'แก้วเก็บความเย็น' บางรุ่นพบสารตะกั่วปนเปื้อน เลือกซื้อยังไงให้ปลอดภัย?

Key Points: 

• สหรัฐเรียกคืน “แก้วน้ำสแตนเลสแบบผนังสองชั้น” สำหรับเด็กแบรนด์ Cupkin ประมาณ 346,000 ใบ เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามี “สารตะกั่ว” ปนเปื้อนเกินมาตรฐาน
• ด้าน CDC เตือนประชาชนให้ระวังสารตะกั่วปนเปื้อนจากแก้วเก็บความเย็นบางรุ่นบาง หากเด็กเล็กได้รับพิษตะกั่วเข้าไปในร่างกาย ก็จะไปขัดขวางการพัฒนาสมองและระบบประสาท
• วิธีเลือกซื้อ “แก้วเก็บความเย็น” ให้ปลอดภัย ควรเลือกซื้อแก้วสแตนเลสคุณภาพสูงราคาแพง เนื่องจากเป็น Stainless Food Grade หรือ สแตนเลส 304 ซึ่งมีคุณภาพที่ได้รับมาตรฐาน ISO

ไม่กี่วันที่ผ่านมา สำนักข่าว CNN และ Dailymail ต่างรายงานตรงกันว่า “คณะกรรมการความปลอดภัยสินค้าอุปโภคบริโภค (CPSC)” ของสหรัฐเรียกคืน “แก้วน้ำสแตนเลสแบบผนังสองชั้น” สำหรับเด็กแบรนด์ Cupkin ประมาณ 346,000 ใบ เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเหล่านี้มีปริมาณ “สารตะกั่ว” ในระดับที่เกินมาตรฐานห้ามใช้สารตะกั่วของรัฐบาลกลาง

โดยแก้วเก็บความเย็นดังกล่าวมีขนาด 8 ออนซ์ และ 12 ออนซ์ มีการผลิตในจีนและถูกขายออนไลน์ที่ Amazon.com และ Cupkin.com ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 ถึงมีนาคม 2023 ในราคาประมาณ 20 ดอลลาร์ 

“ผู้บริโภคควรนำแก้วแบรนด์ดังกล่าวออกจากมือเด็กทันทีและหยุดใช้ เนื่องจากข้อยกเว้นที่จำกัดบางประการ ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทั้งหมดที่ผลิตหรือนำเข้ามาในสหรัฐอเมริกา ต้องไม่มีสารตะกั่วเกิน มาตรฐานคือ 90-100 ส่วนใน 1 ล้านส่วน (ppm)” หน่วยงาน CPSC ระบุชัด 

 

• เจ้าของแบรนด์แก้วสแตนเลส ยอมรับผิด ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน

ขณะที่เจ้าของแบรนด์ Cupkin ออกมายอมรับว่า “แก้วสแตนเลสเก็บความเย็น” สำหรับเด็กบางรุ่นอาจมีปัญหาสารตะกั่วปนเปื้อนจริง หากก้นแก้วถูกทำให้เสียหายหรือใช้งานผิดวิธี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางแบรนด์จะใช้โอกาสนี้ในการออกแบบแก้วผนังสองชั้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้คุณภาพดียิ่งขึ้น 

พร้อมกันนี้ทางผู้ผลิตก็ได้ติดต่อกลับไปยังผู้ซื้อทั้งหมดโดยตรงเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ทั้งนี้ฝ่ายลูกค้าของ Cupkin เองก็สามารถติดต่อผ่านเว็บไซต์คนกลางที่ขายสินค้าได้โดยตรง เพื่อขอรับเงินคืนได้เต็มจำนวน 

 

• หากเด็กได้รับพิษตะกั่วจะส่งผลให้การพัฒนาสมองและระบบประสาทช้าผิดปกติ

ด้าน “ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC)” ออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสารตะกั่วปนเปื้อนจากแก้วเก็บความเย็นบางรุ่นบางยี่ห้อ และได้ให้ข้อมูลถึงผลกระทบต่อร่างกายไว้ว่า เด็กเล็กที่สัมผัสสารตะกั่วอาจถูกขัดขวางการพัฒนาสมองและระบบประสาท

ผู้เชี่ยวชาญระบุด้วยว่า ประมาณ 2.5% ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ได้รับสารตะกั่วในระดับที่เป็นอันตราย (ประมาณ 10 ไมโครกรัมต่อเดซิลิตร) ซึ่งส่งผลให้เด็กๆ มีปัญหาด้านการพัฒนาการเรียนรู้ล่าช้าผิดปกติ ทั้งพฤติกรรม การได้ยิน การพูด มีความยากลำบากในการเรียนรู้ หงุดหงิด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เฉื่อยชา อ่อนเพลีย และปวดท้อง โดยอาการผิดปกติจากพิษตะกั่วดังกล่าวสามารถคงอยู่ได้อย่างถาวร

ทั้งนี้ พิษของสารตะกั่วจะส่งผลอันตรายเมื่อสารตะกั่วสะสมในร่างกาย แม้จะมีปริมาณเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ 

 

• เปิดวิธีเลือกซื้อ "แก้วสแตนเลส" ให้ปลอดภัยจากสารตะกั่ว

จากกรณีดังกล่าว วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายได้รับสารพิษตะกั่วจาก “แก้วเก็บความเย็น” หรือ “แก้วสแตนเลส” แบบผนังสองชั้นนั้น คือ การเลือกซื้อแก้วสแตนเลสคุณภาพสูงแบบ Stainless Food Grade หรือ สแตนเลส 304 (Stainless 304) ซึ่งเป็นสแตนเลสที่ได้มาตรฐาน ISO และเป็นสแตนเลสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้ในครัวเรือน (Household) การผลิต และแปรรูปอาหาร การทำเบเกอรี่ (Bakery) ไปจนถึงอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต่างๆ ในโรงพยาบาล 

เวลาเลือกซื้อให้มองหาสัญลักษณ์ Stainless 304 โดยสอบถามจากทางร้านค้าให้แน่ใจ รวมถึงแก้วน้ำหรือกระบอกน้ำสแตนเลสกลุ่มนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง หากเจอแก้วสแตนเลสที่ราคาถูกให้ระวังไว้ได้เลยว่าอาจเป็นสแตนเลสคุณภาพต่ำที่มีสารตะกั่วปนเปื้อนได้

-------------------------------------

อ้างอิง : CNN, DailyMail, LifestyleCasted, SGE Thai