"หมอยง" เผยตลอด 3 ปี การดูแลผู้ป่วย "โควิด-19" ของไทย เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
"หมอยง" เผยตลอด 3 ปี การดูแลผู้ป่วย "โควิด-19" ของไทย เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ภูมิต้านทานที่มีอยู่ขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบลูกผสม คือจากวัคซีนและการติดเชื้อ ทำให้ผลที่ได้ มีประสิทธิภาพสูง
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่วรายงานว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หรือ "หมอยง" หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กประเด็น "โควิด-19" ระบุว่า
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการผ่อนหนักผ่อนเบาในการดูแลผู้ป่วย และจัดการกับการระบาดของโรคโควิด 19 มีทั้งผ่านอุปสรรค อย่างมากมาย โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์
ผลลัพธ์ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะมีการสูญเสีย มีผู้เสียชีวิตสูงถึง อย่างน้อย 33,000 คน หรือเฉลี่ยปีละ 10,000 คน เมื่อดูแล้วก็นับว่ามากพอดู แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศทางตะวันตก ไม่ว่ายุโรปและอเมริกา
ในอเมริกาเอง มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านคนในช่วง 3 ปี หรือเปรียบเทียบกับประชากรประมาณ 3,200 คน ต่อประชากร 1 ล้านคน สำหรับของประเทศไทยอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 470 ต่อประชากร 1 ล้านคน หรือน้อยกว่าอเมริกามากกว่า 6 เท่า ข้อมูล จาก Our world in data
อเมริกาเริ่มให้วัคซีนก่อนประเทศไทย และมีการใช้วัคซีนส่วนใหญ่ เป็น mRNA ทั้งสิ้น ก่อนประเทศไทยหลายเดือน แต่ผลระยะยาวทุกคนคงเข้าใจแล้วว่า มาตรการในการดูแลควบคุมโรค ต้องประกอบไปด้วยหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะวัคซีนเท่านั้น เรามีวัคซีน mRNA ใช้ในประเทศไทยช้ากว่าอเมริกาเกือบร่วมปี และในที่สุดก็ทราบว่าวัคซีนแต่ละชนิดไม่มีความแตกต่างกันเลย กาลเวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์ ความคาดหวังแต่เริ่มแรก ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด
ขณะนี้เรากำลังกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ มากขึ้น และในที่สุดเชื่อว่าในปีหน้าก็จะเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ Q2 เป็นต้นไป แม้ยังมีโรคนี้อยู่ที่เป็นโรคประจำฤดูกาล
มรสุมที่เราได้ต่อสู้มา ยาวนาน ยิ่งกว่าวิ่งมาราธอน และในที่สุด ก็จะถึงเป้าหมาย และก้าวผ่านไปได้อย่างดี ภูมิต้านทานที่เรามีอยู่ขณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นภูมิต้านทานแบบลูกผสม คือจากวัคซีนและการติดเชื้อ ซึ่งผลที่ได้ มีประสิทธิภาพสูง ถึงแม้ว่าจะมีการติดเชื้อซ้ำได้อีก ความรุนแรงของโรคก็จะลดลงไปตามลำดับ จำนวนผู้ป่วยที่จะต้องนอนโรงพยาบาล หรือป่วยหนัก ก็จะอยู่ในสภาวะที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้