เตรียมรับมือ ขาดแคลนแรงงาน ผลิตผล-รายได้ภาษีลดลง ผลเด็กเกิดน้อย

เตรียมรับมือ ขาดแคลนแรงงาน ผลิตผล-รายได้ภาษีลดลง ผลเด็กเกิดน้อย

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเด็กเกิดน้อย ขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ผลิตผลของประเทศลดลง รายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลง และพึ่งพาแรงงานข้ามชาติมากขึ้น

KEY

POINTS

  • สถานการณ์ด้านประชากร พบว่า จำนวนการตายมากกว่าการเกิด เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเด็กเกิดน้อย มีอัตราการเจริญพันธุ์รวม อยู่ที่ 1.12 จากค่าที่ควรจะ

ในปี 2566 จำนวนการเกิด เหลือเพียง 462,240 คน จำนวนการตาย 571,646 คน และ จำนวนบุตรโดยเฉลี่ย  ลดลงจาก 6 คนเหลือเพียง 1.12 คน การลดลงของ จำนวนประชากร คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก อย่างน้อย 15 - 20 ปีจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ

กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จำเป็นต้องส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพต่อไป เพราะการมีบุตรได้ตามต้องการเป็นสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์ และเป็นมาตรการเดียวในขณะนี้ที่สามารถวัดประสิทธิภาพได้ กรมอนามัยจึงร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พัฒนาคุณภาพการจัดบริการคลินิกส่งเสริมการมีบุตร

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ในอนาคตและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก โครงสร้างประชากรเปลี่ยน ปี  2566-2626 โดยประชากรลดลงจาก 66 ล้าน เหลือเพียง 33 ล้านคน

  • วัยสูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นจาก 8 ล้านคนเป็น 18 ล้านคน ภาวะพึ่งพิงวัยสูงอายุ เพิ่มขึ้น งบประมาณในการดูแลรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น
  • วัยทำงาน อายุ 15-64 ปีลดลงจาก 46 ล้านคน เหลือ 14 ล้านคน จำนวนแรงงานลดลง , ผลผลิตโดยรวมของประเทศลดลง , ภาษีที่จัดเก็บได้ลดลง
  • วัยเด็ก อายุ 0-14 ปี ลดลงจาก 10 ล้านคน เหลือ 1 ล้านคน

ชงวาระแห่งชาติ

ขณะที่มติคณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 และครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 และวันที่ 25 ธันวาคม 2566 เห็นชอบให้เสนอ (ร่าง) วาระแห่งชาติ ประเด็น ส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาประชากรและทุนมนุษย์ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายกรัฐมนตรี สำนักงานเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีจึงได้ถอนเรื่องกลับมาเพื่อเสนอใหม่

และ ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ (บอร์ดอนามัยเจริญพันธุ์) ที่มีนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข เป็นประธานเห็นชอบในหลักการให้เสนอ (ร่าง) วาระแห่งชาติเรื่องนี้ต่อครม. เนื่องจากประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเด็กเกิดน้อย โดยมีอัตราการเจริญพันธุ์รวม (Total Fertility Rate: TFR) หรือจำนวนบุตรโดยเฉลี่ยตลอดวัยเจริญพันธุ์ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถมีบุตรได้ ปัจจุบันอยู่ที่ 1.12 จากค่าที่ควรจะเป็นที่ 2.1

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเด็กเกิดน้อย

ในที่ประชุมมีการนำเสนอผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเด็กเกิดน้อย

1.ขาดแคลนแรงงาน ซึ่งปี  2566 จำนวนประชากรเข้าสู่วัยแรงงาน อายุ 20-24 ปี ไม่สามารถชดเชยจำนวนประชากรที่ออกจากวัยแรงงานอายุ 60-64 ปีได้  ส่งผลให้ผลิตผลของประเทศลดลง รายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลง และพึ่งพาแรงงานข้ามชาติมากขึ้น

2.อัตราส่วนพึ่งพิงวัยสูงอายุต่อวัยแรงงานเพิ่มขึ้น จากปี  2543 วันแรงงาน 7.1 คน ต่อผู้สูงอายุ 1 คน ปี 2563 วัยแรงงาน 3.6 คนต่อผู้สูงอายุ 1 คน เป็นวัยแรงงาน 1.8 คนต่อผู้สูงอายุ 1 คนในปี 2583 จะกระทบทำให้ความเครียดวัยแรงงานเพิ่มขึ้น รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และไม่ต้องการมีลูก

3.ครอบครัวเดี่ยว ที่ไร้บุตรหลาน จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ในปี 2549 อยู่ที่ 26.1 % เป็น 37.4 % ในปี 2561 ทำให้ผู้สูงอายุขาดคนดูแลอยู่ตามลำพังกระทบสุขภาพกายและจิต 

ส่วนการที่ต้องผลักดันเรื่องส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพเป็นวาระแห่งชาติ

1.การตัดสินใจมีบุตร มีปัจจัยที่ส่งผลหลายด้าน ส่วนใหญ่เกิดจากเศรษฐกิจและสังคม

2.ผลกระทบจากเด็กเกิดน้อย ด้อยคุณภาพ ส่งผลเชิงลบต่อการผลิต การบริโภค ประสิทธิผล ของนโยบายการคลัง การแข่งขันกับต่างประเทศ และความสามารถในการวิจัยและพัฒนา

3.การแก้ไขปัญหา ไม่สามารถด าเนินการได้ด้วยกระทรวงเดียว

4.ถ้ารัฐเข้ามาลงทุน ในทรัพยากรมนุษย์ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง จะท าให้ประชาชนได้รับสิทธิอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เป้าหมายใน(ร่าง) วาระแห่งชาติ ส่งเสริมการมีบุตร

ใน(ร่าง) วาระแห่งชาติ ส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ กำหนดเป้าหมาย อัตราการเจริญพันธุ์รวมภายในปี 2570 อยู่ที่ไม่น้อยกว่า 1 และภายในปี  2585 ไม่น้อยกว่า1.0-1.5  ส่วนผลสัมฤทธิ์ที่คาดว่าจะได้รับ ในระดับประเทศ ส่งเสริมการเกิดอย่างมีคุณภาพเป็นการลงทุน ในทรัพยากรมนุษย์ก่อให้เกิดความมั่นคง ในระยะยาว ทางเศรษฐกิจ สังคม และเชื้อชาติ บรรเทาปัญหาและความท้าทายของประเทศ ที่เกิดจากการเป็นสังคมสูงวัย

  • ระดับสังคม สังคมมีความรู้ เข้าใจสถานการณ์ทางประชากร และวางแผนรับมือผลกระทบที่เกิดจากจำนวน การเกิดที่ลดลงได้ มีทัศนคติที่ดีต่อการสร้างครอบครัว ความเท่าเทียม กันระหว่างชาย-หญิงในสังคมเป็นพลังร่วมกัน ขับเคลื่อนส่งเสริมการเกิดมีคุณภาพ
  • ระดับประชาชน  ได้รับสิทธิด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งเป็นสิทธิ มนุษยชนที่ทุกคนควรได้รับ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ ผ่านมาตรการขับเคลื่อนที่ภาครัฐใช้ เพื่อสร้าง แรงจูงใจในการมีบุตร

มาตรการสำคัญ (ร่าง) วาระแห่งชาติ 

มาตรการสำคัญ ใน(ร่าง) วาระแห่งชาติ  ประกอบด้วย

1.ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีบุตร ด้วยการแก้ไข ปรับปรุง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ,Family Friendly Workplace ,ช่วยหลือค่าใช้จ่ายในการดูและเลี้ยงบุตร ,สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยอายุ 0-2 ปี

2.เสริมสร้างความรู้และปรับเปลี่ยนทัศนคติ ให้เห็นว่าทุกการเกิดมีความสำคัญ รวมถึง บทบาทชายหญิง ความรู้และทัศนคติต่อการสร้างครอบครัวที่มีรูปแบบหลากหลาย

3.ผู้ตัดสินใจมีบุตรได้รับการดูแลอย่างครบวงจรและมีคุณภาพ เช่น การรักษาภาวะมีบุตรยาก ,การเจริญเติบโตและพัฒนาการและการให้คำปรึกษาทางเลือกกรณีท้องไม่พร้อม  โดยมีคณะกรรมการอำนวยการส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาประชากรและทุนมนุษย์ มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน