ขยาย"บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" ประกันสังคม-ข้าราชการ สิ้นปี67
30บาทบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ขยับเฟส 2 อีก 8 จังหวัด ก่อนขยายเฟส 3 เดือน พ.ค. ครอบคลุม 27 จ. สามารถใช้บริการข้ามเขตสุขภาพได้ สิ้นปี 67 ครบทั้งประเทศ วางเป้าสิทธิประกันสังคม-ข้าราชการใช้ได้ด้วย ตั้ง “ไฟแนนซ์เชียล ดาต้า ฮับ” ทำหน้าที่เคลียริ่งเฮาส์เงิน
KEY
POINTS
- 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ระยะแรกนำร่อง 4 จังหวัดบริการ 2 เดือน ประชาชนพึงพอใจมากกว่า 99 % ไม่เพิ่มภาระงานบุคลากร ใช้บริการข้ามพื้นที่เพิ่ม 6.9 %
- ตั้งแต่ 1 มี.ค.2567 ขยับให้บริการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ระยะที่ 2 อีก 8 จังหวัด ก่อนขยับไประยะ 3 รวม 27 จังหวัดใน 4 เขตสุขภาพ สามารถใช้บริการรพ.ใดก็ได้ทั้ง 27 แห่ง
- ภายในสิ้นปี 2567 บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ จะครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ สิทธิประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการเข้าร่วมได้ ตั้ง “ไฟแนนซ์เชียล ดาต้า ฮับ” ทำหน้าที่เคลียริ่งเฮาส์เบิกจ่าย 3 กองทุน
หลังจากที่ตั้งแต่มกราคม 2567 มีการนำร่อง 30บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ใน 4 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข มีการแถลงข่าว ความพร้อม ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว นครราชสีมา อำนาจเจริญ หนองบัวลำภู และพังงา
บัตรประชาชนใบเดียว ใช้ข้ามเขตรพ.เพิ่ม 6.9 %
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่มีการดำเนินการ 30 บาทบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ระยะ 1 ใน 4 จังหวัด ซึ่งมีข้อกังวลในเรื่องการใช้บริการข้ามพื้นที่โดยที่ไม่ได้มีสิทธิอยู่ในพื้นที่เขตบริการของรพ. หรือเกรงจะไหลเข้ามารักษาในรพ.ใหญ่นั้น
ข้อมูลช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. เทียบระหว่างปี 2566 และ 2567 พบว่าการใช้บริการเพิ่มขึ้นใน4 จังหวัด ประมาณ 8.7% เมื่อเจาะลงไปในการใช้บริการข้ามเขต พบเพิ่มขึ้น 6.9% ซึ่งไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เพราะปกติที่มีการใช้บริการข้ามเขตประมาณ 10%
“ระยะที่ 1 ใน4 จังหวัด ประชาชนมีความพึงพอใจมากกว่า 99 % ไม่มีเสียงร้องเรียนจากผู้ให้บริการ ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระงานให้บุคลากร เนื่องจากมีการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้บริการ นอกจากนี้ ยังลดค่าใช้จ่ายของประชาชนด้วย ซึ่งได้มอบหมายให้มีการประเมินอีกครั้งว่าช่วยประหยัดได้มากน้อยแค่ไหน”นพ.ชลน่านกล่าว
8 จ.บัตรประชาชนใบเดียว ระยะ 2
ตั้งแต่ 1 มี.ค.2567 มีการขยายพื้นที่ 30บาทบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่อีก 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว นครราชสีมา อำนาจเจริญ หนองบัวลำภู และพังงา ซึ่งขณะนี้แต่ละจังหวัดมีความพร้อมและเริ่มให้บริการแล้ว โดยมีการออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล 2,949 ใบ บริการเทเลเมดิซีน 3,216 ครั้ง Health rider 62 ราย และส่งยา 1,719 ออร์เดอร์
“ที่มีความเป็นห่วงที่สุด คือเรื่องของไซเบอร์ซีเคียวริตี้ แต่ก็มีการพัฒนาโดยเฉพาะระบบโครงสร้างพื้นฐานจนมีความมั่นใจใน 96 รพ.ของ 8 จังหวัด โดยมีความปลอดภัยผ่านเกณฑ์มาตรฐานสากล 94 %”นพ.ชลน่านกล่าว
พ.ค.บัตรประชาชนใบเดียว 27จ.
จากนั้นจะเข้าสู่บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ระยะที่ 3 จากเดิมที่วางไว้ช่วงเดือนเม.ย.2567 ขยับเป็นเริ่มในเดือนพ.ค.2567 เนื่องจากงบประมาณปี 2567 น่าจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นไป ก็จะมีงบประมาณปกติมารองรับการดำเนินงานอย่างแน่นอน โดยจะครอบคลุม 27 จังหวัดใน 4 เขตสุขภาพ คือ
เขตสุขภาพที่ 1 เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง และลำพูน
เขตสุขภาพที่ 4 นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และนครนายก
เขตสุขภาพที่ 9 นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์
เขตสุขภาพที่ 12 ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
“30 บาทบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ระยะ 1 และ 2 นั้นยังเป็นการใช้บริการรพ.ใดก็ได้ถายในจังหวัดเดียวกัน แต่เมื่อเข้าสู่ระยะ 3 จะครอบคลุม 27 จังหวัดใน 4 เขตสุขภาพ ก็จะใช้บริการในรพ.แห่งใดก็ได้ใน 4 เขตนี้”นพ.ชลน่านกล่าว
ประกันสังคม-ข้าราชการใช้บัตรประชาชนใบเดียว
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ภายในสิ้นปี 2567 โครงการ 30 บาทบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่จะครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ ไม่เพียงให้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ราว 50 ล้านคน สิทธิอื่นไม่ว่าประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ ต่อไปก็ไปใช้บริการที่ไหนก็ได้ แต่การเชื่อมต่อระบบเบิกจ่ายยังใช้ตามสิทธิ
บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เปิดให้กับสิทธิ 30 บาทนำร่อง เพื่อให้สิทธิประกันสุขภาพภาครัฐอื่น อย่างประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ เข้ามาร่วมจัดบริการโดยสมัครใจ ไม่ต้องบังคับ เนื่องใจพรบ.หลักประกันแห่งชาติ พ.ศ.2545 มาตรา 9 และมาตรา 10 กำหนดว่า 3 กองทุนจะมาจัดบริการร่วมกันให้ไปคุยและออกพระราชกฤษฎีกา
“ 20 ปีที่ผ่านมาไม่เคยคุย เพราะต่างคนต่างหวงกองทุนตัวเอง แต่พอจัดระบบริการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ทุกฝ่ายจะเข้ามาร่วมด้วย เพราะไม่ได้ไปแตะกองทุนเขา แต่มาอำนวยความสะดวกเรื่องระบบการจ่ายและการดูแลข้อมูลเท่านั้น" นพ.ชลน่านกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าภายในสิ้นปี 2567 สิทธิประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถือเป็นเป้าหมายดำเนินการ โดยระบบมีการวางรองรับไว้ สิทธิไหนก็ตาม เอาบัตรประชาชนมารักษาจะถูกบันทึกข้อมูล PHR ในระบบ มี Health ID
ต่อไปใช้บริการก็สามารถเอาบัตรประชาชนใบเดียวไปใช้ได้ทุกกที่ แต่ต้องต่อดำเนินการเรื่องระบบการจ่ายเงิน เพราะแต่ละสิทธิจะมีกองทุนของตัวเอง ทำอย่างไรให้การจ่ายเงินง่าย สะดวก ผ่านศูนย์หรือเซ็นเตอร์ใหญ่เสมือนเป็นหน่วยเคลียริงเฮาส์ให้ แต่เงินอยู่กับแต่ละกองทุน
ตั้งไฟแนนซ์เชียล ดาต้า ฮับ
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ในอนาคตจะใช้การเบิกจ่ายผ่านระบบดิจิทัล เชื่อมโยงข้อมูลกันในฐานการเบิกจ่ายไฟแนนซ์เชียล ดาต้า ฮับ (Financial Data Hub) เสมือนมีเคลียริงเฮาส์ตรงกลางใหญ่ เมื่อมีคนเข้ารับบริการระบบก็จะแจ้งไปยังแต่ละกองทุนให้เบิกจ่ายไปยังรพ. ไม่ต้องใช้ระบบเบิกจ่ายตามปัจจุบัน จะอำนวยความสะดวก หน่วยบริการ
โดยแต่ละกองทุน จะเห็นข้อมูลทั้งหมด จะเห็นว่าการเบิกจ่ายสมเหตุสมผลไหม บริการจริงหรือไม่ มีบันทึกการเข้ารับบริการที่สามารถบยืนยันได้ ไม่ซ้ำซ้อน เป็นผลดีกับประเทศโดยรวมดูแลค่าใช้จ่ายในมิติสุขภาพ โดยจะมีกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ รับผิดชอบ
ผลบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ระยะ 1
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. กล่าวว่า ระยะแรก 4 จังหวัดนำร่อง ภายใน 2 เดือน ภาพรวมการดำเนินงานพบว่า
1.การพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพตนเอง รับบริการไร้รอยต่อ หน่วยงานในสังกัด สำนักงานปลัด สธ. 49 แห่ง ส่งข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูล MOPH PHR เชื่อมโยงระบบได้ครบ 100%
2.การพัฒนาระบบยืนยันตัวตน การเข้าถึงข้อมูล มีผู้รับบริการยืนยันตัวตน Health ID 1.3 ล้านคน และบุคลากรสาธารณสุขยืนยันตัวตน Provider ID รวม 12,695 ราย ลงทะเบียนต่อบุคลากรสูงสุดที่ จ.เพชรบุรี 78.7%
3.การพัฒนาระบบบริการแก่ประชาชน ออกลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ 4 วิชาชีพ รวม 1,230 คน ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัลสะสม 2,911 ใบ ให้บริการส่งยาและเวชภัณฑ์ผ่าน Health Rider 83.7% จัดส่งแล้ว 7,816 ครั้ง นราธิวาสสูงสุด 4,453 ครั้ง ประชาชนพอใจสูงสุด 99% นัดหมายออนไลน์ 43 แห่งจาก 49 แห่ง บริการการแพทย์ทางไกลเภสัชกรรมทางไกล 3,168 ครั้ง
4.การพัฒนา รพ.อัจฉริยะ Smart Hospital ความปลอดภัยไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล ผ่านเกณฑ์ประเมิน รพ.อัจฉริยะระดับเพชร 5 แห่ง ระดับเงิน 44 แห่ง ผ่านประเมินความปลอดภัยครบถ้วนทุกแห่ง แพร่ยกระดับความปลอดภัยระดับดีครบ 100% ทั้งจังหวัด
5.การเบิกจ่ายค่าชดเชยกับ สปสช. ผ่าน Financial Data Hub ทุกแห่ง มียอดเรียกเก็บ 624,437,769 บาท จาก 545,283 เคส อนุมัติแล้ว 80,893 เคส คิดเป็นร้อยละ 14.8% แพร่ส่งข้อมูลเบิกชดเชยมากที่สุด 191,373 เคส