ร้อง ปคบ. ทำศัลยกรรมคลินิกดังย่านรัชดา หน้าเสียโฉม แก้ 16 ครั้ง แต่ไม่คืนเงิน
2 สาวร้อง ปคบ. ตรวจสอบคลินิกศัลยกรรมความงาม ย่านรัชดาภิเษก หน้าเสียโฉม แก้ 16 ครั้ง แต่ไม่คืนเงิน ให้แก้แล้วแก้อีก
ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี และ น.ส.เต้ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.โกสินทร์ นรสิงห์ รอง ผกก.2 บก.ปคบ. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังไปทำศัลยกรรมใบหน้าที่คลินิกแห่งหนึ่ง แต่เกิดผลข้างเคียงจนทำให้เสียโฉม รูปหน้าผิดปกติ
น.ส.น้ำ กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นปี 2565 ตนได้ไปทำศัลยกรรมจมูกที่คลินิกแห่งหนึ่ง ย่านถนนรัชดาภิเษก ในรูปแบบของเคสรีวิว ราคาพิเศษ 25,000 บาท แต่พอทำแล้วจมูกของตน กลับผิดปกติไม่เข้ารูป ต้องรับการแก้ไขใหม่ มีการถอดซิลิโคนเข้าออกถึง 3 ครั้ง ใน 1 สัปดาห์ และแก้ไขซ้ำๆ มาต่อเนื่อง รวมแก้จมูกทั้งหมด 16 ครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี จนในที่สุดต้องตัดสินใจ ขอยุติการรักษา เพราะทำแล้วไม่ดีขึ้น มีแต่แย่ลง เสียทั้งค่าเดินทาง เจ็บตัว อีกทั้งยังถูกปัดความรับผิดชอบ ทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก หายใจไม่สะดวก เพราะรูปทรงจมูกผิดปกติ ใบหน้าเสียโฉม
ด้าน น.ส.เต้ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนได้ไปทำตา 2 ชั้น และทำโครงหน้า กรอโหนกแก้ม กรอข้างแก้ม เลื่อนไรผม โดยหมอกรีดหนังหัว ถลกหนังหัวเลื่อนลงมา และกรีดในปาก ซึ่งหมอใช้เพียงยาชา แต่ไม่ใช้ยาสลบ โดยศัลยกรรมปรับโครงหน้า ทำครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ค.2566 หลังทำเสร็จพบว่าโหนกแก้มปูด หลังจากนั้นไปทำตา 2 ชั้น เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2566 แต่ทำมาแล้วกลับผิดพลาด แผลไม่สวย ตาผิดรูป ไม่เท่ากัน
จึงแจ้งหมอ หมอให้กลับไปแก้ จึงไปแก้ตารอบ 2 ไปแก้เมื่อ 27 ต.ค. 2566 แต่กลับผิดพลาดมากกว่าเดิม ตนถามหาความรับผิดชอบ เพราะไม่อยากแก้กับหมอคนเดิมแล้ว แต่หมอบอกว่าต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำแล้วสวยได้เลย ใน 1-2 วัน ส่วนตัวเสียค่าใช้จ่ายปรับโครงหน้าทั้งหมด 103,000 บาท และทำตาอีก 21,000 บาท
ปัจจุบันส่งผลกระทบต่อชีวิต เห็นแผลเป็นชัดเจน หน้าพัง ได้ไปทำซีทีสแกนพบข้างในพัง หน้าเป็นหลุม ตาไม่ปกติ เป็นแผลเป็นตลอดชีวิต อ้าปากกว้างไม่ได้ หลับตาไม่สนิท น้ำตาไหลตลอดเวลา และโดนลมไม่ได้ และยกแขนสูงไม่ได้ เพราะวันแก้ตา หมอผ่าตัดเอาไขมันรักแร้มาเติมที่ตา จึงอยากทราบว่าทางการแพทย์ สามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่
ส่วนตัวอยากให้หมอรับผิดชอบค่าเยียวยา เพื่อตนจะได้นำไปรักษาที่อื่น และให้ปิดคลินิก เพราะไม่อยากให้ทำกับคนอื่นอีก พร้อมอยากทราบว่าทำไมหมอยังกลับมาทำอีกได้ ทั้งที่เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนประมวลเรื่องราวส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป