'เมิร์ซ' หนุนความหลากหลาย สร้างการเติบโต บนความเท่าเทียม
ส่องแนวคิดบริหารคน บริหารองค์กร เมิร์ซ เอสเธติกส์ (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนวัตกรรมเทคโนโลยีความงามคุณภาพครบวงจร กับสร้างให้พนักงาน เป็นคนสำคัญ พัฒนาศักยภาพ และเคารพความหลากหลาย อย่างเท่าเทียม
Key Point :
- กว่า 8 ปี ที่ เมิร์ซ เอสเธติกส์ (ประเทศไทย) เติบโตในอุตสหากรรมความงาม ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนวัตกรรมเทคโนโลยีความงามครบวงจร
- การเติบโตดังกล่าว นอกจากการกลยุทธ์การบริหารธุรกิจแล้ว การบริหารคนยังเป็นสิ่งที่เมิร์ซ ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน
- เพราะการสร้างให้พนักงานรู้สึกเป็นคนสำคัญขององค์กร และพัฒนาเขาให้มีความเก่งขึ้น เคารพความหลากหลาย อย่างเท่าเทียม จะส่งผลให้การทำงานเช่นกัน
เพราะความเชื่อที่ว่าบนโลกนี้มีความหลากหลาย และในองค์กรย่อมมีความแตกต่าง ดังนั้น การเคารพและยอมรับซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนในองค์กรสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เมื่อพนักงานมีความสุข ก็ย่อมส่งผลต่อการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวคิดดังกล่าว ขับเคลื่อนให้ เมิร์ซ เอสเธติกส์ (ประเทศไทย) ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนวัตกรรมเทคโนโลยีความงามคุณภาพระดับพรีเมียมครอบคลุมทั้งการดูแลรักษาผิวพรรณและรูปร่างครบวงจร เติบโตในอุตสาหกรรมความงามมากว่า 8 ปี ในผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องมือ Ulthera (skin tightening), Filler (สารเติมเต็ม), Botulinum Toxin (สารลดเลือนริ้วรอย) ในปี 2565 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า เติบโตขึ้นแบบ Triple-digit กว่า 111% หรือกว่า 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนหน้านี้ที่ไม่ถึง 1,000 ล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้า 3,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 'เบโค' ปลูกฝัง Leadership DNA บ่มเพาะทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน
- YDM ทำออฟฟิศให้เหมือนบ้าน เข้าใจความต่าง คนทำงานยุคใหม่
- LINE MAN Wongnai หนุนความหลากหลาย ยกระดับสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียม
“พนักงาน คือ ความสำคัญลำดับต้นๆ เราเชื่อว่าหากน้องๆ มีความสุขในการทำงาน เขาจะสามารถออกไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้บริหารสูงสุดบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย กล่าวกับ กรุงเทพธุรกิจ ถึงเคล็ดลับในการดูแลพนักงานราว 55 คน ที่ปัจจุบันเริ่มมีเด็กรุ่นใหม่ๆ ในกลุ่ม เจน Millennial และเจน Z เข้ามามากขึ้น ด้วยเป้าหมายของเมิร์ซ ที่มาจาก Global คือ Confidence to Be หรือ ความมั่นใจ มุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรม
ในตลาดความงามนับเป็นตลาดแดงเดือดประมาณหนึ่ง มีผู้เล่นเข้ามามากเพราะเป็นตลาดดาวรุ่ง ดังนั้น ทำอย่างไรที่จะ 'สร้างสรรค์' สินค้าใหม่ เทคนิคใหม่ๆ , 'ส่งเสริม' เมื่อมีคลินิก มีแพทย์เข้ามาในตลาดมากขึ้น จะส่งเสริมในการเป็นพาร์ตเนอร์มากขึ้น สร้างความรู้ความเข้าใจแพทย์ใหม่ๆ ที่เข้ามาในตลาด โดยให้ความรู้ในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง รวมถึงพนักงานหน้าร้านซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะให้ข้อมูลกับผู้บริโภค และนักการตลาดของคลินิก และสุดท้าย 'สื่อสาร' ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
“ความท้าทาย คือ ทำอย่างไรให้ธุรกิจนี้มีความยั่งยืน เพราะหากมีการใช้แบบผิดๆ ไม่ถูกต้อง จะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค และทำลายทั้งอุตสาหกรรม ดังนั้น ทำอย่างไรให้มีการสื่อสารที่ถูกต้องและปลอดภัย เป็นสิ่งที่เราพยายามให้ความรู้มากขึ้นทั้งกับผู้บริโภคและแพทย์ด้วย”
ทั้งนี้ นอกจากการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภคแล้ว สำหรับพนักงานเอง ก็ต้องมีความเข้าใจในอุตสาหกรรม และมีความรู้ เนื่องจากถือเป็นทีมที่ต้องให้ข้อมูลกับแพทย์ด้วย
“เรามีทีมเทรนนิงสำหรับเทรนน้องทุกเดือน และมีทีมต่างหากที่เทรนแพทย์และน้องหน้าร้านเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง จะไม่ Over claim เรามีทีมที่เรียกว่า Regulatory เป็นทีมที่ดูกฎระเบียบต่างๆ ของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีการอัพเดตตลอด และเทรนดให้กับน้องๆ อย่างถูกต้องเป็นสิ่งที่เราทำกันมาตลอด”
หนุนความหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในอุตสาหกรรมความงาม เมิร์ซเองก็ไม่ได้มองว่าทุกคนจะต้องสร้างความมั่นใจในด้านความงามเสมอไป เพราะเชื่อว่าคนเรามีความหลากหลาย มีความชอบที่แตกต่างกัน และคนเราสามารถมั่นใจในตัวเองด้วยรูปแบบอื่นๆ ได้ รวมถึง กับพนักงานของเมิร์ซด้วยเช่นกัน
“เราส่งเสริมเรื่องของความหลากหลายของผู้บริโภค ความปัจเจก อย่างในออฟฟิศเองพนักงานบางคนก็ไม่ทำเลยก็มี บางคนอยู่ตรงกลางๆ และบางคนเข้าขั้นขาดไม่ได้ ค่อนข้างมีความหลากหลาย แต่หากเขาทำแล้วเขามั่นใจและไม่เกินจุดของความปลอดภัยก็ไม่เคยห้ามและส่งเสริมให้เขารู้สึกดีในแบบของเขาเอง เราจะไม่ตัดสินกัน ถือเป็นจุดเล็กๆ ที่พยายามสร้าง และตอนนี้ 50 กว่าคน เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนจะมีทัศนคติแบบที่เราพยายามจะสื่อสารออกไปเช่นกัน”
เมื่อถามถึงเคล็ดลับการบริหารคน เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ มองว่า เริ่มตั้งแต่ก่อนเข้า เลือกคนที่ถูกเข้ามาในสังคมที่ถูก ต้องยอมรับว่าส่วนตัวก็เป็นคนที่มี Passion ในอุตสาหกรรมนี้ หากเข้ามาถูกอุตสาหกรรมเขาย่อมมีความสุข ถัดมา คือ บริหารโดยที่ไม่ว่ากลยุทธ์อะไรที่เราคุยกัน พนักงาน คือ ความสำคัญลำดับต้นๆ เราเชื่อว่าหากน้องๆ มีความสุขในการทำงาน เขาจะสามารถออกไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ในหลายครั้งจะพูดกับน้องเสมอว่า เราเต็มที่กับคุณ ลูกค้าได้อะไร น้องๆ จะได้แบบนั้น เราจะไม่มีลูกค้ามาก่อน และน้องต้องอยู่แบบขาดๆ แคลนๆ ไม่ใช่ เราให้สิ่งที่เขารู้สึกว่าเขาอยู่ที่นี่แล้วเขาได้เติมเต็ม เขาภูมิใจ เพราะเชื่อว่า เด็กในปัจจุบัน โดยเฉพาะเด็กเจน Z ที่เข้ามาเยอะมาก เขาไม่ได้อยู่เพราะเงินเดือน เขาสามารถไปหางานที่เงินเดือนสูงกว่านี้ได้ แต่เขาเลือกที่จะไม่หา และเชื่อว่ามีบริษัทสรรหาบุคลากรที่มาจับจ้องน้องๆ มากมาย แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับเมิร์ซ นี่เป็นจุดเล็กๆ ที่เราพยายามสร้าง เราสร้างให้เขารู้สึกว่าเขาคือคนสำคัญขององค์กร และพัฒนาเขาให้มีความเก่งขึ้นใน Area ที่เขาดูแลอยู่ ให้ในสิ่งที่เขารู้สึกว่าเราไม่สองมาตรฐาน (Double standard)”
รับฟังเสียงพนักงาน
ขณะเดียวกัน ในออฟฟิศที่มีหลากหลายเจนเนอเรชั่น แต่ความโชคดี คือ แต่ละเจนจะมีช่วงที่ทำให้สามารถลิงค์กันได้ โดยเมิร์ซ มีการจัดตั้งทีมขึ้นมาเพื่อความต้องการของพนักงาน รับฟังว่าน้องๆ อยากได้อะไร จะทำอย่างไรให้น้องๆ มีความสุขมากขึ้นได้ในบริษัท
“ส่วนใหญ่สิ่งที่น้องอยากได้จะเป็นเล็กๆ น้อยๆ เช่น อยากได้ที่นวดเท้า เก้าอี้นวด บางทีมาเหนื่อยๆ จะได้นั่ง ดังนั้น อะไรที่สามารถเติมเต็มน้องได้ก็จะให้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้ เวลาที่ได้รับ Feedback คือ ไม่ได้มีความรู้สึกว่าเขาขาด เขาไม่ได้ขออะไรที่เป็นเรื่องร้ายแรง มองว่าตรงนี้เป็นการแสดงว่าสิ่งสำคัญที่เขายังอยู่กับเรา คือ ยังเติมเต็มเขาอยู่ สิ่งนี้เป็นการตรวจสอบความเข้าใจ และอีกเรื่องที่เราพยายามทำ คือ จัดงานรื่นเริงในออฟฟิศเพื่อให้เขาได้มีปฏิสัมพันธ์กันตลอดเวลา พยายามหาว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ และทำให้เขาอยู่กับองค์กร ไม่ใช่แค่เงินเดือน เพราะหากอยู่แค่เงินเดือนจะอยู่ไม่ได้” เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ กล่าวทิ้งท้าย