'รักษามีบุตรยาก' ไม่ใช่แค่มีลูก แต่เด็กต้องสุขภาพดี
'เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป’ โชว์ศักยภาพให้บริการทางการแพทย์เพื่อการมีบุตรครบวงจร รักษามีบุตรยาก คัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน-ทารกในครรภ์ อัตราความสำเร็จตั้งครรภ์เฉลี่ย 75% รายได้โตขึ้นเกือบ 30% มุ่งขานรับไทยเป็นเดสทิเนชั่นของผู้มีบุตรยากจากทั่วโลก
นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ทางการแพทย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE กล่าวว่า กลุ่มบริษัทให้บริการแยกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1.ศูนย์การแพทย์เพื่อการมีบุตร เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ เซ็นเตอร์ โดยเป็นศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากที่ให้บริการแบบครบวงจรในไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านการเจริญพันธ์ในระดับสากล และได้รับการรับรองมาตรฐานคลินิกเด็กหลอดแก้ว จากสถาบัน RTAC
โดยให้บริการตั้งแต่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา ตลอดจนให้การรักษาแก่ผู้ที่มีบุตรยากและการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนแบบพิเศษ การแช่แข็งไข่ ฝากไข่ อสุจิ และตัวอ่อน พร้อมผู้ดูแลลูกค้าส่วนบุคคล ที่มีประสบการณ์สูง สามารถสื่อสารได้หลากหลายภาษา ดูแลช่วยเหลือตลอดกระบวนการ
2. บริษัท เน็ก เจนเนอร์เรชั่น จีโนมิค จำกัด (NGG) ดำเนินธุรกิจด้านการตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและทารกในครรภ์ ช่วยลดความเสี่ยงการพบทารกพิการแต่กำเนิด เช่น ดาวน์ซินโดรม ภาวะขาด/เกินบางส่วนของแท่งโครโมโซม หรือการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น และการให้บริการด้านห้องปฏิบัติการทางด้านพันธุศาสตร์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงให้บริการแก่ลูกค้าภายนอก อาทิ โรงพยาบาลชั้นนำ คลินิกสูตินรีเวช และศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากในประเทศไทย และ 3.บริษัท เซฟ เวลเนส จำกัด (SWC) ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านผิวหนังและความงามภายใต้ชื่อ เดอะฟาวเทน เวลเนส เซ็นเตอร์ (The Fountain Wellness Center) ให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรตั้งแต่ก่อนและหลังมีบุตร
7วิธีรักษามีบุตรยาก
บริษัทมีการนำเครื่องมือทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมาให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2555 ได้นำตู้เลี้ยงตัวอ่อนรุ่นใหม่ เพื่อใช้ในการติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเทคโนโลยีคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนทั้ง 24 โครโมโซมย เทคโนโลยีการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์และเทคโนโลยีฟื้นฟูรังไข่เข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอัตราความสำเร็จ เป็นต้น
วิธีรักษาผู้มีบุตรยากที่ให้บริการ ดังนี้
1. การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IUI เป็นการฉีดน้ำเชื้อที่ผ่านการคัดกรองเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรง
2. การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี ICSI คือการช่วยปฏิสนธิของไข่และเชื้ออสุจิภายนอกร่างกายและส่งกลับตัวอ่อนเข้าไปยังโพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์
3. การย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก แบ่งเป็นการย้ายตัวอ่อนแบบรอบสด และรอบแช่แข็ง
4.บริการแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ อสุจิ และตัวอ่อน
5. การเก็บอสุจิ ด้วยวิธี TESE หรือการเก็บอสุจิโดยตรงจากอัณฑะ
6. เทคโนโลยีคัดอสุจิด้วยวิธี IMSI ด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงเพื่อคัดเลือกอสุจิลักษณะดีมาผสมกับเซลล์ไข่
7. การคัดกรองอสุจิด้วยวิธี MACs Sperm เพื่อคัดกรองอสุจิที่มีคุณภาพ
ให้บริการผ่านสาขาทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ สาขาอัมรินทร์ พลาซ่า รามอินทรา ภูเก็ต ขอนแก่นและศรีราชา และมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงมีช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Line Official, WhatsApp และเว็บไซต์ของบริษัท ในการสื่อสารข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของบริษัทไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
อัตราสำเร็จเฉลี่ย 75%
ที่ผ่านมาให้บริการแก่ชาวไทยคิดเป็น 50% และชาวต่างชาติ 50 % การรักษาผู้มีบุตรยากที่เป็นชาวต่างชาติถึง 2,483 ราย อาทิ จีน อินเดีย เมียนมา เวียดนาม สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฯลฯ อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์เฉลี่ย 75% โดยในปี 2563 ถึงไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ เพิ่มขึ้นจาก47.5% เป็น71.6 % กรณีไม่ได้ตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน และ63.5% เป็น 77.2 %กรณีเพิ่มบริการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน
"การให้บริการรักษาที่ครบวงจรและการตรวจคัดกรองโครโมโซม จึงไม่ได้ช่วยเพียงแค่ให้มีบุตรเท่านั้น แต่ทารกที่คลอดต้องมีสุขภาพที่ดีและไม่เอาโรคมาจากพ่อแม่"นพ.วิวัฒน์กล่าว
อัตราการเติบโตของรายได้บริษัท ในปี 2565 ราว 30% จากปี 2564 รายได้ 561.96 ล้านบาท เป็น 729.32 ล้านบาทในปี 2565 ส่วนปี2566 ถึง ณ 31 มี.ค.อัตราการเติบโตของรายได้ 0.57% คาดว่าในปีต่อๆไปบริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ตามอุตสาหกรรมนี้ที่ 14-15% โดยบริษัทได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ ตามแผนน่าจะสามารถเปิดขายให้กับบุคคลทั่วไปในราวไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 เพื่อนำเงินมาขยายธุรกิจ ควบรวมและเปิดสาขาใหม่ปีละ 1-2สาขา และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
อุตสาหกรรมแนวโน้มเติบโต
สำหรับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม โดยตลาดการให้บริการภาวะมีบุตรยาก
- ทั่วโลก ปี2565 อยู่ที่ 47 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี2670 ราว 90 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2575 ราว 117 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนแนวโน้มการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวเพื่อผู้มีบุตรยาก - ตลาดทั่วโลก ปี 2569 มูลค่า180,000 ล้านบาท
- ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2569 มูลค่า 68,000 ล้านบาท
- ประเทศไทย ปี 2570 มูลค่า 60,000 ล้านบาท
ข้อโดดเด่นของไทย
นพ.วิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยถือเป็นเดสทิเนชั่นเติมเต็มความฝันของผู้มีบุตรยากจากภูมิภาคเอเชีย และจากทั่วโลก เนื่องจากมีความได้เปรียบในหลายประการ อาทิ มาตรฐานการรักษา อัตราความสำเร็จสูง การบริการที่ดีอบอุ่น รวมถึงมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2569
การมีนโยบายที่ค่อนข้างยืดหยุ่นและดึงดูดชาวต่างชาติ อาทิ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามารับการรักษาในประเทศไทยสามารถอยู่อาศัยได้นานถึง 90 วัน และค่ารักษาที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ภายใต้มาตรฐานระดับเดียวกัน
"รูปแบบธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯทั้ง 3 ส่วน ยังเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันที่จะผลักดันให้กลุ่มบริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยรูปแบบการให้บริการแบบ Integrated Full Service มีเป้าสู่การก้าวเป็นผู้นำด้านการรักษาผู้มีบุตรนาก การวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและเวลเนสระดับภูมิภาคเอเชีย"นพ.วิวัฒน์กล่าว