ไม่อยากแก่ ต้องเข้าใจ "เวชศาสตร์ชะลอวัย" โกงอายุแบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอ!
เมื่อเทรนด์สุขภาพปัจจุบัน ไม่ได้หมายถึงแค่วิธีป้องกันการเจ็บป่วยเท่านั้น แต่ยังไปไกลถึงการ “ชะลอวัย” ทั้งสำหรับใครที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย ไปจนถึงอยากย้อนวัยแต่ไม่ต้องการพึ่งศัลยกรรม “เวชศาสตร์ชะลอวัย” อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
Key Point :
- เวชศาสตร์ชะลอวัยไม่ใช่แค่เพียงการรักษาให้หายจากโรคตามอาการเท่านั้น แต่ยังเป็นการวิเคราะห์และดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
- สาเหตุหลักของความเสื่อมถอยทางร่างกายตามอายุที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจาก อนุมูลอิสระ ภาวะพร่องฮอร์โมน การอักเสบเรื้อรัง การเสื่อมถอยของสเต็มเซลล์ เป็นต้น
- รู้จักเทโลเมียร์ ปลายของสายดีเอ็นเอ(รหัสพันธุกรรม) ที่ช่วยปกป้องสายดีเอ็นเอไม่ให้ถูกทำลายมากไปก่อนเวลาอันควร ยิ่งเทโลเมียร์มีความยาวมากก็จะทำให้อายุยืนและสุขภาพดีมากขึ้น
- ความคืบหน้างานวิจัยโดย แพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลิตสารมณีแดง เพื่อช่วยในเรื่องของชะลออายุให้น้อยลง โดยซ่อมแซมไปถึงระดับเซลล์
ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นแน่นอนว่าความเสื่อมของร่างกายย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นหลายคนอาจมองหาการดูแลร่างกายที่มากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันการแพทย์ก้าวหน้าไปมากมีทั้งการทำศัลยกรรมและการทำหัตถการ แต่ก็อาจจะช่วยได้เพียงภายนอกเท่านั้น หากต้องดูแลไปถึงสุขภาพภายใน “เวชศาสตร์ชะลอวัย” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
เวชศาสตร์ชะลอวัย คือหนึ่งในช่องทางดูแลและป้องกันความเสื่อมของร่างกายทั้งภายในและภายนอก ที่จำเป็นต้องมีการตรวจอย่างละเอียดมากกว่าการตรวจสุขภาพประจำปี เป็นศาสตร์ที่พัฒนามาเพื่อการดูแลแบบลงลึกที่สามารถตรวจเพื่อดูถึงความเสี่ยงในอนาคต เพื่อช่วยป้องกันชะลอความเสื่อมที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้ด้วยการดูแลแบบองค์รวม โดยเฉพาะเพื่อผู้สูงอายุ
แต่ก่อนจะศึกษาเรื่องเวชศาสตร์ชะลอวัย เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเพราะอะไรร่างกายของผู้สูงอายุจึงเสื่อมถอย
- ความแก่เกิดจากอะไร? สาเหตุหลักของความชรา ตามหลักวิทยาศาสตร์
1. อนุมูลอิสระ ปกติมนุษย์เราหายใจเข้าไปเพื่อเอาออกซิเจนไปเผาผลาญอาหารที่เรากินให้เป็นพลังงาน แล้วออกซิเจนที่เหลือจะเป็นอิเล็กตรอนอิสระทำปฏิกิริยากับเซลล์อื่นๆ ทำให้เกิดความเสื่อมสภาพหยุดทำงานตายหรือเป็นมะเร็ง
2. ภาวะพร่องฮอร์โมน เมื่ออายุมากขึ้นฮอร์โมนที่ร่างกายเคยสร้างก็จะสร้างน้อยลง เช่น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง และมีโอกาสเป็นโรคหัวใจและกระดูกพรุนมากขึ้น
3. การอักเสบเรื้อรัง เช่น ในคนอ้วนมีไขมันสะสมเยอะ เซลล์ไขมันจะปล่อยสารอักเสบออกมาทำให้หลอดเลือดอักเสบ ทำให้ไขมันไปเกาะที่หลอดเลือด หลอดเลือดจึงแข็งตัวและก็เป็นต้นเหตุของโรคหัวใจหลอดเลือดและสมองตีบ
4. ภาวะน้ำตาลสะสม เกิดจากการกินน้ำตาล หรืออาหารจำพวกแป้งมากๆ เมื่อย่อยกลายเป็นน้ำตาลแล้ว จะไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนในร่างกาย ทำให้โปรตีนหรือเซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพ
5. การสะสมของสารพิษ จากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่ต้องสัมผัส เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ รังสี สารเคมี โลหะหนัก ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือจากอาหารที่กินจะไปสะสมที่เซลล์ ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติ
6. ภาวะเป็นกรด เพราะทุกวันร่างกายจะมีการสร้างกรด ส่วนหนึ่งมาจากอาหารโปรตีนสูงที่กินเข้าไป และอีกส่วนหนึ่งมาจากการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ร่างกายจะปรับสมดุลของกรดเหล่านี้ให้กลับสู่ปกติโดย ตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนกรดบางชนิดให้เป็นด่าง ปอดจะช่วยขับกรดออกจากร่างกายในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์และไตจะขับกรดออกทางปัสสาวะในรูปของแอมโมเนีย ดังนั้นภาวะเป็นกรดจะส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ทำงานหนักขึ้นและเสื่อมสภาพลง
7. ภาวะเสื่อมสภาพของเซลล์ต้นกำเนิด (สเต็มเซลล์) ทำให้การซ่อมแซมร่างกายน้อยลงกว่าปกติ
- ทำไม เวชศาสตร์ชะลอวัย จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น วัยเปลี่ยนไป ทำให้ร่างกายย่อมมีความเสื่อมถอยและต้องการการดูแลที่มากขึ้น แม้จะไม่ได้มีโรคประจำตัวมาก่อนหรืออยู่ระหว่างเจ็บป่วย แต่ผู้สูงอายุหลายคนก็อาจมีอาการเหล่านี้
- รู้สึกร่างกายมีความเหนื่อยล้า
- อารมณ์เสียโดยไม่มีสาเหตุ
- ตื่นมาในตอนเช้าแต่กลับไม่รู้สึกสดชื่น
- ในหนึ่งปีเป็นหวัดหลายครั้ง
การที่จะดูแลสุขภาพได้ในหลายมิติโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแบบฉบับเวชศาสตร์ชะลอวัย จะทำให้ผู้สูงอายุสามารถตรวจร่างกายได้อย่างละเอียดเป็นการดูแลเฉพาะในแต่ละบุคคลและให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบของชีวิต ตั้งแต่
- สภาพแวดล้อมครอบครัว
- สิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่
- การทำงาน
- โภชนาการ
- การออกกำลัง
โดยนำรายละเอียดเหล่านี้มาวิเคราะห์และออกแบบรูปแบบการดำเนินชีวิตให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุแต่ละคน รวมถึงประเมินความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างการวิเคราะห์แบบเวชศาสตร์ชะลอวัยจาก รพ. พญาไท ในบางครั้งผู้สูงอายุที่เป็นหวัดบ่อยในรอบหนึ่งปีเมื่อไปพบแพทย์ทั่วไป เข้ารับการรักษา กินยา หายป่วย แต่ถ้าเป็นเวชศาสตร์ชะลอวัย จะต้องมีการวินิจฉัยต่อว่าเพราะอะไรผู้ป่วยจึงเป็นหวัดบ่อย ภูมิคุ้มกันผู้ป่วยเป็นอย่างไร และจะสามารถดูแลรักษาเพิ่มเติมอย่างไรเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น วิเคราะห์หาต้นตอของโรคเพื่อรักษาให้ตรงจุดเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาจากอาการป่วยแบบเดิมหลายครั้ง
- โกงอายุด้วยการซ่อม-สร้าง เทโลเมียร์
“เทโลเมียร์” คือ ปลายของสายดีเอ็นเอ หรือ รหัสพันธุกรรม โดยเทโลเมียร์ช่วยปกป้องสายดีเอ็นเอไม่ให้ถูกทำลายมากไปก่อนเวลาอันควร ดังนั้นยิ่งเทโลเมียร์มีความยาวมากเท่าไรก็จะทำให้อายุยืนและสุขภาพดีมากเท่านั้น ซึ่งนวัตกรรมวัฒนชีวา ทำให้โลเมียร์ยาวขึ้นเฉลี่ย +408 base pairs หลังใช้ 8 สัปดาห์ เทียบเท่าการชะลอวัยระดับเซลล์ได้ถึง 5.8 ปี จากเดิมที่ปกติแล้วเทโลเมียร์ของคนทั่วไปตามธรรมชาติจะสั้นลงเฉลี่ย -70.2 base pairs ต่อปี
ปัจจุบันเนื่องจากเทคโนโลยีด้านการแพทย์ก้าวหน้าไปไกลมาก ทำให้เราสามารถชะลอวัยได้ด้วยการป้องกันความเสื่อมถอยของ “เทโลเมียร์” โดยข้อมูลจาก รพ.สมิติเวช ระบุว่า ดร.อลิซาเบท แบล็กเบิร์น เจ้าของรางวัลโนเบล ผู้ค้นพบความสำคัญของเทโลเมียร์อธิบายว่า เทโลเมียร์จะหดสั้นลงปกติตามอายุที่เพิ่มขึ้น หรือ ว่ายิ่งแก่ เทโลเมียร์ยิ่งสั้น ซึ่งเทโลเมียร์ของแต่ละคนหดสั้น เร็ว ช้า ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ชีวิต อาหารที่กิน การออกกำลังกาย ความเครียด สูบบุหรี่ ดื่มสุรา การนอน สารพิษ รังสีต่างๆ ที่ได้รับ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เทโลเมียร์หดสั้นเร็วผิดปกติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
รู้จัก "เทโลเมียร์" กลไกลสำคัญร่างกาย ดูแลดี "ชะลอวัย"
ปัจจุบัน “เวชศาสตร์ชะลอวัย” ได้นำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทโลเมียร์มาต่อยอดเชิงพาณิชย์ ทำให้สามารถชะลอได้ถึงระดับเซลล์ เรียกว่า “วัฒนชีวา” สูตรสารสกัดจากพืชกินได้ ศึกษาค้นคว้าผ่านงานวิจัย โดยคณะวิจัย Operation BIM และพัฒนาสูตรเพื่อ ซ่อม-สร้าง เทโลเมียร์ ที่ช่วยย้อนวัย ชะลอวัย อายุยืนพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรง โดยมีการทดสอบในอาสาสมัคร พบว่า กระตุ้นความยาวของเทโลเมียร์ให้เพิ่มมากขึ้น
- นวัตกรรมมณีแดงป้องกันเซลล์เสื่อมสภาพ
ทางด้าน บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เตรียมที่จะเปิดตัวสารชะลอวัย คาดว่าจะใช้ชื่อ “มณีแดง” จากการให้ทุนคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลิตสารมณีแดง เป็นสารที่ทำให้ช่วยในเรื่องของชะลออายุให้น้อยลง ที่ไม่ใช่สเต็มเซลล์ แต่มณีแดงจะเข้าไปในระดับ DNA ช่วยกลุ่มคนที่รักความสวยความงาม
หากจะเปรียบเทียบง่ายๆ คือ ทำไมมนุษย์เราถึงมีความชรา เนื่องจากเซลล์ในร่างกายทำงานไม่ดี นอนไม่หลับ อาหารไม่ย่อย ซึ่งมณีแดงจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เพราะหากเซลล์เสื่อมสภาพ การสั่งการก็จะเสื่อม เพราะ DNA เสื่อม ทั้งข้อต่อ เมื่ออายุมากขึ้นก็จะหลุด ไม่แข็งแรง สั่งการไม่ดี ดังนั้นมณีแดงจึงอาจเปรียบได้กับยาอายุวัฒนะฝีมือคนไทย
- เริ่มย้อนวัยง่ายๆ ด้วยตัวเราเอง
แม้การย้อนวัยจะเป็นได้จริงง่ายขึ้นถ้าคุณมี “เงิน” อย่างเช่นที่ “ไบรอัน จอห์นสัน” มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีวัย 45 ปี ที่ใช้ทีมแพทย์ถึง 30 คน เพื่อศึกษาเรื่อง “เวชศาสตร์ฟื้นฟู” หรือ “เวชศาสตร์ชะลอวัย” ซึ่งเขาใช้เงินอย่างน้อย 2 ล้านเหรียญ เพื่อให้เขามีสมอง หัวใจ ปอด ตับ ไต เส้นเอ็น ฟัน ผิวหนัง เส้นผม กระเพาะปัสสาวะ อวัยวะเพศ และทวารหนัก เหมือนตอนอายุ 18 ปี
แต่สำหรับคนทั่วๆ ไปอย่างเรานั้น แม้ไม่ได้มีเงินมหาศาล แต่ก็สามารถฉุดรั้งความชราให้ช้าลงได้ด้วยเทคนิคการดูแลตัวเองแบบเดียวกับที่ไบรอันใช้ดูแลตัวเองร่วมด้วย ดังนี้
- กินมังสวิรัติ 1,977 แคลอรีต่อวัน
- ออกกำลังกายอย่างหนัก 1 ชั่วโมงต่อวัน 3 ครั้งต่อสัปดาห์
- เข้านอนเวลาเดียวกันทุกคืน แต่ก่อนนอนต้องสวมแว่นตาที่กันแสงสีฟ้า 2 ชั่วโมง
- ติดตามสัญญาณชีพจรของตัวเองสม่ำเสมอ
หลังจากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เขาได้ค้นพบว่าไขมันของในร่างกายของเขาเหลือเพียงร้อยละ 5-6 เท่านั้น ถือว่าน้อยมากสำหรับคนอายุ 45 ปี
ดังนั้นเวชศาสตร์ชะลอวัยในปัจจุบันจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้สูงอายุที่ต้องการมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีอายุยืนยาวโดยไม่จำเป็นต้องศัลยกรรมผ่าตัด แต่สำหรับคนหนุ่มสาวเองก็สามารถเริ่มต้นดูแลสุขภาพตัวเองได้ตั้งแต่วันนี้เช่นกัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมากังวลกับปัญหาสุขภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
อ้างอิงข้อมูล : Bloomberg, Mylife 100 Club, รพ.พญาไท, รพ.นครธน และ รพ.สมิติเวช