PM 2.5 เชียงใหม่ ยืนหนึ่งเมืองมลพิษมากสุดในโลก น่าน คุณภาพอากาศแย่สุดในไทย
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 คุณภาพอากาศ ประเทศที่มีมลพิษทางอากาศสูงสุดในโลกปรากฏว่าวันนี้ (4 เมษายน 2566) จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองที่อากาศแย่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เว็บไซต์ IQAir รายงานคุณภาพอากาศ ประเทศที่มีมลพิษทางอากาศสูงสุดในโลกปรากฏว่าวันนี้ จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองที่อากาศแย่ที่สุด อันดับ 1 ของโลกอย่างต่อเนื่อง วัดได้ 196 AQI จากข้อมูล ณ เวลา 8.43 น.วันที่ 4 เมษายน 2566
อันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของประเทศไทย 10 อันดับแรก
คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีม่วงทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับที่มีผลกระทบเป็นอย่างมากและอันตรายต่อสุขภาพ ดังนี้
1.อำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน ดัชนีคุณภาพอากาศ 351 AQI
2.อำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 313 AQI
3.แม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ดัชนีคุณภาพอากาศ 303 AQI
4.อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ดัชนีคุณภาพอากาศ 290 AQI
5.อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 252 AQI
6.อำเภอพาน จ.เชียงราย ดัชนีคุณภาพอากาศ 250 AQI
7.อำเภอลี้ จ.ลำพูน ดัชนีคุณภาพอากาศ 242 AQI
8.อำเภอเมืองเชียงของ จ.เชียงราย ดัชนีคุณภาพอากาศ 237 AQI
9.อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 233 AQI
10.อำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ดัชนีคุณภาพอากาศ 228 AQI
ด้านศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 4 เมษายน 2566 ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐาน 21 จังหวัด ประกอบด้วย
- เชียงราย
- เชียงใหม่
- น่าน
- แม่ฮ่องสอน
- พะเยา
- ลำพูน
- ลำปาง
- แพร่
- อุตรดิตถ์
- พิษณุโลก
- ตาก
- กำแพงเพชร
- พิจิตร
- นครสวรรค์
- อุทัยธานี
- สิงห์บุรี
- ลพบุรี
- อ่างทอง
- สุพรรณบุรี
- เลย
- นครพนม
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 37-214 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 32-78 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 4 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 34-56 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 12-37 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 13-23 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 26-49 มคก./ลบ.ม.
คำแนะนำทางสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
สามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 5-11 เมษายน 2566 ดังนี้
- วันที่ 5-11 เมษายน 2566 เป็นต้นไปสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น ประกอบกับลมทางใต้ที่กำลังแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่
อย่างไรก็ตามวันที่ 5-7 เมษายน 2566 อาจมีสภาพอากาศที่ปิดได้ในบางพื้นที่ แต่ภาพรวมของพื้นที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านในวันที่ 5-11 เม.ย.2566 อย่างไรก็ตามช่วงวันที่ 6-7 เมษายน 2566 ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะอากาศค่อนข้างปิด