ระวัง! "กินวิตามินดี"มากเกิน แคลเซียมในเลือดสูง อย.แนะนำปริมาณต่อวัน

ระวัง! "กินวิตามินดี"มากเกิน แคลเซียมในเลือดสูง อย.แนะนำปริมาณต่อวัน

ระวัง! "กินวิตามินดี"ต่อวันมากเกิน อาจทำให้แคลเซียมในเลือดสูงและเป็นอันตรายต่อร่างกาย ผู้ป่วย 4 โรคควรปรึกษาแพทย์ก่อนกิน

กรณี ข่าวต่างประเทศ พบชายวัย 89 ปี เสียชีวิต จากกินวิตามินดีในปริมาณสูงนาน 9 เดือน โดยทางนิติเวชได้ร้องเรียนให้มีการเขียนคำเตือนลงบนบรรจุภัณฑ์ด้วย

ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวิตามินดีที่ได้ อย. ในประเทศไทย มีความปลอดภัย หากรับประทานตามข้อแนะนำบนฉลาก

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยฉลากโภชนาการและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กำหนดค่าสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทย (THAI RECOMMENED DAILY INTAKES : Thai RDI) และปริมาณของวิตามินดีในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ไม่เกิน 15 ไมโครกรัมต่อวัน


ระวัง! \"กินวิตามินดี\"มากเกิน แคลเซียมในเลือดสูง อย.แนะนำปริมาณต่อวัน

 

และกำหนดให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดต้องแสดงคำเตือนในการบริโภค ได้แก่ “เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน” “ควรกินอาหารหลากหลาย ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ” และ “ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษาโรค” เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

วิตามินดีเป็นวิตามินที่สำคัญตัวหนึ่งของร่างกาย ที่มีบทบาทในเรื่องการเสริมสร้างสุขภาพของร่างกายในหลายด้าน โดยเฉพาะถ้าขาดวิตามินดี ในช่วงวัยเด็กจะทำให้เกิดเป็นโรคกระดูกอ่อนหรือโรคกระดูกน่วม ในผู้ใหญ่อาจนำไปสู่การเกิดภาวะกระดูกพรุน ซึ่งก็จะพบมีภาวะวิตามินดีในเลือดต่ำเช่นกัน

สำหรับผู้ใหญ่ ปริมาณวิตามินดีที่แนะนำให้รับประทานคือ 15 ไมโครกรัมต่อวัน ทั้งนี้ การรับแสงแดดในตอนเช้าก่อนเวลา 08.00 น. 15 - 30 นาที 3 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยให้ได้รับวิตามินดี

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานมากกว่า 100 ไมโครกรัมต่อวัน เพราะอาจทำให้แคลเซียมในเลือดสูงและเป็นอันตรายต่อร่างกาย อันเนื่องมาจากวิตามินดีได้

ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผู้บริโภคควรตรวจสอบว่า

  • ได้รับอนุญาตถูกต้อง โดยดูจากเลขสารบบอาหาร หรือ เลข อย.  ชื่อและที่อยู่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า สูตรส่วนประกอบ
  •  วิธีใช้ที่ถูกต้อง
  •  คำเตือนหรือข้อแนะนำบนฉลาก
  • วันเดือนปีที่หมดอายุและควรรับประทาน
  • และปฏิบัติตามข้อแนะนำ และคำเตือนบนฉลาก 
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะโรคกระดูกพรุน โรคไตเรื้อรัง โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอย หรือโรค hypercalcemia ที่จะรับประทานวิตามินดี ควรปรึกษาแพทย์ก่อน