กทม.ดูแลบัตรทองได้แค่ 20 % เช็กจุดคนกรุงเข้าถึงบริการ
เมื่อกรุงเทพมหานครดูแลคนรักษาพยาบาลสิทธิ์บัตรทองได้แค่ 20 % เช็กแนวทางคนกรุงจะเข้าถึงระบบบริการและสิทธิประโยชน์
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานระบบบริการสาธารณสุขพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีการจัดเสวนาในหัวข้อ “ทศวรรษที่ 3 สู่การสร้างความเชื่อมั่นเครือข่ายระบบบริการสุขภาพของคนกรุงเทพมหานคร”
กทม.ให้บริการบัตรทองได้แค่ 20 %
นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ใน กทม. มีจำนวน
- โรงพยาบาลทั้งหมด 12 แห่ง
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง
- ศูนย์สาขาอีก 13 แห่ง
ที่มีบทบาทในการดูแลสุขภาพของประชาชน กทม. ทราบดีว่ายังไม่สามารถดูแลได้อย่างครอบคลุมทั้งหมด
- ตามทะเบียนราษฎร์ กทม. มีประชากรราว 5 ล้านคนในพื้นที่
- ข้อมูลประชากรที่ลงทะเบียนระบบบัตรทอง ในกทม. มีถึง 7.8 ล้านคน
ในจำนวนนี้ ทาง กทม. สามารถให้บริการได้เพียง 20% เท่านั้น จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะสั้น 90 วัน เช่น
- การจัดตั้งศูนย์ผู้พิการเบ็ดเสร็จ
- คลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย (Pride Clinic)
ต่อจากนี้ จะมีการพัฒนาระบบและเชื่อมโยงข้อมูล เช่น
- ระบบบัตรทอง การตั้งศูนย์ฟื้นฟูเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ (Rehab Center)
- ยกระดับอาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร (อสส.) ให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างเข้มแข็งให้ชุมชน
- ขยายการสร้างเครือข่ายระบบบริการตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ มีการดำเนินการและประสบความสำเร็จไปแล้วบางส่วน ได้แก่ กรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ ดุสิตโมเดล ราชพัฒน์โมเดล
- สร้างบริการ เช่น การมีรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ โมบายแล็ป (Mobile Lab) การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ตลอดจนกระบวนการรักษาแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น
“กรุงเทพมหานคร ไม่สามารถทำโดยลำพังได้ คงจะต้องมีความร่วมมือจากภาคเครือข่ายในกรุงเทพมหานครทั้งหมด สปสช. สบส. ที่จะต้องมาจับมือกันเพื่อทำให้เกิดระบบการให้บริการ” นพ.สุขสันต์ กล่าว
พัฒนาระบบบัตรทองกทม.
พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า กทม. จะมีหน่วยบริการด้านปฐมภูมิเป็นหลักที่ให้บริการอยู่ แต่ในจำนวนที่มีอยู่ยังไม่สามารถครอบคลุมประชาชนได้ทั้งหมด จากนี้อาจต้องเพิ่มหน่วยบริการเสริมในส่วนนี้ โดยอาศัยระบบการดูแลรักษาที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาให้เป็นโอกาสที่จะต่อยอดให้เกิดขึ้น เช่น
- ร้านยาชุมชนอบอุ่น ที่สามารถแนะนำและคัดกรองโรคทั่วไปได้ ซึ่งมีการเปิดให้บริการแล้วบางพื้นที่
- สปสช. ช่วยระบบฐานข้อมูล และสนับสนุนการเบิกจ่าย เพื่อให้เกิดการวางแผนร่วมกันและบริหารจัดการ
- มี ผู้บริหารจัดการพื้นที่ (Area Manager) ที่จะสามารถจัดการทั้งข้อมูลและระบบในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน และนำไปสู่การทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น
ระบบส่งต่อบัตรทองกทม.
พลอากาศเอก นพ.ทวีพงษ์ ปาจรีย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การจะทำระบบส่งต่อที่พึงประสงค์และมีประสิทธิภาพ โดยหลักแล้วไม่มีอะไรที่ซับซ้อน แต่ประเด็นอยู่ที่ความพึงประสงค์ ซึ่งมีองค์ประกอบอยู่ 4 ส่วนที่เป็นตัวกำหนด ได้แก่
1. ผู้รับบริการ
2. สถานพยาบาลที่ส่งต่อ
3. สถานพยาบาลที่รับส่งต่อ
4. สปสช และโดยทั่วไปในแต่ละส่วนจะใช้เกณฑ์ทั้งหมด 5 มิติ ได้แก่
- คุณภาพ
- ความปลอดภัย
- ประสบการณ์
- เจ้าหน้าที่
- การเงิน ในการพิจารณา
การที่จะลดความแปรปรวนของระบบได้คือ โรงพยาบาลต้องร่วมมือกันตั้งแต่ต้นโดยสร้างเครือข่ายในการแบ่งปันและสนับสนุน 3 สิ่ง ดังนี้
1. บุคลากร
2. ทรัพยากร
3. ความรับผิดชอบ
ซึ่งจะทำให้การออกแบบต่อเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงทำมาตรฐานคลินิกที่มาร่วมเป็นเครือข่าย เพื่อให้เกิดความไหลลื่นในการส่งต่อ ตลอดจนเชื่อมฐานข้อมูลแต่ละหน่วยบริการ
สิทธิประโยชน์บัตรทองกทม.
สำหรับสิทธิบัตรทองที่เข้าถึงได้
- สิทธิการคลอดบุตรไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- สิทธิในการตรวจและเข้ารักษาพยาบาล ตลอดจนฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์
- สิทธิได้รับค่าอาหารและห้องสามัญ
- สิทธิในการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ทำฟันปลอม รักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม ใส่เพดานเทียมสำหรับผู้ที่เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่
- ยาและเวชภัณฑ์ตามกรอบบัญชียาหลักแห่งชาติ
- เจ็บป่วยทั่วไป ที่ไม่ใช่อาการฉุกเฉิน
สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการประจำตามสิทธิ เพียงยื่นบัตรประชาชน
- เจ็บป่วยฉุกเฉิน ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
เพื่อป้องกันการเสียชีวิตหรืออาการรุนแรงขึ้น แบ่งออกเป็น 3 ระดับ สีแดง สีเหลือง และสีเขียว (ตามนิยามทางการแพทย์) ให้เข้ารับบริการกับหน่วยบริการของรัฐหรือเอกชนที่เข้าร่วมโครงการที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง กรณีเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่เข้าร่วม ให้ติดต่อ สายด่วน สปสช. 1330 เพื่อแนะนำข้อมูลหรือประสานหาเตียงรองรับ
- อุบัติเหตุ แบ่งเป็น 2 กรณี
- หากประสบอุบัติเหตุทั่วไป ให้ปฏิบัติเหมือนกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
- กรณีประสบอุบัติเหตุจากรถ ต้องใช้สิทธิตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหมดก่อน ส่วนเกินจึงจะใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้