"ดอยคำ แชร์ริตี้" แบ่งปัน 3 ต่อ สมทบ "มูลนิธิรามาธิบดีฯ" เพื่อผู้ป่วยสูงวัย
“ดอยคำ” จับมือพันธมิตร สร้างสรรค์โครงการ “ดอยคำ แชร์ริตี้” (DOIKHAM SHARITY) ส่งต่อแนวคิด Share + Charity การแบ่งปันแบบ 3 ต่อ สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ สร้างศูนย์นวัตกรรมการแพทย์เพื่อผู้ป่วยสูงวัยและผู้ป่วยระยะท้าย
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด กล่าวว่า ดอยคำ เป็นองค์กรที่ดำเนินงานในรูปแบบ ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือขับเคลื่อนการสร้างสุขให้สังคมด้วยการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการมุ่งพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างรอบด้าน โดยดำเนินธุรกิจที่สร้างประโยชน์สุขแก่สังคมโดยรวมเสมอมา
นับตั้งแต่ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ต้นน้ำ คือ การสร้างให้เกษตรกรไทยมีความแข็งแกร่ง มีความรู้ เพื่อนำไปพัฒนาการเพาะปลูก รวมถึงการรับซื้อผลิตผลในราคาที่เป็นธรรม เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น กลางน้ำ คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรไทยสามารถแข่งขันได้ในทางธุรกิจ และ ปลายน้ำ คือการแบ่งปันสุขภาพดีให้คนไทย ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดีในราคาที่เข้าถึงได้
เพื่อเป็นการตอกย้ำพันธกิจองค์กรในการส่งต่อ แบ่งปัน และสร้างประโยชน์สุขคืนสู่สังคม ดอยคำจึงจับมือพันธมิตรจัดทำโครงการ “ดอยคำ แชร์ริตี้” (DOIKHAM SHARITY) เชื่อมโยงการแบ่งปันเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยทุกคน ภายใต้แนวคิด Share + Charity เชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมเป็นผู้ “ให้” ร่วมแบ่งปันและส่งต่อแก่มูลนิธิรามาธิบดีฯ ในการก่อสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์เพื่อผู้ป่วยสูงวัยและผู้ป่วยระยะท้าย” ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงโอกาสในการรักษาอย่างทันท่วงที ด้วยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุดพิเศษ “กิฟต์เซตสมุนไพร” (Herbal Giftset) และ “สเปรย์แอลกอฮอล์กลิ่นสมุนไพร” เพื่อนำรายได้จากการจัดจำหน่ายร่วมสมทบทุนในโครงการดังกล่าว
จากเกตรกร สู่มือผู้บริโภค
“จากความมุ่งมั่นตั้งใจที่อยากส่งต่อสิ่งดี ๆ แก่สังคม “ดอยคำ” ได้มุ่งพัฒนาสร้างสรรค์สินค้าจากชุมชนผ่านการส่งเสริมและรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรไทย เพื่อนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้และอาชีพที่ยั่งยืนแก่เกษตรกร โดยเฉพาะในกลุ่มสมุนไพร เนื่องจากเป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่าและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น"
"ดอยคำ จึงมุ่งเน้นผลักดันผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้รักสุขภาพ ทั้งในรูปแบบของน้ำสมุนไพรพร้อมดื่ม สมุนไพรชนิดผง และสมุนไพรสกัด ซึ่งการดำเนินโครงการดอยคำ แชร์ริตี้นี้ นอกจากจะเป็นการแบ่งปันสุขภาพดีส่งถึงมือผู้บริโภคในราคาที่เข้าถึงได้แล้ว ยังเป็นการแบ่งปันคืนสู่สังคม ด้วยการร่วมสมทบทุนกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ อีกด้วย” นายพิพัฒพงศ์ กล่าว
ทางด้าน นางสาวพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดี กล่าวว่า มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีบทบาทสำคัญ คือ การเป็นสะพานบุญแห่งการให้ส่งต่อน้ำใจจากผู้ให้ไปสู่ผู้ป่วย ผ่านโครงการต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบของการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล การจัดหาเครื่องมือแพทย์ การสนับสนุนงานวิจัย ซึ่งทั้งหมดนี้มุ่งหวังให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกระดับชั้น และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนในภาพรวม
ศูนย์ฯ ดูแลผู้ป่วยสูงวัย - ป่วยระยะท้าย
ในปีนี้ มูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้ผลักดันให้เกิด ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์เพื่อผู้ป่วยสูงวัยและผู้ป่วยระยะท้าย เพื่อรองรับการดูแลผู้คนในทุกช่วงวัยให้มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีจนนาทีสุดท้าย อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ ส่งเสริมการเรียนรู้และฝึกอบรมบุคลากร อาสาสมัคร และผู้ดูแลให้มีความรู้ ความชำนาญในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะสุดท้ายอย่างเป็นระบบ
โดยขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2567 ใช้งบประมาณการก่อสร้างอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท และยังขาดแคลนงบประมาณอีกจำนวน 770 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วจะสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปได้รวม 2,800 ราย/ปี รองรับผู้ป่วยใน 178 เตียง
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปิดจำหน่ายภายใต้ โครงการดอยคำแชร์ริตี้ จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านดอยคำทุกสาขาในเขตกรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Doikham - ดอยคำ