‘จุดความร้อน’ ทั่วไทยลดลง - 'ฝุ่น PM 2.5' ยังเกินมาตรฐานหลายพื้นที่ภาคเหนือ
GISTDA เผย "จุดความร้อน" ทั่วไทยลดลง ส่วนค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ของประเทศ แม่ฮ่องสอน ค่า PM2.5 สูงสุด อยู่ในเกณฑ์ที่มีผลต่อสุขภาพ ขณะที่กทม.ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีจนถึงปานกลาง
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) ไทยพบ "จุดความร้อน" วานนี้ (11 มี.ค.66) จำนวน 1,061 จุด ในขณะที่
- สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ยังนำโด่งจำนวน 4,363 จุด
- สปป.ลาว 2,868 จุด
- กัมพูชา 1,182 จุด
- เวียดนาม 647 จุด
- มาเลเซีย 32 จุด
"จุดความร้อน" ในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบใน
- พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 383 จุด
- พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 278 จุด
- พื้นที่เกษตร 192 จุด
- พื้นที่เขต สปก. 123 จุด
- พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 78 จุด
- พื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด
จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ แม่ฮ่องสอน 127 จุด
ค่าฝุ่น PM 2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 09:00 น. ที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่ของประเทศอยู่ในระดับสีแดง แสดงให้เห็นว่าเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด และมีผลต่อสุขภาพ อาทิ
- แม่ฮ่องสอน
- เชียงใหม่
- เชียงราย
- ตาก
- น่าน
- พะเยา
- ลำพูน
- ลำปาง
- เลย
- แพร่
- อุตรดิตถ์
- กาญจนบุรี
- ชัยภูมิ
- เพชรบูรณ์
- อุทัยธานี
- เพชรบุรี เป็นต้น
ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อยู่ระดับปานกลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและ "จุดความร้อน" คือ ฝุ่น PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ GISTDA ยังได้เผยข้อมูลจากดาวเทียมฮิมาวาริ เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันนี้ (12 มี.ค.66) พบค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยจังหวัดที่มีค่า PM2.5 สูงสุดอยู่แม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลต่อสุขภาพ ในขณะที่ กทม. ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีจนถึงปานกลาง แต่จะมีบางพื้นที่ที่เกินมาตรฐานโดยเฉพาะเขตบางขุนเทียน สาทร บางซื่อ บึงกุ่ม บางนา จตุจักร เป็นต้น
ข้อมูลที่ได้จากดาวเทียมฮิมาวาริที่ท่านเห็นอยู่นี้ จะแสดงผลเฉพาะค่าฝุ่น PM 2.5 เท่านั้น สำหรับแอปพลิเคชันทั่วไปที่มีการรายงาน ดัชนีคุณภาพอากาศ แบบ AQI จะเป็นการรายงานคุณภาพอากาศในภาพรวมที่ประกอบด้วยมลพิษทางอากาศ 6 ชนิดด้วยกันคือ
- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10)
- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5)
- ก๊าซโอโซน (O3)
- ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซต์ (CO)
- ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซต์ (NO2)
- ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)
ทั้งนี้ ตัวเลขที่สูงมากเป็นเพราะค่าระดับของก๊าซบางชนิดที่รวมอยู่ด้วย เช่น O3 NO2 SO2 เป็นต้น ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่
