"หมอยง" เผย "โควิด-19" แนวโน้มดีขึ้น ผลจาก "วัคซีน" และติดเชื้อจำนวนมาก
"หมอยง" เผย "โควิด-19" ซึ่งมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อไปแล้วจำนวนมาก ผลการศึกษา เด็ก 5-6 ปี ไม่เคยได้รับวัคซีน กว่า 47% ติดเชื้อไปแล้ว การติดเชื้อซ้ำ ทำให้อาการน้อยลง โรคก็จะดำเนินต่อไป เป็นประจำฤดูกาล
วันนี้ 5 กันยายน 2565 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หรือ "หมอยง" หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan โดยให้ข้อมูลถึง สถานการณ์ โควิด-19 ซึ่งมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อไปแล้วจำนวนมาก
ประชากรส่วนใหญ่ มีภูมิต้านทานเกิดขึ้น จากการฉีดวัคซีน มีการฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ 143 ล้านโดส แต่เมื่อดูการฉีดครบ 2 เข็ม ก็อยู่ประมาณเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ และการฉีด 3 เข็ม ประมาณเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เรามีวัคซีนเพียงพอ และอยากให้มีการฉีดวัคซีนให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
ในขณะเดียวกันประชากรส่วนใหญ่ มีภูมิต้านทานเกิดขึ้นจากการติดเชื้อโดยธรรมชาติ ยอดการติดเชื้อที่มีการแจ้งให้ทราบ เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ในความเป็นจริงประชากรไทยติดเชื้อไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง
เด็กไม่เคยได้รับวัคซีนพบ 47% ติดเชื้อไปแล้ว
จากข้อมูลที่เห็นได้ชัดในการศึกษาของศูนย์ ในเด็ก 5-6 ปี เป็นวัยที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน มีการติดเชื้อไปแล้ว 47% จากการตรวจเลือด เพียงครึ่งเดียวที่ทราบว่าติดเชื้อ อีกครึ่งหนึ่งเป็นการติดเชื้อแบบมีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ แต่ตรวจพบภูมิต้านทานบ่งบอกถึงการติดเชื้อมาแล้ว
ผลเลือด 1 ใน 3 พบ ติดเชื้อมาแล้ว
และจากการศึกษา ร่วมกับทางจังหวัดชลบุรี ในการศึกษาวัคซีน Covovax ในอาสาสมัคร 215 คน โดยมีข้อบ่งชี้ว่าจะต้องไม่เคยติดเชื้อมาก่อน แต่พบว่า เมื่อนำมาตรวจเลือด คนที่บอกว่าไม่เคยติดเชื้อมาก่อน แต่ผลเลือดแสดงว่ามีการติดเชื้อมาแล้วถึง 1 ใน 3 และถ้ารวมคนที่ติดเชื้อแบบที่ทราบและรู้แล้ว จำนวนการติดเชื้อมาแล้ว เกินกว่าครึ่งหนึ่งหรือมากกว่าแน่นอน
"แสดงว่าคนไทยส่วนใหญ่มีการติดเชื้อเกิดขึ้นแล้ว และภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ ร่วมกับการฉีดวัคซีน จะเป็นภูมิต้านทานแบบลูกผสม ที่สามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้เป็นอย่างดี"
ข้อมูลทั้งหมดจึงแสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ประชากรส่วนใหญ่ มีภูมิต้านทานเกิดขึ้น จากการฉีดวัคซีนและจากการติดเชื้อมาแล้วเป็นจำนวนมาก และการติดเชื้อซ้ำ จะทำให้อาการต่างๆน้อยลง โรคก็จะดำเนินต่อไป เป็นประจำฤดูกาล ภาพรวมความรุนแรงของโรคจะน้อยลง เพราะประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงกับสายพันธุ์
เข้าสู่ โรคทางเดินหายใจประจำฤดูกาล
ขณะที่ วานนี้ 4 กันยายน 2565 "หมอยง" ได้กล่าวด้วยว่า การระบาดของโรคโควิด 19 กำลังเข้าสู่แบบเดียวกับ โรคทางเดินหายใจ ประจำฤดูกาล ประจำปี เช่นไข้หวัดใหญ่ โรคจะระบาดมากตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน ในฤดูฝน และนักเรียนเปิดเทอม และจะเริ่มลดลง ในปลายเดือนกันยายน
ขณะที่นักเรียนสอบและปิดเทอม การระบาดจะน้อยลงจนถึงกลางเดือนธันวาคม และจะมีการระบาดขึ้นอีก พีคหนึ่ง ในฤดูหนาว ตั้งแต่ช่วงปลายธันวาคมจนถึงต้นเดือนมีนาคม แต่การระบาดในช่วงนี้จะไม่รุนแรง และจะเข้าวงจรใหม่ ในเดือนมิถุนายนปีหน้า เช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่และโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ที่มีวงจรเป็นแบบนี้
ดังนั้น โรค covid-19 ของเราอยู่ในขาลง และจะลดลงตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป อย่างเห็นได้ชัด
ไทยติดเชื้อยืนยันสะสม ตั้งแต่ปี 63 กว่า 4.65 ล้านราย
ข้อมูลจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงาน สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565
- ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 1,360 ราย
- ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,436,467 ราย
- หายป่วยแล้ว 2,443,568 ราย
- เสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย
- เสียชีวิตสะสม 10,724 ราย
ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563
- ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,659,902 ราย
- หายป่วยแล้ว 4,612,062 ราย
- เสียชีวิตสะสม 32,422 ราย
ไทยฉีดวัคซีนเข็ม 3 สะสม 31.8 ล้านโดส
รายงานจำนวนการได้รับ วัคซีนโควิด-19 สะสม (28 ก.พ. 2564 - 4 ก.ย. 2565) รวม 142,850,396 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,270,511 ราย
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,743,238 ราย
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,836,647 ราย
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 4 กันยายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 9,920 โดส
- เข็มที่ 1 : 1,016 ราย
- เข็มที่ 2 : 1,893 ราย
- เข็มที่ 3 : 7,011 ราย