีงานทำมีจำนวนทั้งสิ้น 40.0 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 0.1 จากการจ้างงานภาคเกษตรกรรมที่หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.4 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์อุทกภัย

ด้านสาขา นอกภาคเกษตรกรรมขยายตัวได้ที่ร้อยละ 1.4 โดยสาขาการขนส่งและเก็บสินค้าขยายตัวได้มากที่สุดที่ร้อยละ 14.0 และสาขาโรงแรมและภัตตาคารที่ร้อยละ 6.1 ขณะที่สาขาการผลิตหดตัวร้อยละ 1.4 โดยเฉพาะในการผลิต ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตยานยนต์ ชั่วโมงการทำงานโดยรวมเพิ่มขึ้น แต่บางส่วน ยังต้องการทำงานเพิ่ม โดยภาพรวมและเอกชนอยู่ที่ 43.3 และ 47.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตามลำดับ

โดยผู้ทำงานล่วงเวลาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 ขณะที่ผู้เสมือนว่างงานลดลงร้อยละ 32.9 และผู้ทำงานต่ำระดับเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรม อัตราการว่างงานปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ร้อยละ 1.02 หรือมีผู้ว่างงาน จำนวน 4.1 แสนคน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ไทยขึ้นเงินเดือน 5% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเอเชีย

“บริษัท เมอร์เซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Mercer Thailand”  ได้สำรวจค่าตอบแทนประจำปี (TRS) ในประเทศไทยทั้งหมด 617 องค์กร จาก 7 อุตสาหกรรม โดยสำรวจจัดทำขึ้นระหว่างเดือนเมษายนและมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับภาพรวมมีการคาดการณ์ว่าค่ามัธยฐานของการขึ้นเงินเดือนประจำปี (Median merit salary increments) ของปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 5% จาก 4.8% ในปี 2566

โดยค่ามัธยฐานของการขึ้นเงินเดือนภาพรวม (Median salary increments) ของปี 2567  ในประเทศไทยถูกคาดการณ์ไว้ที่ 5 % ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียที่ 5.2% ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าตอบแทนที่แตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วและเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาอยู่ โดยตามรายงานประจำปี 2567 พบว่ากลุ่มประเทศที่มีค่ามัธยฐานของการขึ้นเงินเดือนโดยรวม (Median salary increments) ที่สูงที่สุดในภูมิภาค ได้แก่ อินเดีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่ 9.3%, 7.0%, และ 6.5% ตามลำดับ

ในขณะที่ญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกง มีการรายงานค่ามัธยฐานของการขึ้นเงินเดือนโดยรวม (Median salary increments) ที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค ที่  2.6%, 3.8%, และ 3.9% ตามลำดับ โดยผลสำรวจของประเทศอื่น ๆ ที่รวมอยู่ในการสำรวจมีดังนี้ ฟิลิปปินส์ ที่ 5.7% จีนที่ 5.2% มาเลเซียที่ 5.1% เกาหลีใต้ที่ 4.4% และสิงคโปร์ที่ 4.2% 

ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568

3 อุตสาหกรรมมีการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนปี 2567

จากผลสำรวจคาดการณ์ว่าภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะมีการเพิ่มขึ้นของการขึ้นเงินเดือนประจำปี (merit salary increment) โดย อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์สุขภาพ, เทคโนโลยีขั้นสูง, และยานยนต์ จะเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของการขึ้นเงินเดือนประจำปี (merit salary increment)  สูงที่สุดในปี 2567 ที่ 5% 

สาเหตุของการเพิ่มขึ้นที่สูงกว่าอุตสาหกรรมอื่นของ 3 อุตสาหกรรมข้างต้นนั้น มีหลายปัจจัยสนับสนุน เช่น การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น เป็นผลจากการขยายตัวของนวัตกรรมใหม่อย่างรถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้นในตลาด และส่งผลให้การแข่งขันขยับตัวสูงขึ้น ทำให้มีความต้องการที่มากขึ้นในการจ้างงานบุคลากรที่มีศักยภาพสูง (talent)

นอกจาก 3 อุตสาหกรรมข้างต้น อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ก็ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของการขึ้นเงินเดือนประจำปี (merit salary increment) สูงกว่าปี 2566

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมประกันชีวิตเป็นเพียงอุตสาหกรรมเดียวที่มีได้รับการคาดการณ์ว่าการขึ้นเงินเดือนประจำปี (merit salary increment) จะมีการปรับตัวลดลงจาก 4.2% ในปี 2566 เป็น 4% ในปี 2567

สำหรับการจ่ายโบนัสประจำปี อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง วิทยาศาสตร์การแพทย์ และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญการทำผลงานของพนักงาน ซึ่งได้ถูกสะท้อนออกมาในการสำรวจ โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นถึงความต่างของยอดการจ่ายที่สูงที่สุดระหว่างการจ่ายโบนัสประจำปีสำหรับพนักงานที่ทำผลงานได้ตามเป้าหมายและพนักงานที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่ 68%, 61%, และ 52% ตามลำดับ

ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568

แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือนปี 2568

“ธีระ เหล่าลัทธพล” ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท เมอร์เซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มอัตราการขึ้นเงินเดือน ในปี 2568  พบว่า ภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มจะมีอัตราการขึ้นเงินเดือนมากสุด ได้แก่ High Tech (เทคโนโลยีขั้นสูง)  5.5%

รองลงมา จะเป็น All Industries (อุตสาหกรรมทั้งหมด) ไม่ว่าจะเป็น Automotive (อุตสาหกรรมยานยนต์) Chemicals  (อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์) Consumer Goods (สินค้าอุปโภคบริโภค)   Life Insurance (ประกันชีวิต) และMercer Life Sciences (เมอร์เซอร์วิทยาศาสตร์ชีวภาพ) จะมีแนวโน้มอัตราการขึ้นเงินเดือน 5.0%

ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568

ส่วนแนวโน้มนโยบายค่าตอบแทนเด็กจบใหม่(Starting Salary)  5 สาขาวิชาที่มีการเปลี่ยนแปลงเงินเดือนเริ่มต้นมากที่สุด เมื่อเทียบปัจจุบันและก่อนวิกฤตโควิด-19 พบว่า 

  • Law (กฎหมาย) ในปี 2562 มีเงินเดือนเริ่มต้น 195,000 บาทต่อปี  แต่ในปี 2568 เงินเดือนเริ่มต้นเพิ่มเป็น 300,000 บาท ต่อปี   
  • Business Administration (บริหารธุรกิจ) ปี 2562 เงินเดือนเริ่มต้น 232,000 บาทต่อปี ปี 2568 เงินเดือนเริ่มต้นเพิ่มเป็น 300,000 บาทต่อปี 
  • Computer Science  (วิทยาการคอมพิวเตอร์) ปี 2562 เงินเดือนเริ่มต้น 300,000 บาทต่อปี และปี 2568 เงินเดือนเริ่มต้นเพิ่มเป็น 373,000 บาทต่อปี  
  •  Arts & Social Science (ศิลปะและสังคมศาสตร์) ปี 2562 เงินเดือนเริ่มต้น 237,000 บาทต่อปี และปี 2568 เงินเดือนเริ่มต้นเพิ่มเป็น 293,000 บาท ต่อปี 
  • Accounting (บัญชี) ปี 2562 เงินเดือนเริ่มต้น 237,000 บาทต่อปี และปี 2568 เงินเดือนเริ่มต้นเพิ่มเป็น 278,000 บาทต่อปี

ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568

High Tech อุตสาหกรรมเงินเดือนสูง

“ธีระ” กล่าวต่อว่าการขึ้นเงินเดือนของแต่ละภาคอุตสาหกรรมนั้น ขณะนี้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนใหญ่จะประมาณ 5.0 %   โดยอุตสาหกรรม High Tech หรือเทคโนโลยีขั้นสูง) คาดว่าจะมีการปรับขึ้นเงินเดือนมากที่สุด ส่วนเงินเดือนบัณฑิจบใหม่ที่คาดว่าจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น เช่น นักกฎหมายหรือสาขาด้านกฎหมาย จะต้องเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดิจิตอล หรือเทคโนโลยี มีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายด้านไซเบอร์  หรือนักบัญชียุคดิจิตอล ที่ต้องเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญซอฟต์แวร์ที่เข้ามาช่วยการทำงานให้สะดวกยิ่งขึ้น  เป็นต้น

“การขึ้นเงินเดือนในแต่ละอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์และการตลาด ซึ่งตอนนี้ในการค้าขายจะเป็นเรื่องของออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งอุตสาหกรรม High Tech เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการกำลังคนค่อนข้างสูง และหลายๆ บริษัทต่างต้องการคนกลุ่มนี้ ทำให้หลายบริษัทได้มีการปรับตัวทั้งด้านค่าตอบแทน สวัสดิการ มีการยืดหยุ่น เพื่อรองรับความต้องการกำลังคนด้านนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นองค์ประกอบกับการปรับตัว มีการปรับโครงสร้างองค์กร ปรับกลยุทธ์ อย่าง เมอร์เซอร์ มีการนำ High Tech ด้านบริการ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ต่างๆ มาใช้  และการต้องการคนในอุตสาหกรรม High Tech นั้นไม่ได้เจาะจงเฉพาะค้นหาคนในอุตสาหกรรมของตนเอง แต่ดูในหลายๆ อุตสาหกรรม  เพราะคนกลุ่มนี้มีค่อนข้างน้อย มีการซื้อตัวค่อนข้างเยอะ”

ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568

ทักษะของคนรุ่นใหม่อาจไม่ควรเป็นเป็ด

เทรนด์การทำงานในอนาคตของตลาดแรงงานไทยไม่ได้แตกต่างไปจากในขณะนี้ ที่เส้นแบ่งเขตการทำงานไม่ได้อยู่เฉพาะในประเทศไทย เพราะโลกของทำงานเปลี่ยนจากเอกสารเป็นคอมพิวเตอร์ และมาสู่ยุคที่คนเราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่มีเส้นแบ่งเขตการทำงาน ถ้าเราอยู่ในกลุ่ม Tech ซึ่งเทคโนโลยีเป็นพื้นฐานในการจ้างคน และจ่ายค่าจอบแทน ฉะนั้น  การจ้างงานจึงอาจไม่จำเป็นต้องจ้างเฉพาะคนในพื้นที่

“พิรทัต ศรีสัจจะเลิศวาจา” กรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการสายธุรกิจที่ปรึกษาทรัพยากรมนุษย์ บริษัท เมอร์เซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าหลายๆ ประเทศสนับสนุนการทำงานที่เปิดกว้างมากๆ แนวโน้มการทำงานในอนาคต คนหนึ่งคนไม่จำเป็นต้องทำงานอยู่ที่ใดที่หนึ่ง หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง การทำงานในอนาคตจะมีการออกกฎระเบียบใหม่ๆ ที่ไม่ให้คนที่ทำงานหลายๆ ที่ นำเอาข้อมูลของแต่ละองค์กรไปแชร์ จะต้องมีการควบคุม การกำกับดูแลในเรื่องเหล่านี้มากขึ้น

“ทักษะในทุกวันนี้ เมื่อก่อนเราควรเป็นเป็ด แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ต้องกลับไปเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งหากมีทักษะด้านใดด้านหนึ่งชัดเจน คนกลุ่มนั้นจะมีแต้มต่อมากๆ เพราะต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ เพราะการเป็นผู้เชี่ยวชาญ ต้องเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก อย่าง Blockchain ก่อนหน้านี้ได้รับความสนใจอย่างมาก แต่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องปกติของทุกคน”

ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568

แรงงานติดตามเทรนด์ เพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยี

แรงงานต้องดูกระแส ดูเทรนด์ของตลาดงานว่าจะไปในทิศทางใด  เพราะหากอยากอยู่รอดในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต้องติดตามเทรนด์ตลาดงานและความต้องการกำลังคนในแต่ละภาคอุตสาหกรรม

“พิรทัต” กล่าวต่อว่าหากมองกลับไปที่โครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มคนที่อยู่ใน High Tech  หรือ Tech เป็นที่ต้องการของทุกอุตสาหกรรม เพราะเทคโนโลยีกลายเป็นฟังก์ชั่นหลัก ไม่มีองค์กรไหน หรืออุตสาหกรรมใดที่จะไม่ใช่เทคโนโลยี หรือนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ๆ เข้ามาใช้ในองค์กร ดังนั้น เมื่อภาคอุตสาหกรรมปรับตัว คนที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีขั้นสูงตามที่อุตสาหกรรมต้องการ ก็จะอยู่รอด  ตอบโจทย์อะไรในอุตสาหกรรมนั้น  ฉะนั้น พนักงาน แรงงานทุกคนต้องเสริมทักษะให้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และความรู้เชิงเทคนิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน

ธีระ กล่าวเสริมว่า ทุกวันนี้เราต้องยอมรับว่าคนทำงานอาจจะไม่ได้ทำงานตรงกับสายของตัวเอง หรือศาสตร์ของตัวเองที่เรียนมา เพราะการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างธุรกิจ บริบทในเชิงอุตสาหกรรม ศาสตร์หลายๆ ศาสตร์ผนวกเข้าด้วยกัน คนที่เป็นไอทีต้องมีความรู้ด้านกฎหมายร่วมด้วย  ฉะนั้น การมีความรู้รอบด้าน รู้เทคโนโลยี และรู้ธุรกิจเพิ่มเติมนอกเหนือจากทักษะที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นสิ่งจำเป็นและต้องพัฒนาตัวเองให้มีทักษะเหนือกว่าเทคโนโลยี

ส่อง!!แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนบัณฑิตจบใหม่ ปี 2568