GISTDA เผย กาญจนบุรี 'จุดความร้อน' พุ่งสูงสุดในไทย ตามด้วย ตาก แม่ฮ่องสอน
GISTDA เผย กาญจนบุรี "จุดความร้อน" พุ่งสูงสุดในไทย 597 จุด ตามด้วย ตาก แม่ฮ่องสอน ขณะประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ยังครองอันดับหนึ่งอยู่ที่ 6,701 จุด
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) ไทยพบ "จุดความร้อน" วานนี้ (4 มีนาคม 2566) จำนวน 2,583 จุด ในขณะที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ยังนำโด่งจำนวน 6,701 จุด กัมพูชา 2,125 จุด สปป.ลาว 1,434 จุด เวียดนาม 147 จุด และมาเลเซีย 2 จุด
"จุดความร้อน" ในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบใน
- พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,378 จุด
- พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 541 จุด
- พื้นที่เกษตร 267 จุด
- พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 228 จุด
- พื้นที่เขต สปก. 155 จุด
- พื้นที่ริมทางหลวง 14 จุด
จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ
- กาญจนบุรี 597 จุด
- ตาก 200 จุด
- แม่ฮ่องสอน 117 จุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ค่าฝุ่น PM 2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 11:00 น. ที่ผ่านมา พบว่าในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ อาทิ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก ลำพูน น่าน พะเยา ลำปาง อยู่ระดับสีแดงที่สูงกว่า 90 ไมโครกรัม ซึ่งมีผลต่อสุขภาพ ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อยู่ระดับสีส้มเริ่มมีผลต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม
ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่
ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ fire.gistda หรือ ติดตามข้อมูลจาก (คลิก) และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น"