เทคนิค"พัฒนาคน" ให้เจ๋งรอบด้าน ผู้นำเปลี่ยน พนักงานปรับ สร้างธุรกิจยั่งยืน
เมื่อคนสมัครงานเลือกองค์กร องค์กรจึงต้องมีเสน่ห์ให้คนอยากมาทำงานนอกจากเงินเดือนแล้ว เขายังมองถึงผู้บริหาร เพื่อนร่วมงาน และวัฒนธรรมองค์กรที่ตอบโจทย์ชีวิตพวกเขา
Keypoint:
- ธุรกิจยั่งยืน มั่นคงได้ ผู้นำ และพนักงานต้องเป็นคนดี คนเก่ง พร้อมรับมือ กับทุกปัญหา ด้วยพื้นฐานคิดบวก
- วัฒนธรรมองค์กร คนในองค์กร ต้องไม่ดราม่า ทุกคนต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน รับฟังความคิดเห็น โดยเฉพาะผู้นำที่ต้องเปลี่ยน
- เทรนด์งานเปลี่ยน ธุรกิจต้องเปลี่ยน คนเลือกงาน งานเลือกคน อย่าเลือกงานเพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ต้องดูว่าองค์กรจะให้อะไรแก่เราบ้าง
ความยั่งยืน และความอยู่รอดขององค์กร ไม่ใช่เพียงการบรรลุผลกำไรของบริษัทเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับ “ผู้นำ พนักงาน” ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมาย พันธกิจ และวัฒนธรรมองค์กรได้ตลอดรอดฝั่ง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา
“บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX” บริษัทเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำของไทย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่ในปัจจุบันมีมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท และกำลังเตรียมพร้อมกระโดดเข้าสู่ตลาดธุรกิจเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาในประเทศ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
'HR' ยุคใหม่ เร่งเฟ้นหา คนทักษะไอที ตอบโจทย์องค์กร
เคล็ด(ไม่)ลับ สร้างดีเอ็นเอ 'EGCO' 'บริหารคน' บนความต่างระหว่าง Gen
พัฒนาทักษะ เลือกคนที่เหมาะสม
“วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX เล่าว่าเป้าหมายการเติบโตของวอริกซ์ ปี 2566 คือ การพัฒนาคน เพราะสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ต้องมีคนดี และคนเก่งในองค์กร ซึ่งที่ผ่านมาเขาจะเป็นเสมือนแม่ทัพในการสร้างยอดขาย
แต่ในปีนี้ ได้มีการเปิดรับผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารระดับกลางมากขึ้น เนื่องจากการจะเพิ่มสเกลจากร้อยล้านบาท เป็นพันล้านบาท เป็นหมื่นล้านบาทจะต้องมีกำลังคนที่มีศักยภาพ ต้องมีคนดีและคนเก่งมากขึ้น โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารระดับกลาง 19 อัตรา ซึ่งขณะนี้รับมาแล้ว 14 อัตรา
“ผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารระดับกลางใน 14 อัตรา จะมีทั้งหมด 7 อัตราที่ขึ้นตรงกับผม และในการพัฒนาคนกลุ่มนี้ จะเทรนให้เป็นนักรบที่พร้อมออกรบพร้อมทำงาน ผ่านการสอนงานจากผม ทั้งการทำให้ดู ทำงานร่วมกันผม และผมจะนั่งดูเขาทำ ซึ่งทั้ง 3 ขั้นตอน จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ว่าผมมองยังไง คิดยังไง และเขามองยังไง คิดยังไง เพื่อให้รูปแบบการทำงาน กรอบความคิดเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่ในกลุ่มพนักงาน จะพัฒนาทักษะตามความเหมาะสมและรูปแบบของงาน โดยจะเป็นการเสนอทักษะ การอบรมต่างๆ และให้เขาเป็นผู้เลือก กระตุ้นให้เขาเกิดการพัฒนาตนเอง อันนำไปสู่ผลสำเร็จของงาน”วิศัลย์ กล่าว
DNA “WARRIX” องค์กรแห่งนักรบ
ปัจจุบัน “WARRIX” มีพนักงานประมาณ 200 กว่าคน และขณะนี้ได้มีการขยายไปสู่ Active Lifestyle รองรับเทรนด์รักสุขภาพครบวงจร และขยายบริการทั้งฟุตบอล บาสเก็ตบอล กอล์ฟ วิ่ง และธุรกิจด้านสุขภาพอื่นๆ เช่น คลินิกกายภาพบำบัด และ Performance training studio เป็นต้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WARRIX เล่าต่อว่าหลักการบริหารคนขององค์กร คือ การสร้างนักรบ ซึ่งผู้ที่จะมาทำงานร่วมกับเรา ต้องพร้อมรบ ทำงานได้และเสพติดความสำเร็จ ลักษณะการทำงานจึงเป็นแบบทหาร เน้นการทำงานร่วมกัน และต่อสู้กับปัญหา คนที่เลือกเข้ามาทำงานจึงต้องมี DNA ของความเป็นนักรบชอบสู้กับปัญหา เป็นคนดีและคนเก่ง มีพื้นฐานจิตใจบวก
“คนรุ่นเก่าจะมีวัฒนธรรมองค์กรเก่า ซึ่งหากเป็นสิ่งที่ดีจะยังคงรักษาไว้ ต้องทำงานแบบไม่ดราม่า ส่วนวัฒนธรรมไม่ดี เช่น สั่งแล้วไม่ทำ และหมกปัญหาไม่ยอมแก้ไข คนเหล่านี้จะไม่ได้ทำอะไร แต่สุดท้ายคนดีและคนเก่งที่พวกเขาต้องทำงานด้วย กลุ่มที่วัฒนธรรมไม่ดีเขาก็จะแพ้ภัยเอง และออกไปเอง ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเร็วๆ นี้ มีคนที่ลาออกไปประมาณ 2% ” วิศัลย์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการลดช่องว่างระหว่างวัยคนอายุมากและคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีปัญหาในทุกองค์กรนั้น สำหรับ “WARRIX” จะมีการทีมงานของ “ฟ้าใส พึ่งอุดม” Fit Junctions ได้เข้ามาช่วยสอนงานคนเก่า และพัฒนาคนเก่า หรืออย่างศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา “Warrix Physiotherapy & Performance Studio”ที่ได้เปิดการบริการนั้น จะมีคอร์สเทรนพัฒนาบุคลากรให้ได้มาตรฐาน รวมถึงฝั่งการตลาด และสร้างระบบการทำงานร่วมกันระหว่างคนใหม่กับคนเก่า
ผู้บริหารลดอีโก้เรียนรู้คนรุ่นใหม่
การสร้างคน ปรับเปลี่ยน พัฒนาคนได้นั้น ผู้บริหารต้องพัฒนาตัวเองร่วมด้วย ตลอดระยะเวลา 9 ปี ของการเติบโตวอริกซ์ “วิศัลย์” ไม่เคยหยุดการพัฒนาตนเอง รับฟัง และพร้อมเรียนรู้จากคนรุ่นใหม่
วิศัลย์ เล่าต่อว่า ด้วยความที่ผ่านงานมามากมายทำให้มองว่าตัวเองถูกเสมอ และมีอีโก้ในบางเรื่อง ซึ่งเราเป็นคนที่มีอายุมากเป็นอันดับ 2 ในบริษัท ดังนั้น ผู้บริหารรุ่นใหม่ พนักงานของเรา ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ และอายุน้อยกว่า เวลาทำงานเหมือนก่อน เราก็จะสั่งและมองอีกแบบหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ต้องเปลี่ยนมุมมอง และไม่ต้องเป็นมนุษย์ตกยุคต้องเริ่มจากปรับเปลี่ยนตัวเอง
“เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน มีงานอยู่ 1 ชิ้น ผมเลือกชิ้นหนึ่ง และเด็กรุ่นใหม่เลือกชิ้นหนึ่ง พบว่า งานที่ผมเลือก ขายไม่ออก ขณะที่งานที่น้องๆ เขาเลือกกลับขายดี ทำให้เราหันกลับมามองตัวเอง ผมได้เรียนรู้ว่าต้องลด อีโก้ หรือความคิดว่าตัวเองถูกเสมอออกไป และต้องรับฟังความคิดเห็นของน้องๆ มากขึ้น เพราะพวกเขาถือเป็นตัวแทนของลูกค้า รวมถึงต้องเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี ไอที อีคอมเมิร์ซต่างๆ จากคนรุ่นใหม่มากขึ้น และทำให้องค์กรเติบโตมากยิ่งขึ้น” วิศัลย์ กล่าว
อีกทั้ง เมื่อเลือกคนดีคนเก่ง เข้ามาทำงาน ต่อให้เงินเดือนเป็นแสนๆ แต่พวกเขากลับบอก “วิศัลย์” ว่าจะไม่ทำงานกับคนที่ไม่มีความรู้สมัยใหม่ๆ ไม่เปิดรับความคิดเห็น ทำให้ต้องปรับตัว โดยให้คนดีคนเก่ง ผู้บริหารระดับกลางและผู้บริหารระดับสูงมาช่วย พวกเขาได้ขอเวลา 55 ชั่วโมง ให้ไปเรียนออนไลน์ เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเมื่อได้เรียนหลังจากนั้นก็ได้กลับมาอนุมัติงบให้แก่พวกเขา ทำให้การขับเคลื่อนองค์กรสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ลงทุนด้านซอฟต์แวร์ การจัดทำข้อมูล และผลลัพธ์ ผลสำเร็จขององค์กรเกิดขึ้น
สมดุลงานและการใช้ชีวิตทำได้ในบางช่วง
วิศัลย์ เล่าอีกว่าด้วยความเป็นธุรกิจด้านสุขภาพ การทำงานจึงเน้นทั้งผลสำเร็จขององค์กร และความสุขของพนักงานร่วมด้วย ซึ่งการจัดสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงาน ต้องยอมรับความจริงว่าแต่ละตำแหน่งงาน อาจจะทำได้เพียงบางช่วง เช่น ทำงานบัญชี ช่วยไหนต้องปิดงบอาจจะกลับบ้านเร็ว มีเวลาอยู่กับครอบครัว อย่างปกติคงไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทุกๆ สายงาน นอกจากเรื่องของผลตอบแทน สวัสดิการที่ดีแล้ว ทุกคนในองค์กรต้องมีความสุขร่วมด้วย
“ผมพยายามจะทำให้ระบบสมบูรณ์ และให้ทุกคนในองค์กรสามารถจัดสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตกับการทำงานได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ยอมรับว่าเป็นไปได้ยาก ยิ่งในกลุ่มธุรกิจ SMEs ขนาดเล็ก ในช่วง 3 ปีแรกการจะทำให้คนทำงานมี Work-life Balance คงไม่ได้ เพราะทุกคนต้องร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ แต่เมื่อผ่าน 3 ปีแรกและธุรกิจอยู่รอด หลังจากนั้นจะทำ Work-life Balance ได้มากขึ้น ตอนนี้ WARRIX พยายามทำให้ทุกคนมีความรู้ มีความสามารถและมีความสุขในการทำงาน เติบโตไปพร้อมกับบริษัท” วิศัลย์ กล่าว
การทำธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ต้องไม่หยุดพัฒนาทั้งตนเอง และพร้อมรบตลอดเวลา ฉะนั้น หากมองว่าต้องการทำธุรกิจแบบพอเพียง สามารถทำได้ แต่อย่าลืมว่ามีความเสี่ยง ถ้าไม่เดินไปข้างหน้าก็จะมีรายใหม่เข้ามาแทนที่เสมอ ต้องสร้างคนที่มี Mindset อยากโต อยากประสบความสำเร็จ ต้องมีวินัย ขยันกัดไม่ปล่อย เพราะต่อให้เป็นคนเก่งแต่คนขยันย่อมมีโอกาสมากกว่า
“ต่างคนต่างเลือก” เทรนด์สมัครงานยุคนี้
ธุรกิจหลักของ WARRIX คือธุรกิจทำเสื้อกีฬา และธุรกิจไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันจึงไม่ได้ขาดแคลนกำลังคน และยังมีโอกาสคัดเลือกคนดีและคนเก่งเข้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งเทรนด์การสมัครงานในยุคนี้ ส่วนตัวมองว่า ต่างคนต่างเลือก คือ องค์กรเลือกคนทำงาน และคนทำงานก็เลือกองค์กรเช่นเดียวกัน
ฉะนั้น เมื่อคนสมัครงานเลือกองค์กร องค์กรจึงต้องเสน่ห์ให้คนอยากมาทำงาน โดยเฉพาะผู้บริหารขององค์กร มีความสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการใช้ชีวิตของคนทำงาน หลายคนนอกจากเงินเดือนแล้ว เขายังมองถึงผู้บริหาร เพื่อนร่วมงาน และวัฒนธรรมองค์กรที่ตอบโจทย์ชีวิตพวกเขา
“ผมอยากฝากทุกคนที่กำลังหางาน เทรนด์การสมัครงานเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ก่อนหน้านี้ทุกคนอยากเป็นสตาร์ทอัพ ต่อมาอยากทำงานบริษัทใหญ่ๆ และมั่นคง ขณะนี้อยากทำงานบริษัทดีๆ และมีความสุขทำให้คนรุ่นใหม่มักจะเข้าๆ ออกๆ งานตลอด จึงอยากให้ทุกมองเป้าหมายระยะยาวมากกว่าระยะสั้น อย่ามองแต่เงินเดือน สิ่งที่ตอบโจทย์ เพราะในการทำงานมีอีกหลายอย่างในองค์กร ขอให้เลือกองค์กรที่ตื่นเช้ามาแล้วอยากมาทำงานทุกคน และมองหาสิ่งที่ได้รับจากองค์กร อย่าง ทักษะมากกว่าสิ่งที่ถูกใจ”วิศัลย์ กล่าว
ขณะที่ กลุ่มองค์กร นายจ้าง คนที่หิวเงินจะไม่มีวันอิ่มเงิน เนื่องจากหลักการ กำไรสูงสุดหรือความโลภมักจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้บริหาร นายจ้างควรมี คือ จริยธรรม ผลสำเร็จเป็นที่ตั้ง และต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับงาน