ฟังเสียง 'New Gen' บนจุดยืนการเลือกตั้ง 66 ตั้งรัฐบาลไม่โดนใจ จะเกิดอะไร?
‘การเมืองไทย’ แม้จะผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา และได้ผลคะแนนจากการสิทธิของประชาชน เลือก ‘ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ พรรคก้าวไกล เบอร์ 31 เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ได้รับคะแนนมากสุด แต่ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
Keypoint:
- คนรุ่นใหม่ ตัวแทนนิสิตนักศึกษา ไม่ได้เลือกพรรคการเมือง เลือกนายกฯ ตามกระแส แต่อยากเปลี่ยนประเทศ ศึกษานโยบาย ฟังปราศรัย สู่การวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ
- อยากให้พรรคการเมือง -ส.ว.โหวตเลือกนายกฯที่มาจากเสียงของประชาชน ให้นึกถึงผลประโยชน์ของส่วนร่วม มากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน หากไม่เป็นไปตามนั้น เชื่อคนรุ่นใหม่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง
- เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าไปกำหนดนโยบาย เสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อเด็กและเยาวชน ปัญหาเศรษฐกิจ การศึกษา
ทั้งนี้ หากดูจากสูตรพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจับมือกัน ยังไม่เกิน 375 เสียง เพื่อชิงเก้าอี้ นายกฯ จากเสียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.)และ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ทั้งหมด 750 เสียง อีกทั้งหากจะปิดสวิตซ์ส.ว.ก็ต้องเลือกพรรคอดีตเคยร่วมรัฐบาลเข้าร่วม
อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้จะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้สิทธิของประชาชน คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมือง เปลี่ยนแปลงประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ขอให้พรรคการเมืองและวุฒิสภา 250 คน จัดตั้งรัฐบาลโดยเคารพเจตนารมณ์ของประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้
แถลงการณ์ร่วมขององค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะกรรมการนักศึกษา 24 คณะ/สถาบัน/วิทยาลัย/หลักสูตร เรื่อง ขอให้พรรคการเมืองและวุฒิสภา 250 คน จัดตั้งรัฐบาลโดยเคารพเจตนารมณ์ของประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
วิธีโหวต 'เสียงประชาชน' ให้ ส.ว. เลือกนายกฯ ตามเสียงข้างมาก ง่ายแค่คลิกเดียว
ไทม์ไลน์ "โหวตเลือกนายกฯ" ไม่เกินกลาง ส.ค.
"กรณ์" ขอ "ส.ว." เคารพเสียงปชช. โหวตนายกฯเสียงข้างมาก
"บิ๊กตู่" ขอบคุณประชาชน ย้ำ รทสช. เสียงไม่พอให้ทำต่อ แต่ยึดมั่นอุดมการณ์
แถลงการณ์จากอมธ.ถึงพรรคการเมือง-วุฒิสภา
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 นับเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ภายใต้การบังคับใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปีพุทธศักราช 2560 และเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ภายหลังการรัฐประหารในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2557 ผ่านพ้นมาแล้วเป็นเวลาเกือบทศวรรษแต่ประเทศไทยยังคงมีมรดกของการก่ออาชญากรรมรัฐประหารหลงเหลืออยู่กับระบอบประชาธิปไตย
ทั้งการมีอยู่ของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 250 คน และการควบคุม แทรกแซงองค์กรอิสระ รวมไปถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งหมดนี้ยังคงสร้างปัญหาให้การเมืองไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมาที่ทำให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และไม่สามารถทำให้ประชาชนมองเห็นความหวังที่จะใช้ชีวิตต่อไปในประเทศแห่งนี้
การเลือกตั้งจึงนับว่าเป็นเครื่องมือแห่งความหวังเพียงขึ้นเดียวในเวลานี้ที่ทุกคนต่างก็ให้การยอมรับ แม้ระหว่างทางจะเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะการทำงานที่ไม่เป็นมืออาชีพของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)แต่เราต่างก็เข้าคูหากันด้วยความหวังที่ว่าเสียงของเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้
สุดท้ายนี้ เมื่อการเลือกตั้งได้สิ้นสุดลงแล้ว พวกเราหวังว่านักการเมือง และพรรคการเมืองจะปฏิบัติตนตามที่
ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ขอให้ท่านยึดมั่น
เจตนารมณ์ ฟังเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นสมาชิกวุฒิสภาที่เคารพมติของประชาชน และเชื่อเช่นกันว่าจะได้เห็นรัฐบาลชุดใหม่ที่สง่างาม มีที่มาอย่างถูกต้องไม่ฝืนธรรมชาติหรือใช้กลไกพิสดารเพียงเพื่อให้ตนเองได้ดำรงตำแหน่งต่อไป เรื่องราวเหล่านี้ควรยุติลง และเริ่มกระบวนการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยให้อำนาจหวนคืนสู่ประชาชนอย่างแท้จริง
เปิดโอกาสคนรุ่นใหม่กำหนดนโยบายของประเทศ
‘คุณากร ตันติจินดา’ นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) กล่าวว่าหลายคนมักจะบอกว่าเป็นเด็กและเยาวชน นิสิตนักศึกษามีหน้าที่ใช้ชีวิตและเรียนหนังสือ แต่จริงๆแล้ว พวกเขาเป็นประชาชนคนหนึ่งที่อยากมีคุณภาพชีวิตดี สังคมที่ดี อยู่ในประเทศที่ดี เพราะปัจจุบันหรืออนาคตมันเป็นโลกที่พวกเราต้องอยู่ ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าคนไทยอยากเปลี่ยนประเทศให้ดี หมดยุคการเมืองแบบเดิมๆ และทำให้ประชาธิปไตยเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยจริงๆ
“นโยบายของก้าวไกล ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเท่าเทียม สิทธิของประชาชน ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากเห็น คือ การทำตามสิ่งที่พรรคก้าวไกล และพรรคร่วมรัฐบาล เคยแถลงไว้ต่อหน้าประชาชน เพราะหลายครั้งที่พอเลือกตั้งไปแล้ว ได้เป็นรัฐบาลไม่ได้ทำตามที่พูดไว้ให้เป็นรูปเป็นร่าง ขณะเดียวกัน แม้จะยังไม่เห็นสูตรรัฐบาลที่ชัดเจน แต่อยากให้พรรคการเมืองถึงจะไม่ได้รับเลือกเป็นรัฐบาล และส.ว.ฟังเสียงประชาชนที่ได้เลือกนายกฯ ของพวกเขา" คุณากร กล่าว
'คุณากร' กล่าวต่อว่า สูตรจัดตั้งรัฐบาล ที่มาจากหลากหลายพรรคการเมืองอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาเด็กและเยาวชน คนรุ่นใหม่ อยากให้ผู้บริหารบ้านเมือง รัฐบาลชุดใหม่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เด็กและเยาวชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย หรือมีพื้นที่ให้พวกเขาได้แสดงออกความคิดเห็น เพราะผู้บริหารบ้านเมือง รัฐบาล คนที่อายุมากกว่าไม่มีทางรู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ต้องการอะไร เนื่องจากเด็กและเยาวชนมีปัญหา มีความต้องการไม่เหมือนกัน เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนกำหนดนโยบาย
รับฟังเสียงประชาชน ยอมโหวต 'พิธา'นั่งนายกฯ
"หากก้าวไกล ซึ่งได้รับเสียงข้างมากจากประชาชน ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และกลุ่มรัฐบาลเดิมได้กลับมาเป็นรัฐบาล ผลมองว่าเป็นภาพที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และจากการติดตามฟังคำสัมภาษณ์ของส.ว.หลายๆ ท่าน สำหรับตัวเองมองว่าคนรุ่นใหม่ น่าจะไม่พอใจ และอาจจะมีการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่พวกเขาสามารถทำได้อีกทั้ง ถ้าเป็นแบบนั้น ถือเป็นการยืนยันอีกครั้งว่าการเมืองประเทศนี้บิดเบี้ยวไปหมด กลไกบางอย่างทำให้สิ่งที่ควรจะทำไม่ควรจะเกิดขึ้น และตอนนี้ใครเป็นผลลัพธ์ของการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นใคร คนบางกลุ่มก็อย่ามาตัดสินสิ่งที่ประชาชนเลือกว่าดีหรือไม่ดี แต่ควรยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าไม่ดี อีก 4 ปีก็มาเลือกกันใหม่" คุณากร กล่าว
'คุณากร' กล่าวด้วยว่าสิ่งที่พรรคการเมือง และส.ว.ควรทำตอนนี้ คือ ยอมโหวตนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้เป็นนายกฯ เพื่อแสดงให้เห็นถึงสิทธิของประชาชน และควรสร้างความเชื่อมั่นของคนในประเทศ ประเทศนี้คือความล้มเหลวทางประชาธิปไตย เราจะสอนอะไรในประเทศนี้ได้ เพราะเราไม่ได้ตัดสิน อาจจะนำไปสู่ความหมดหวัง ความสิ้นหวังต่างๆ ประเทศน่าจะเป็น มีกระแสย้ายประเทศ
ปัจจุบัน นักศึกษามีความตื่นตัวในเรื่องการเมืองอย่างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดหวังและสิ้นหวังก่อนหน้านี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามหลักการ คงไม่มีใครมาเรียกร้อง หรือจับผิด อย่างการเลือกตั้งครั้งนี้ มีนักศึกษาจำนวนมากร่วมเฝ้าดูการนับคะแนนเสียงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้น ในส่วนของอมธ. จะเป็นอีกหนึ่งองค์กรของนิสิตนักศึกษาในการร่วมขับเคลื่อนการเมืองและสังคม โดยการทำงานร่วมกับรัฐบาล กับหน่วยงานต่างๆ และเฝ้าติดตามการทำงานของทุกพรรคการเมือง
การเมืองมีผลต่อคุณภาพชีวิต การใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่
ด้าน 'ธนพร คุชัยยานนท์' นายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2566 กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ของตน ซึ่งจากการติดตามการเลือกตั้งมา ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจและตื่นตัวทางการเลือกตั้ง การเมืองอย่างมาก เพราะพวกเขารู้ว่าการเมืองการเลือกตั้งมีผลต่อการใช้ชีวิตของพวกเขา คุณภาพชีวิตของพวกเขา
"ผลการเลือกตั้งเป็นที่พึงพอใจ เพราะแสดงให้เห็นถึงสิทธิของประชาชน และเห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญกับประชาธิปไตยอย่างมาก ถึงตอนนี้จะยังไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่ในฐานะคนที่ไปใช้สิทธิ อยากให้รัฐบาลเปิดกว้างให้นิสิตนักศึกษาได้มีส่วนร่วม รับฟังความคิดเห็น และสนับสนุนการแสดงออกของนิสิตนักศึกษา"ธนพร กล่าว
การที่เปิดให้นิสิตนักศึกษาได้เข้าไปทำงาน มีส่วนร่วมกับรัฐบาล กับกทม. หรือหน่วยงานราชการ นอกจากแสดงถึงความโปร่งใส และให้เด็กช่วยแก้ปัญหาของเด็กด้วยกันเอง ยังทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างคนต่างGen เข้าใจมุมมอง และยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้มากขึ้น
เด็กรุ่นใหม่ ไม่ได้เลือกนายกฯ พรรคการเมืองตามกระแส
'ธนพร' กล่าวต่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่ได้เลือกตามกระแส แต่มีการศึกษานโยบายแต่ละพรรค ทั้งทางโซเซียลมีเดีย หรือการปราศรัยต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์สิ่งที่พรรคนำเสนอว่ามุ่งเน้นไปเรื่องอะไร ประวัติที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และแนวโน้มควรเป็นอย่างถึงจะตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่ตนเองอยากให้เป็นรัฐบาล
"กลุ่มของเด็กรุ่นใหม่ เราไม่ได้คุยกันว่าแต่ละคนเลือกพรรคอะไร เพราะถือเป็นการให้เกียรติในการตัดสินใจ แต่เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นประชาธิปไตยในประเทศ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของประเทศ ดังนั้น ในส่วนของรัฐบาลก้าวไกล ถ้าไม่ได้เป็นคณะจัดตั้งรัฐบาล และเหตุผลไม่ได้รองรับพียงพอ เชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะออกมาเรียกร้อง ออกมาขับเคลื่อนสิทธิที่ไม่เป็นไปตามหลักเหตุและผล"
'ธนพร' กล่าวด้วยว่า การยกมือโหวตเลือกนายกฯ ที่จะถึงนี้ ถ้าระบบให้มีส.ว. จะรอดูว่าส.ว.ทำอย่างไร? อยากให้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนร่วม ปฎิเสธไม่ได้ว่าระบบการปกครองมีการเอื้อผลประโยชน์ต่อกัน ซึ่งไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก อยากให้เลือกคนที่จะทำเพื่อประเทศชาติ ประชาชนจึงต้องร่วมกันติดตามการเมืองและต้องสนับสนุนการเรียกร้อง หรือกระทำที่เป็นไปตามหลักเหตุผล
รู้สึกFAIL หาก 'ก้าวไกล' ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล
น.ส.วิปรียา ศิลาโชติ นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า อยากให้มีเหมือนงบประมาณ ที่พร้อมสนับสนุน จะมีบางบางส่วนที่มีนักศึกษาเก่งอยู่แล้ว แต่คาดงบประมาณสิ่งที่จะพาไปยังจุดๆ นั้น ได้ อยากให้มีกิจกรรมที่เปิดพื้นที่มากขึ้นกว่านี้ เพราะส่วนใหญ่จะเห็นเฉพาะในกรุงเทพฯ อยากให้เด็กต่างจังหวัด การเข้าถึงของหน่วยงานรัฐ โรงเรียน ชนบทต่างๆ
"ตอนนี้ดีใจ 50% ที่มีนักการเมืองใหม่ๆ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ แต่ถ้าพรรคการเมืองเสียงข้างมากไม่ได้ถูกจัดตั้งรัฐบาล คงFAILเพราะคนรุ่นใหม่อยากมีอนาคตที่สนใจ อยากจบออกไปแล้วได้ทำงานดี มีสวัสดิการที่ดี ไม่ใช่มีปัญหาเรื่องปากท้องอย่างที่ผ่านมา" น.ส.วิปรียา กล่าว
เริ่มต้นการเมืองใหม่ หมดยุคการเมืองเก่า
'ภัทรนนท์ กิมานนท์' นายกองค์การบริหาร องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่าส่วนตัวไม่แปลกใจที่พรรคก้าวไกลจะได้มีคะแนนเสียงมาก เพราะคนรุ่นใหม่ อยากเห็นพรรคใหม่ๆ มาขับเคลื่อน พัฒนาประเทศ อีกทั้งพรรคอื่นๆ เคยดำรงตำแหน่งนายกฯ แล้ว อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้าง รวมถึงมีการศึกษานโยบายของแต่ละพรรคก่อนตัดสินใจ
"ตอนนี้ยังไม่มีการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าส.ว. 250 เสียง ไม่ควรปิดโหวตแต่ควรยกมือให้พรรคที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชนได้เป็นนายกฯ และหากรัฐบาลไม่ได้มาจากเสียงข้างมากของประชาชน อาจจะมีการออกมาขับเคลื่อนเชิงสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งในส่วนของอมก.นั้น นิสิตนักศึกษามีความหลากหลาย แต่เราจะทำตัวเป็นกลางให้มากที่สุด ยอมรับความแตกต่างบนพื้นฐานของเหตุและผล" ภัทรนนท์ กล่าว
ปัจจัยที่ทำให้คนรุ่นใหม่สนใจเรื่องการเมืองมากขึ้นนั้น เพราะพวกเขาต้องการให้ประเทศชาติพัฒนามากขึ้น และการเมืองเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่ได้ การเมืองมีความเกี่ยวข้องในทุกเรื่อง ทั้งภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา สาธารณสุข การที่ทุกคนออกมาใช้สิทธิ อยากให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้า และอยากเห็นพรรคการเมืองใหม่มาทำ นึกถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก หมดยุคการเมืองรูปแบบเก่า
3 ข้อเสนอเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ควรเร่งช่วย
'ธนเดช วิเสฏโฐ นายกองค์การบริหาร องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้รู้สึกว่ามีความหวังที่ประเทศเราจะก้าวไปข้างหน้า เพราะเกิดจากเสียงของประชาชนจริงๆ ดังนั้น การจัดตั้งรัฐบาลก็ควรจะมาจากเสียงประชาชนข้างมาก จะให้กลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมามีอำนาจในการตัดสินใจโดยไม่ฟังเสียงจากประชาชนคงไม่ได้
"หากก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าประเทศจะมีการพัฒนาในหลายๆ ด้าน เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ประเทศไทยได้รับการพัฒนาทั้งเรื่องความปลอดภัย และสวัสดิการต่างๆ แต่เมื่อมาเทียบกับเด็กและเยาวชน เด็กในต่างจังหวัดกับเด็กในเมืองยังใช้ชีวิตที่แตกต่างกันมาก มีความเหลื่อมล้ำค่อนข้างสูง การเลือกกลุ่มคนรุ่นใหม่มาพัฒนาประเทศ และรับฟังคนรุ่นใหม่ ใส่ใจมากขึ้น จะทำให้เกิดความร่วมมือและแก้ปัญหาได้ตรงจุด"ธนเดช กล่าว
ในแต่ละวันเพียงลืมตาขึ้นมาก็พบกับคุณภาพชีวิต ปัญหาในชีวิตมากมาย อย่าง ในพื้นที่เชียงราย ประสบปัญหามลพิษ เจ้าฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ทุกวัน ส่วนกลางและรัฐบาลเองก็ไม่ได้เข้ามาแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ขณะที่ภาครัฐในพื้นที่จะจัดการปัญหาอะไรก็มีข้อจำกัด ดังนั้น 3 ข้อเสนอเร่งด่วนที่ 'ธนเดช'อยากเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการทันที มีดังนี้
1.แก้ปัญหาเรื่องปากท้องเศรษฐกิต อยากให้มีการช่วยให้คนในต่างจังหวัด ที่อาชีพ มีที่ทำมาหากิน และมีรายได้มากขึ้น
2.การศึกษา อยากให้รัฐบาลปรับปรุงเรื่องการจัดการเรียนการสอน หลักสูตร ตอนนี้เด็ก 1 คนสูญเสียเวลาไปกับการศึกษาอย่างมาก และการศึกษาไทยเป็นระบบท่องตำ ไม่ให้เด็กได้ลงมือปฎิบัติ อยากให้รัฐบาลมาดูแลการศึกษามากขึ้น ปรับปรุงให้ดีขึ้น
3.ปัญหาในแต่ละชุมชน จังหวัด และปัญหาสิ่งแวดล้อม โรคระบาดต่างที่อาจกำลังจะเกิดขึ้น ควรให้ทุกคน ทั้งคนไทย กลุ่มชาติพันธุ์ ได้มีสิทธิการรักษาพยาบาล สวัสดิการอย่างเท่าเทียม