'ลูกทำได้'- 'Sex-O-Phone' ธุรกิจเพื่อสังคม ผู้ช่วยพ่อแม่-วัยรุ่น ทุกเวลา
2 ธุรกิจเพื่อสังคม 'ลูกทำได้'เป็นแชตบอทที่จะช่วยเตรียมความพร้อมลูก ก่อนจากสังคมบ้านสู่สังคมโรงเรียน ขณะที่ 'Sex-O-Phone'เป็นเสมือนเพื่อนที่ไว้ใจได้ของวัยรุ่น สามารถบอกเล่าเรื่องราว พร้อมได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้าถึงได้ทุกเวลาและทุกที่
“ลูกทำได้ Parent-Buddy chatbot” และ “Sex-O-Phone” เป็นกิจการเพื่อสังคม(SE) ที่มีการดำเนินธุรกิจทำกำไร ไปพร้อมกับการสร้างผลกระทบต่อสังคมในเชิงบวก ซึ่งทั้งสองSEนี้เป็น 2 ใน 12 ของSEที่เข้าร่วมในโครงการ พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม ปีที่ 12 จัดโดยบริษัท บ้านปู จำกัด(มหาชน) และสถาบันChangeFusion และมานำเสนอภายในงาน Impact Day 2023 บริเวณใจกลางสยามสแควร์ เมื่อเร็วๆนี้
ผู้ช่วยพ่อแม่เสริมพัฒนาการลูก
ปรียสรณ์ อาศรัยราษฎร์ Founder ลูกทำได้ กล่าวว่า ลูกทำได้ เป็นแชทบอทที่เป็นผู้ช่วยพ่อแม่ ในการที่จะเตรียมความพร้อมให้เด็กอายุ แรกเกิด- 7ปี มีทักษะที่เหมาะในการก้าวจากสังคมบ้านสู่สังคมโรงเรียน เนื่องจากก่อนที่เด็กจะไปโรงเรียนพ่อแม่จะมีความกังวลหลายเรื่อง ไม่เฉพาะแค่การอ่าน การเขียน แต่ยังรวมถึงความสามารถในการปรับตัว เข้ากับเพื่อนได้อย่างมีความสุข
โดยตัวบริการของลูกทำได้จะมีโปรแกรมที่เรียกว่า Home-based activity ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อให้พ่อแม่ได้เล่นกับลูกทุกวัน ด้วยการส่งแชทบอทที่เป็นข้อความ วิดีโอ รูปแบบการทำกิจกรรมประมาณวันละ 5-10 นาที ซึ่งกิจกรรมถูกอออกแบบให้มีความสนุก และส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆของเด็ก
การให้บริการ พ่อแม่ผู้ปกครองแอดไลน์ออฟฟิเชียล ลูกทำได้ ขั้นตอนแรกจะได้ประเมินพัฒนาการลูกในด้านต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนคู่มือเฝ้าระวังความเสี่ยงพัฒนาการเด็กปฐมวัย จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จะทำให้รู้ว่าลูกของตนเองมีภาวะเสี่ยงพัฒนาการในด้านไหน จากนั้นสามารถเลือกโปรแกรม Home-based activity ได้ตามความเสี่ยงของลูก
เพื่อส่งเสริมพัฒนาการในด้านนั้น ขณะเดียวกันหากทำตามคำแนะนำของโปรแกรมก็จะส่งเสริมพัฒนาการด้านอื่นๆควบคู่ไปพร้อมกันด้วย เมื่อครบ 30 วันก็จะกลับมาประเมินพัฒนาการลูกอีกครั้งว่าพัฒนาการด้านที่เสี่ยงดีขึ้นหรือไม่ และพัฒนาการสมวัยหรือไม่ โดยขั้นตอนการประเมินจะให้บริการฟรี ส่วนโปรแกรมพัฒนาคิดค่าบริการ 390 บาทต่อเดือน
เกินครึ่งลูกพัฒนาการไม่สมวัย
การที่จะพึ่งแพทย์ในการประเมินพัฒนาการลูกเป็นเรื่องดี แต่แพทย์เจอลูกในเวลาไม่นาน ส่วนคนเป็นพ่อแม่อยู่กับลูกทั้งวัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะต้องมองหรือสังเกตลูกจุดไหน อย่างไร จึงจะทราบว่าพัฒนาการสมวัยหรือไม่ แชอบอทลูกทำได้ก็จะมาช่วยแนะนำจุดที่ต้องมองและกิจกรรมที่ควรจะทำเพื่อส่งเสริมพัฒนาการลูกในด้านที่เสี่ยง
“จากการให้บริการมาเป็นปีที่ 2 มีผู้เข้าใช้บริการกว่า 2,500 ครอบครัว กระจายทั่วประเทศ พบว่า มีเด็กราว 1,500 คน หรือ 60 % ที่มีความเสี่ยงพัฒนาการล่าช้าด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งหากสามารถเจอได้เร็ว พ่อแม่สามารถช่วยฝึกลูกได้ โดย 80 % ที่พ่อแม่มีการฝึก เด็กก็กลับมามีพัฒนาการที่สมวัย”ปรียสรณ์กล่าว
2พัฒนาการที่เด็กไทยมีปัญหามาก
ปรียสรณ์ บอกด้วยว่า พัฒนาการด้านทักษะทางสังคม เป็นสิ่งที่พ่อแม่สังเกตเห็นได้ยากมาก เพราะไม่เหมือนกับทักษะด้านอื่นๆ ซึ่งหากพ่อแม่ได้มีการประเมินและติดตามพัฒนาการลูกมาเรื่อยๆตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 7 ขวบ จะเห็นและมีจุดที่ทำให้เราสงสัย เพื่อที่จะได้หาแนวทางในการส่งเสริมลูกได้เร็ว ทั้งนี้ พัฒนาการด้านภาษาและด้านสังคมเป็น 2 ส่วนที่ปัจจุบันเด็กไทยมีปัญหามาก เมื่อเทียบกับพัฒนาการด้านอื่นๆ
สืบเนื่องจากเด็กรุ่นใหม่มีการใช้เทคโนโลยีที่อยู่กับตัวเองมาก บวกกับการเป็นครอบครัวเล็ก ได้คุยกับพ่อแม่น้อยลง รวมถึง ผลพวงจากโควิด-19 ที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัย แม้ได้ยินแต่ไม่เห็นรูปปากขณะพูด เด็กจึงมีพัฒนาการ 2ด้านนี้ช้าเพิ่มขึ้น
เพศ-พฤติกรรมปัญหาพบบ่อยในวัยรุ่น
ขณะที่เมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น ปัญหาต่างๆที่ลูกและพ่อแม่ผู้ปกครองต้องพบเจอจะมีหลากหลาย พญ.ศิศีมาส สุวรรณวิจิตร กุมารแพทย์ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ และ CEO ของ Sex-O-Phone บอกว่า การเป็นกุมารแพทย์รพ.รัฐในกรุงเทพ แต่ละวันจึงได้พบกับคนไข้ที่หลากหลายและมีปัญหาที่พบทุกวัน เช่น อายุ 16 ปีตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 หรือพ่อแม่อายุ 18 ปีเลี้ยงลูกไม่ไหว ตีลูกจากการที่ไม่มี่ความพร้อม และเด็กโดนบูลลี่แล้วกินยาฆ่าตัวตายต้องนำส่งมารพ. เป็นต้น ซึ่งเด็กเหล่านี้อาจจะไม่มีภูมิคุ้มกันในจิตใจอย่างมากพอ
จากเดิมที่ต้องการเน้นให้ความรู้และคำปรึกษาเรื่องเพศในวัยรุ่น จึงเปลี่ยนมาสู่การมุ่งช่วยรับฟังและให้คำปรึกษาในเรื่องเพศและพฤติกรรมของวัยรุ่น กระจายถึงผู้ปกครองและครู เกิดเป็นแนวคิด “คงจะดีถ้ามีคนรับฟัง สามารถสร้างเกราะหรือภูมิคุ้มกันได้ นอกจากพ่อแม่หรือครูที่ใกล้ชิด”
จนพัฒนามาเป็นเว็บแอปพลิชั่น Sex-O-Phone ที่มุ่งเน้นบริการให้ความรู้และคำปรึกษาเรื่องเพศและพฤติกรรมวัยรุ่น สำหรับวัยรุ่น ผู้ปกครอง และสถานศึกษา ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยบุคลากรทางการแพทย์ทั้งกุมารแพทย์และนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น เตรียมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปี 2567
แพลตฟอร์มที่เป็นเซฟโซน
รูปแบบของแพลตฟอร์ม Sex-O-Phone ผู้ที่เข้าใช้บริการสามารถเข้าได้ผ่านไลน์ออฟฟิเชียล Sex-O-Phone เลือกการพูดคุยได้ทั้งในรูปแบบของการแชทและวอยซ์คอล โดยจะมีระบบการปกปิดตัวตันและรักษาความลับของผู้ที่เข้ามารับบริการ อีกทั้ง มีการดำเนินร่วมกับระบบAI เป็นตัวดักจับกรณีที่ฉุกเฉิน
อย่างเช่น มีคนพิมพ์แชทมาว่า “อยากตาย” ระบบก็จะแจ้งเป็นเคสฉุกเฉิน ส่งการแจ้งเตือนไปยังแพทย์หรือนักจิตวิทยาที่อยู่เวรดูแลแพลตฟอร์มในเวลานั้น เพื่อให้มาตอบผู้ใช้บริการรายนี้ทันทีภายใน 10 นาที ซึ่งสามารถตอบได้ทัน และวัยรุ่นส่วนหนึ่งก็บอกว่า “ขอบคุณมากที่มาตอบ เพราะบางคนทักแชทที่อื่นๆไปไม่มีคนตอบเลย” เพราะเขาแค่ต้องการคนรับฟัง
ปัจจุบันมีเครือข่ายแพทย์ นักจิตวิทยาและนักสังคมเด็กที่จะเข้ามารับฟังและให้คำปรึกษาราว 20 คน นอกจากนี้ ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับคลินิกวัยรุ่น รพ.จุฬาลงกรณ์ และรพ.เครือกรุงเทพมหานคร ยินดีที่จะสนับสนุน หากมีคนไข้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในรพ. ก็สามารถส่งต่อไปได้
“จากที่ได้มีการทดลองให้บริการมา 3-4 เดือน ผู้เข้ามารับบริการส่วนมากเป็นวัยรุ่นในระดับมหาวิทยาลัย ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการใช้ชีวิต โดยต้องการมุ่งเน้นการพุดคุยในเรื่องต่างๆที่พบเจอแล้วไม่กล้าที่บอกเล่ากับคนอื่น ซึ่งบางคนไม่ได้เป็นโรคหรือต้องใช้ยา เพียงแต่ต้องการภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิตต่อไปเมื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มากขึ้น ต้องการแค่คนฟังในช่วงเวลาที่รู้สึกว่าทุกข์มาก เรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับWell-being ที่พูดกับใครไม่ได้ ขอให้นึกถึงเซฟโซนที่ชื่อ Sex-O-Phone ซึ่งผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปีได้รับบริการฟรี”พญ.ศิศีมาสกล่าว
ด้วยเป้าหมายหลักที่ต้องการดูแลวัยรุ่น Sex-O-Phone จึงมุ่งไปสู่พ่อแม่ผู้ปกครองและครู ซึ่งการเป็น SE จึงต้องมองเรื่องของช่องทางการหารายได้ จะมีทั้งแบบ B to C คิดค่าบริการจากผู้ปกครองวัยทำงานที่เข้ามาปรึกษาเรื่องของลูก และ B to B โดยการไปทำงานร่วมกับโรงเรียนและครู ในการให้บริการ 1 ภาคการศึกษา สามารถที่จะปรึกษาปัญหาเรื่องเด็กอะไรก็ได้กับ Sex-O-Phone แต่จะเน้นปัญหาวัยรุ่น พฤติกรรม และเรื่องเพศในวัยรุ่น เป็นแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง เบื้องต้นจัดเป็นมินิแพ็คเกจไว้ที่ 25,000 บาทต่อภาคการศึกษา ปัจจุบันมีที่ดีลไว้ราว 3-4 โรงเรียนในต่างจังหวัดและคาดว่าจะเริ่มภาคการศึกษาหน้า
“สิ่งที่ Sex-O-Phone ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม คือ สามารถทำให้วัยรุ่นมีที่ปรึกษาและที่พึ่ง รวมถึง เพิ่มความเข้าใจของผู้ปกครองต่อวัยรุ่น ให้ความรู้กับวัยรุ่นเกี่ยวกับการป้องกันตนเองทั้งทางกาย และใจได้อย่างเหมาะสม อีกทั้ง เพิ่มเกราะให้การป้องกันตนเองและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้วัยรุ่น และต่อยอดโปรเจคต์ให้ครอบคลุมปัญหาที่มากขึ้นของวัยรุ่นและผู้ปกครอง”พญ.ศิศีมาสกล่าว
ตัวอย่าง SEที่มุ่งเรื่องส่งเสริมคุณภาพชีวิต
ภายในงานดังกล่าว ยังมีSE ที่ดำเนินการในเรื่องที่มุ่งเน้นส่งเสริมคุณภาพชีวิตอีกมากมาย อย่างเช่น
- “ATTHALAK” มุ่งเน้นการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ผ่านงานหัตถกรรม เกษตรและแปรรูปผลผลิต ควบคู่กับการส่งเสริมความเท่าเทียม และความเสมอภาคของทุกคนในสังคม
- “YoungHappy” มุ่งสร้างคอมมูนิตี้ของผู้สูงอายุ เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ลดปัญหาทางด้านร่างกายและจิตใจที่เสื่อมถอยตามกาลเวลา ป้องกันโอกาสเสี่ยงในการเป็นผู้สูงอายุติดบ้านและติดเตียง ครอบคลุมทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์
- “Go Mamma” แอปพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่รับ-ส่ง และช่วยดูแลผู้สูงอายุ ผลักดันให้เกิดระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อSenior Friendly Ecosystem สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับกิจการและร้านค้าที่จับตลาดผู้สูงอายุโดยเฉพาะ มีเป้าหมายพาผู้สูงอายุได้ออกไปใช้ชีวิตมากขึ้นอีก 5,000 ทริปในปี 2567
- “Steps Social Enterprise” แพลตฟอร์มส่งเสริมการจ้างงานผู้พิการ มีเป้าหมายสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิต 50 ครอบครัวผู้พิการและสร้างผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจกว่า 20 ล้านบาท ภายในปี 2569 ส่วนผู้ว่าจ้างสามารถจ้างงานจากผู้พิการที่มีศักยภาพสูงด้วย
- “Sandbox Air Cleaning” บริการล้างแอร์ โดยกลุ่มคนพิการทางการได้ยิน ฝึกอบรมและจัดจ้างคนหูหนวก เพื่อเป็นช่างเทคนิคล้างเครื่องปรับอากาศ ในปี 2565 ให้บริการลูกค้าไปแล้วกว่า 2,500 ครั้ง มีแผนขยายกิจการไปให้บริการทำความสะอาดอุปกรณ์ในบ้านขนิดอื่นๆ บริษัทหรือโรงงานด้วย
- “ธัญยมัย” กิจการที่ส่งเสริมให้สตรีผู้ด้อยโอกาสในภาคเหนือและอีสานได้มีอาชีพ
- “OYU” ร้านน้ำชาที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในตลาดเก่าศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เป็นต้น