กางแผน‘นวดไทย’ ดังทั่วโลก ปรับภาพลักษณ์ หมอนวดสตาร์ อัปราคาขึ้น 

ดังที่ทราบกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) วาดหวังตัวเลขมูลค่าเศษฐกิจสุขภาพจาก “นวดไทย” อย่างน้อยปีละ 1.44 แสนล้านบาท  จึงเดินหน้าแผนยกระดับอาชีพ คุณภาพมาตรฐานและภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นในการดูแลสุขภาพด้วยการนวดไทยให้เป็นที่ยอมรับ ทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือด เปิดวิทยาลัยการนวดไทยแห่งประเทศไทย 

โฆษิต สุวินิจจิต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการยกระดับนวดไทยว่า ปัจจุบันการจดทะเบียนขึ้นธุรกิจบริการสุขภาพทั้งเวลเนส(wellness) สปา และต่างๆเพิ่มขึ้นจำนวนมาก มีความสนใจไประดับต่างประเทศ แต่จากการประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมและยกระดับการนวดไทย พบว่า ในประเทศไทยยังขาดหมอนวดไทยสุขภาพราว 50,000 คน

 แต่ยังเห็นปัญหาของนวดไทยในหลายเรื่อง เช่น มาตรฐานที่มีเพี้ยนไปมาก โดยคนแฝงเข้ามาจนทำให้อาชีพหรือวิชาชีพนวดไทยเสียหายกลายเป็นอาบ อบ นวด จากการที่นวดไทยได้รับความนิยม  หรือ ในภาพยนตร์ไวท์โลตัสซีซั่น 3 มีช่วงนึงที่ไปใช้บริการในเวลเนสไทยแล้วระบุว่า ไปนวดไทยแล้วผิดหวังมากเพราะไม่มีการนวดกระปู๋ จึงต้องแยกมาตรฐานนวดไทยที่ดีให้ชัดเจนว่ามีความแตกต่างจากอาบ อบ นวด เป็นการปรับภาพลักษณ์ของนวดไทย

ปรับภาพลักษณ์ใช้ทับศัพท์ “นวดไทย (Nuad Thai) 

นวดไทยได้รับการขึ้นทะเบียนเจากยูเนสโกเป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติในปี พ.ศ.2562 โดยยูเนสโกใช้คำว่า Nuad Thai, ไม่ใช่ Thai Massage ดังนั้น ควรแยกให้ชัดระหว่างนวดไทย(Nuad Thai) กับอาบอบนวด(Thai Massage)

จากนี้ขอความร่วมมือหากเป็นนวดไทยที่เป็นการนวดเพื่อสุขภาพหรือนวดรักษา ให้ใช้ภาษาอังกฤษทับศัพท์ว่า Nuad Thai ตามยูเนสโก ให้เป็นเรื่องที่ทั่วโลกคุ้นเหมือนกับมวยไทย โดยหากจะอธิบายนวดไทยให้ลงลึกก็ต้องระบุว่า Thai Traditional Medicine Massage ไม่ใช่ Thai Massageเฉยๆ เพื่อทำให้นับจากนี้นวดไทยต้องดังระดับโลก

“ต้องแยกนวดน้ำดีน้ำเสียออกจากกันให้ได้ กรณีอาบ อบ นวดนั้น สธ.ไม่เกี่ยว เป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย(มท.) แต่จากนี้หากมีการขึ้นป้ายว่านวดไทย(Nuad Thai)แล้วทำผิดมาตรฐานหรือทำผิดเพี้ยน จะมีการดำเนินการตามกฎหมายของสธ. เพราะถือว่ากำลังทำลายภูมิปัญญาของชาติ มรดกโลก ซึ่งศักดิ์ศรีหมอนวดไทยเป็นอาชีพที่ต้องยกย่อง”

หมอนวด 5 ระดับ – มีดาว-อัปราคา

สำหรับหมอนวดอาชีพ  ดำเนินการเรื่องมาตรฐานจะมีการแยกหมอนวดที่ผ่านการอบรมจำนวนชั่วโมงที่ต่างกันเป็น

• Dtam 1 ฝึกอบรมหลักสูตร 60 ชั่วโมง
• Dtam 2 ฝึกอบรมหลักสูตร 150 ชั่วโมง
• Dtam 3 ฝึกอบรมหลักสูตร 300 ชั่วโมง
• Dtam 4 ฝึกอบรมหลักสูตร 500-800 ชั่วโมง
• และ Dtam 5 จำนวนฝึกอบรมหลักสูตรก็มากขึ้นอีก

การที่ได้รับรอง Dtam ระดับ1-5 ก็จะมีรายได้ต่างกัน เหมือนเป็นการศึกษาระดับตรี โท เอก แต่ละขั้นของวุฒิการศึกษาต้องมีรายได้มากขึ้น จึงจะจูงใจ ส่งเสริมการอัปสกิล รีสกิล นิวสกิลให้กับหมอนวด โดยราคาแนะนำที่หมดนวดควรได้รับกรณี Dtam 1 อยู่ที่ 100-150 บาทต่อชั่วโมง Dtam 2 ราคา 150-200 บาทต่อชั่วโมง และระดับที่เพิ่มขึ้นราคาก็จะเพิ่มขึ้นขั้นละ 50 บาท

ส่วนสถานบริการจะไปตั้งราคาบวกจากค่าตอบแทนที่หมดนวดอาชีพควรจะได้รับกี่เท่าขึ้นอยู่กับระดับสถานที่ให้บริการ  และประชาชนผู้รับบริการได้รับรู้และเลือกระดับหมอนวดได้

อนาคตจะมีการกำหนดดาวให้กับหมอนวด ด้วยเหมือนมิชลินสตาร์ในวงการอาหาร ที่มีมิชลินสตาร์ 1 ,2 หรือ 3 ดาว เป็นต้น ก็จะทำให้หมอนวดอยากพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกครั้งที่พัฒนาสามารถเพิ่มค่าตอบแทนได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้รับบริการที่มีกำลังซื้อก็สามารถเลือกรับบริการได้

ส่วนกรณีหมอนวดวิชาชีพที่ยังขาดและส่งเสริมอีก 20,000 คนให้เป็นหมอนวดเฉพาะทาง 7 อาการ โดยกำหนดค่าตอบแทนให้หมออยู่ที่ 800 บาทต่อเคสรักษา  ประกอบด้วย

•  กลุ่มปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Office syndrome)
• โรคหัวไหล่ติด
• โรคนิ้วล็อก
• ภาวะกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (ปวดสลักเพชร)
• หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
• อัมพฤกษ์ อัมพาต
• กลุ่มระบบสืบพันธุ์

“หมอนวดเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งภาคเอกชนการันตีให้ว่ารายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 20,000 บาท ไม่รวมทิปส์  และยังขาดอยู่ 50,000-60,000 คน ต่อไปนวดไทยก็อาจจะมีค่าบริการหลักร้อยถึงหลายพันบาท อย่างร้านทำผมก็ยังมีแยกค่าบริการตั้งแต่หลักร้อย เป็นหลักพันเช่นกัน” 

เปิดให้ร้านนวดยืมเงินพัฒนาหมอนวดไทย 

ในการอบรมเป็นหมอนวด อย่างกรณีฝึกอบรม 150 ชั่วโมงอาจจะมีราคาอยู่ที่ 15,000-20,000บาทแล้วแต่สถาบัน โดยกรมการแพทย์แผนไทยฯจะส่งเสริม ขณะนี้รับสมัครนำร่อง จำนวน 1,000 ราย 

ส่วนระยะต่อไปจะยึดร้านบริการเป็นศูนย์กลาง โดยกรมจะหาคนไปอบรมเป็นหมอนวดให้แล้วให้ร้านสัมภาษณ์ขั้นต้นแล้วพิจารณาเลือกเอง ส่วนสถานฝึกอบรมของหมอนวดก็ให้ร้านเลือกเอง เมื่ออบรมเรียบร้อยแล้วก็ส่งกลับหมอนวดไปทำงานที่ร้าน การันตีเรื่องการมีงานทำ

“กรมจะพิจารณาให้ร้านนวดยืมเงินจากกองทุนภูมิปัญญาไทย เพื่อนำไปส่งคนเข้าอบรมเป็นหมอนวด  เป็นการพัฒนาอาชีพ ไม่ต้องกู้ ไม่มีดอกเบี้ย แต่ต้องคืนเงินหลังหมอนวดได้เข้าทำงานแล้ว จะได้นำไปหมุนเวียนต่อไปเรื่อยๆ”

รวบรวม “หมอนวดพื้นบ้านมือทอง”

ไม่เพียงเท่านี้ กำลังดำเนินการโครงการ “หมอนวดมือทอง” ทั่วประเทศ นำร่อง 100 คน โดยรวบรวมองค์ความรู้จากประสบการณ์ หมอนวดพื้นบ้านที่เป็นบุคคลซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากตำรามรดกตระกูล หรือได้รับการถ่ายทอดจากสำนักหรือวัด จะแตกต่างจากหมอนวดที่ผ่านการฝึกอบรมตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนด โดยรวบรวมองค์ความรู้มาเป็นในรูปวิดีโอ เพื่อให้เป็นสมบัติของชาติ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้กฎระเบียบ โดยเฉพาะในส่วนของหมอพื้นบ้านที่ได้รับการรับรองจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกแล้ว แต่กลับถูกจำกัดพื้นที่ในการรักษา ห้ามออกนอกพื้นที่ ห้ามเป็นการค้า ทำให้ลูกหลานไม่มีใครอยากสืบทอดต่อ ภูมิปัญญาไทยก็จะสูญหาย

"อนาคตจะมีการทำแอปฯหมอนวดไทย และคนที่ทำTikTok อยู่ขณะนี้แล้วใช้คำว่านวดไทยเดลิเวอรี่ ต่อไปจะทำไม่ได้ ขอว่าอย่าทำลายภูมิปัญญาชาติและมรดกโลก"