กังวล! 'ไข้หวัดนก' ระบาดคู่ 'ไข้หวัดใหญ่' เกิดการแลกเปลี่ยนพันธุกรรม

กังวล! 'ไข้หวัดนก' ระบาดคู่ 'ไข้หวัดใหญ่' เกิดการแลกเปลี่ยนพันธุกรรม

กรมควบคุมโรค เตือน 5 โรคสำคัญ โควิด 19 ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ ไข้เลือดออก พิษสุนัขบ้า เฝ้าระวัง 2 โรคจากต่างประเทศ หวั่นไข้หวัดนกระบาดคู่ไข้หวัดใหญ่ 

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2568 ที่กรมควบคุมโรค พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค และนพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค ร่วมกันแถลงข่าว“กุมภาพันธ์ รู้ทันโรค รู้ทันภัย ป้องกันได้” พร้อมแนะวิธีป้องกันและดูแลตนเองให้ปลอดภัยห่างไกลโรคว่า โรคโควิด 19 ในปี 2568 มีผู้ป่วยสะสม 9,158 ราย กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อายุ 0 - 4 ปี รองลงมาอายุ 30 - 39 ปี และกลุ่มอายุ 20 - 29 ปี ตามลำดับ มีผู้เสียชีวิตสะสม 4 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบผู้เสียชีวิต คือ กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป สายพันธุ์ที่พบมากที่สุด คือ JN.1

โรคไข้หวัดใหญ่ มีผู้ป่วยสะสม 107,570 ราย เสียชีวิต 9 ราย โดยในปี 2568 นี้ มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นกว่าปี 2567 กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 5 - 9 ปี ซึ่งสายพันธุ์ที่ตรวจพบมากที่สุด   เป็น A/H1N1(2009) รองลงมาคือ B และ A/H3N2 ตามลำดับ

พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่พบในโรงเรียน ปัจจุบันมียาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir)ที่ใช้รักษา และลดอาการรุนแรงของโรค แนะนำให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกๆ ปี เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

โรคปอดอักเสบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ป่วยสะสม 65,777 ราย เสียชีวิต 49 ราย โดยในปี 2568 มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นกว่าปี 2567 โดยกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ      กลุ่มอายุ 0 - 4 ปี รองลงมาคือ อายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุ 5 - 9 ปี ตามลำดับ

ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป รองลงมาคือ 50 - 59 ปี และอายุ 40 - 49 ปี ยังคงเน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปในที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ล้างมือบ่อยๆ       ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ หากพบว่าป่วยเป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจควรหยุดพักรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ

โรคไข้เลือดออก สถานการณ์ปี 2568 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา 4.8 เท่า           โดยมีผู้ป่วย 3,550 ราย ผู้เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มวัยเรียน และอัตราป่วยตายสูงในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยคาดการณ์ว่าผู้ป่วยในปี 2568 จะต่ำกว่าปี 2567

เน้นย้ำให้กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทำความสะอาดบ้าน ไม่ให้มีมุมอับทึบ พักผ่อนในห้องที่มีมุ้งลวด หากมีผู้ป่วยในบ้าน หรือใกล้บ้าน ให้เจ้าหน้าที่ฉีดพ่นกำจัดยุงตัวเต็มวัยทั้งในและนอกบ้าน สังเกตอาการบุตรหลาน และผู้สูงอายุในบ้าน หากมีอาการไข้สูงลอยมากกว่า 2 วัน ทานยาพาราเซตามอล งดทานยากลุ่ม NSAIDs เช็ดตัวแต่ไข้ไม่ลด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีจุดผื่นแดงตามตัว ควรรีบไปพบแพทย์

โรคพิษสุนัขบ้า สถานการณ์ปี 2568 มีจำนวนสัตว์พบเชื้อ 34 ตัว โดยมีการพบเชื้อในสัตว์สูงสุด     ที่จังหวัดขอนแก่น บุรีรัมย์ มหาสารคาม สงขลา และอุบลราชธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งโรคพิษสุนัขบ้านั้น ไม่ได้เกิดเฉพาะช่วงหน้าร้อนแต่พบได้ทั้งปี การป้องกันที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงการสัมผัส โดยใช้หลัก 5 ย. “อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง”

ย้ำประชาชน หากพบโค กระบือ ป่วยตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เพื่อการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และห้ามชำแหละซากเพื่อบริโภค เนื่องจากการชำแหละเนื้อสัตว์โดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน และการรับประทานเนื้อดิบก็อาจติดโรค       พิษสุนัขบ้าได้ ทั้งนี้ หากถูกสุนัขกัด แม้พบแผลเล็กน้อยควรเข้าพบแพทย์เพื่อพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

โรคจากต่างประเทศ ที่กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ โดยสถานการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่น ทางสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติญี่ปุ่นได้มีการรายงานว่า ระหว่างวันที่ 2 กันยายน 2567 ถึง 26 มกราคม 2568 มีผู้ป่วยสะสม 9.52 ล้านราย เฉลี่ยวันละ 66,132 ราย             

และในประเทศไต้หวัน ระหว่างวันที่ 19 - 25 มกราคม 2568 มีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เข้ารับการรักษาสูงถึง 162,352 ราย ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2567 จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบผู้ป่วยอาการหนัก 667 ราย และเสียชีวิต 132 ราย โดยผู้ป่วยอาการหนักส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี โดยสายพันธุ์ที่พบส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ A ซึ่งพบสายพันธุ์ย่อยที่สำคัญสองชนิด คือ A(H1N1) และสายพันธุ์ A(H3N2)

โรคไข้หวัดนก สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในคน และสัตว์ (สัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดเชื้อ) ทั่วโลกยังพบมีรายงานเป็นระยะ โดยเฉพาะสายพันธุ์ A(H5N1) ซึ่งติดต่อจากสัตว์มาสู่คน ทั้งนี้จากการรายงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2568 มีผู้ป่วยสะสม 68 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยพบรายล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568

ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ หลังจากพบผู้ป่วยรายสุดท้าย เมื่อปี 2549 ทั้งนี้ ประเทศไทย มีระบบเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หวัดนกทั้งในคน สัตว์และสัตว์ป่า รวมทั้งประเมินความเสี่ยง เน้นย้ำประชาชนไม่สัมผัสสัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ป่วยตาย

“สิ่งที่กังวลคือไข้หวัดนกจะระบาดพร้อมกันกับไข้หวัดใหญ่มาพบกัน แล้วเกิดการผสมและมีการแลกเปลี่ยนพันธุกรรมกันเกิดขึ้น จนทำให้ไข้หวัดนกที่ปกติเป็นโรคติดต่อจากสัตว์มาสู่คน จะกลายเป็นติดจากคนสู่คนเหมือนกับไข้หวัดใหญ่”นพ.วีรวัฒน์กล่าว