เตรียมตับ.. ดูแลร่างกายไม่ให้พัง รับปาร์ตี้คริสต์มาส-ปีใหม่
เข้าสู่ช่วงเทศกาลงานเลี้ยงสังสรรค์ หรืองานปาร์ตี้ ไม่ว่าจะคริสต์มาส ปีใหม่ ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การดื่มกิน จนบางครั้งอาจเผลอกินเผลอดื่มอย่างไม่ทันระวัง พอจบงานเลี้ยงต้องเอามือก่ายหน้าผากกับสุขภาพที่แย่ลง
Keypoint:
- สายปาร์ตี้…ฟังทางนี้ หนุ่ม ๆ สาว ๆ ชาวออฟฟิศคนไหนที่กำลังเตรียมตัวไปงานปาร์ตี้ หรือเฉลิมฉลองที่ไหนก็ตามแต่ สิ่งหนึ่งที่จะต้องมีในงานปาร์ตี้คงจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นับว่าเป็นของคู่กันที่งานไหน ๆ ขาดไม่ได้
- หลังปาร์ตี้อันหนักหน่วง หลายคนจะมีอาการแฮงค์ หรือเมาค้าง การดูแลสุขภาพทั้งก่อน ระหว่าง และหลังปาร์ตี้มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการดื่มน้ำเปล่ามากๆ และอย่าอดอาหารก่อนจะเริ่มปาร์ตี้
- ทุกคนอยากสนุกให้เต็มที่ในทุกงานสังสรรค์ แต่หากสุขภาพไม่เอื้ออำนวย ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ฉะนั้น 'การตรวจสุขภาพ' จึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจาก 'ใจ' ที่พร้อมสังสรรค์แล้ว ต้องดูว่า 'ร่างกาย' เราพร้อมด้วย
คนส่วนใหญ่ก็คงจะนึกถึงภาพความสุข ความสนุก ความสุดเหวี่ยง จนบางครั้งอาจมองข้ามผลกระทบที่จะมีต่อสุขภาพ หรืออาจจะคิดเพียงว่า นาน ๆ ที ขอเต็มที่หน่อยละกัน จบงานแล้วค่อยกลับมาดูแลสุขภาพกันใหม่
แต่เป็นไปได้มั้ย ถ้างานปาร์ตี้นั้น นอกจากเราจะสนุกแล้ว เรายังสามารถดูแลสุขภาพของเราได้ด้วย การเตรียมตัวที่ดีสำหรับงานปาร์ตี้จึงมีความสำคัญ ทั้งก่อน ระหว่างและหลังงานปาร์ตี้
นพ. ธิติวุฒิ หู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชปฏิบัติทั่วไป ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ กล่าวว่าหลายคนที่สุขภาพพัง เพราะไปปาร์ตี้ ดื่มกินอย่างเต็มที่ ทำให้สภาพร่างกายไม่พร้อมสังสรรค์ พักผ่อนน้อย ฉะนั้น เมื่อรู้ตัวว่าชอบไปงานปาร์ตี้ ดังนั้น ควรเตรียมตัวเตรียมสุขภาพให้พร้อมเสมอ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
1.ไม่ควรอดอาหาร
ควรทานอาหารรองท้องก่อนไปงาน เพราะการอดอาหารนานเกินไปจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง ทำให้หิวมากจนลืมตัวรับประทานอาหารในงานปาร์ตี้มากเกินไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
‘รัฐบาล’ ไฟเขียว ผับบาร์ พื้นที่นำร่อง ปาร์ตี้ปีใหม่ ได้ถึง 6 โมงเช้า 1 ม.ค.67
รู้จักตัวเอง ก่อนปาร์ตี้ เพื่อสุขภาพที่ดี
2.อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ
ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก่อนออกไปปาร์ตี้ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง อาจเลือกเป็นน้ำเปล่า น้ำสมุนไพร น้ำผลไม้สดที่ไม่หวานมาก หรือเครื่องดื่มที่ไม่ผสมน้ำตาล เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำจนต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีในงานมากเกินไป ซึ่งในงานก็มักจะมีแต่น้ำหวาน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3.เลือกสวมเสื้อผ้าที่พอดีตัว
ควรสวมเสื้อผ้าที่ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป เพราะอาจทำให้คุณอึดอัด หรือรับประทานมากจนไม่รู้ตัว
4.ดูแลสุขภาพ
ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมรับมือกับทุกปาร์ตี้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาที่จำเป็นไปให้พร้อมเสมอ และที่สำคัญคือ เราต้องรู้จักสภาพร่างกายตัวเองก่อนว่า…พร้อมสำหรับปาร์ตี้หรือไม่ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรฝืน
เราควรตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เพื่อให้รู้จักร่างกายตัวเองว่าพร้อมสำหรับงานปาร์ตี้หรือทำกิจกรรมต่างๆ มากน้อยแค่ไหน และต้องระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษบ้างในทุกงานเลี้ยง
- หากคุณมีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง ควรเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น ขนมหวาน เค้ก น้ำหวาน น้ำอัดลม
- หากคุณมีภาวะระดับคอเลสเตอรอลสูง ควรเลี่ยงอาหารจำพวกหอยนางรม กุ้ง ปลาหมึก เครื่องในสัตว์ ไขมันสัตว์ และอาหารจำพวกกะทิ
- หากคุณมีปัญหาเรื่อง 'ตับ' ต้องงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
เตรียมร่าง ก่อนปาร์ตี้
- กินก่อนไปปาร์ตี้วันหยุด อย่าอดอาหาร อย่าปล่อยให้ท้องว่าง
- การรับประทานอะไรก่อนไปงานปาร์ตี้สามารถชะลอความเร็วในการดูดซึมแอลกอฮอล์ของร่างกาย
ทำให้คุณไม่รู้สึกเมาตั้งแต่เริ่มปาร์ตี้ มีอาหารบางอย่างที่อาจช่วยป้องกันอาการเมาค้างได้ เช่น การเคี้ยวผักดอง มะกอก และอาหารที่มีรสเค็มเล็กน้อยอื่นๆ ของขบเคี้ยวเหล่านี้ช่วยเติมอิเล็กโทรไลต์ให้ร่างกาย เพื่อการต่อสู้กับอาการเมาค้าง นอกจากนี้ อัลมอนด์และถั่ว นอกจากมีไขมันและโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ ยังสามารถชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์ได้ด้วย
- การไปถึงงานปาร์ตี้อย่างหิวโหย
ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณมุ่งหน้าไปหาของว่างที่มีแคลอรีสูง แต่ความสามารถในการควบคุมอาหารก็จะลดลงเช่นกัน การทานอาหารว่างเล็กน้อยก่อนเวลาปาร์ตี้ประมาณหนึ่งชั่วโมง เพื่อควบคุมความหิวที่มากเกินไป โดยเลือกอาหารว่างที่มีไฟเบอร์สูงหรือโปรตีนสูง เพียงแค่กำมือ เช่น ขนมปังโฮลวีต ถั่วลิสง จึงเป็นตัวเลือกที่ดี
- การอดอาหาร จะทำให้หิวมากขึ้น ส่งผลให้กินมากเกินไป
การรับประทานอาหารตรงเวลา จึงมีผลดีต่อสุขภาพ ช่วยลดปัญหาความผิดปกติในการย่อยอาหารอีกด้วย
- การออกกำลังกายตอนเช้า
ในวันปาร์ตี้ สามารถลดความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ ตามรายงานของ U.S. National Library of Medicine กล่าวว่า หลังจากกลับมาจากการวิ่งเหยาะๆ ตอนเช้า โยคะ หรือคลาสคาร์ดิโอ จะทำให้รู้สึกสดชื่นและเบาสบาย ที่สำคัญกว่านั้น การออกกำลังกายทำให้รู้สึกดีกับตัวเอง ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในชุดปาร์ตี้ในวันนั้น การรู้สึกดีกับภาพลักษณ์ตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น และก็จะยิ่งสนุกไปกับงานปาร์ตี้มากขึ้นด้วย
- วางแผนล่วงหน้า
กฎง่ายๆ ที่สำคัญที่สุดเมื่อต้องไปงานปาร์ตี้ คือ ต้องมีแผนอยู่เสมอ ก่อนที่จะมาถึงงานเลี้ยง ควรตัดสินใจว่า จะกินอะไรและดื่มอะไร และจะกินเท่าไหร่ และให้ทำตามแผนนั้นให้ได้
- เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย
ด้วยวิตามินจากผัก ผลไม้ เสริมด้วยวิตามินบีรวม หรือการเติมวิตามินแร่ธาตุให้ร่างกาย ด้วยการทำวิตามินบำบัด (IV Therapy) เน้นสูตรเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ (IV Antioxidant Booster) เพราะจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความสดชื่น และเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย
- ดื่มน้ำให้เยอะขึ้น ตลอดงานปาร์ตี้
เพราะการดื่มน้ำในปริมาณมาก ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณดื่มมากเกินไปและเมาค้างในวันรุ่งขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำและทานอาหารมากเกินไปได้ด้วย
- แอลกอฮอล์ส่งผลต่อตับโดยตรงหลังการดื่มหนักจากงานปาร์ตี้
ใช้ทางลัดในการฟื้นฟูตับด้วย วิตามินบำบัด สูตรล้างพิษตับ ช่วยแก้อาการแฮงค์ ช่วยทำความสะอาดและช่วยส่งเสริมการทำงานของตับ ต้านทานอันตรายจากสารอนุมูลอิสระ
ระมัดระวัง ระหว่างปาร์ตี้
- เปลี่ยนจากขนม เบเกอรี เค้ก เป็นผลไม้ จะดีต่อสุขภาพมากกว่า
- หลีกเลี่ยงของทอด และอาหารที่มีแคลอรีสูง
- เคี้ยวหมากฝรั่งในงานปาร์ตี้ เพราะบางครั้ง แม้ว่าเราจะอิ่มแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหยุดทานได้ เพราะความน่าดึงดูดของอาหาร การเคี้ยวหมากฝรั่งอาจจะช่วยได้ในกรณีนี้
- หากจะดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรเติมสิ่งอื่นใดลงไปนอกจากโซดา โดยเฉพาะการเติมน้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล
- ดื่มน้ำให้เยอะขึ้น ตลอดงานปาร์ตี้ เพราะการดื่มน้ำในปริมาณมาก ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณดื่มมากเกินไปและเมาค้างในวันรุ่งขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำและทานอาหารมากเกินไป เพราะบางครั้งสมองอาจจะผสมสัญญาณของความหิวและกระหาย ซึ่งหมายความว่า ในบางครั้งที่ร่างกายกระหายน้ำ แต่จะเข้าใจผิดคิดว่ากำลังหิว ทำให้กินมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ
- หลีกเลี่ยง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายชนิด เช่น ดื่มเหล้า ไวน์ เบียร์ เพราะจะทำให้ปวดหัว เมาหนักและเมาค้างในวันรุ่งขึ้นได้
- เคลื่อนไหว เต้นรำ เล่นเกม เพิ่มการไหลเวียน การย่อยอาหาร และการเผาผลาญแคลอรี ดีกว่าการยืนหรือนั่งเฉยๆ
- หากรู้สึกว่าทานอาหารและแอลกอฮอล์มากเกินไป จนทำให้ร่างกายรู้สึกเฉื่อยชาและท้องอืด ให้ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์และขับเหงื่อออก
- เมาไม่ขับ หากคุณดื่มแอลกอฮอล์ในงานปาร์ตี้ ไม่ควรขับรถเด็ดขาด เพราะอาจจะทำเกิดอุบัติเหตุหรือโดนตำรวจจับได้ ควรเรียกรถแท็กซี่ หรือใช้บริการเรียกคนขับรถจะดีกว่า
ปาร์ตี้สนุก ต้องมีสติ ร่างต้องไม่พัง
เราสามารถควบคุมตัวเอง…ไม่ให้ไปสู่ 'ร่างพังๆ' หลังกลับจากปาร์ตี้ ได้ดังนี้
- ดื่มน้ำทันทีที่ตื่นนอน
- เลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยมากกว่าไขมัน และรับประทานอย่างพอดี
- เคี้ยวอาหารช้าๆ ให้ละเอียด จะช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้น
- ควรเลือกดื่มน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล
- เริ่มต้นออกกำลังกาย
- ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และไม่ควรดื่มตอนท้องว่าง
- หลังงานเลี้ยงเลิก ควรรอให้อาหารย่อยอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน เพื่อหลีกเลี่ยงโรคกรดไหลย้อน
เชื่อว่าทุกคนก็อยากสนุกให้เต็มที่ในทุกงานสังสรรค์ แต่หากสุขภาพของเราไม่เอื้ออำนวย เราก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ฉะนั้น 'การตรวจสุขภาพ' จึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจาก 'ใจ' ที่พร้อมสังสรรค์แล้ว ต้องดูว่า 'ร่างกาย' ของเราพร้อมด้วยหรือไม่
ปาร์ตี้บ่อยๆ อย่าลืมตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อที่จะทราบถึงความผิดปกติ และรักษาได้ทันเวลา
ปาร์ตี้ ปลอดโรค ปลอดโควิด-19
นอกจากผลกระทบที่มีต่อร่างกายจากงานปาร์ตี้แล้ว อีกอย่างที่จะละเลยไม่ได้คือการป้องกันโควิด-19 แม้ว่าโรคนี้จะถูกจัดว่าเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้วก็ตาม
- สร้างจุดบริการเจลทำความสะอาดมือรอบๆ สถานที่จัดงาน และจัดให้ห้องน้ำทุกห้องมีสบู่ล้างมือ
- หลีกเลี่ยงการใช้จานร่วมกันหรือบุฟเฟ่ต์ ให้เลือกของว่างหรืออาหารแยกส่วนแทน เพื่อลดการใช้อุปกรณ์เสิร์ฟร่วมกัน
- เตรียมหน้ากากสำรองไว้ให้พร้อมและตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้เข้างานปาร์ตี้ ต้องสวมหน้ากากอนามัย ยกเว้นขณะรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่ม
- จัดโต๊ะหรือพื้นที่รับประทานอาหารให้ห่างจากแขกคนอื่นๆ อย่างน้อย 6 ฟุต
- หากเป็นไปได้ ให้จัดปาร์ตี้กลางแจ้ง จะปลอดภัยกว่ากิจกรรมในร่ม หรือในห้องปิดทึบ
- หากมีอาการเจ็บป่วยใด ๆ ให้งดไปงานปาร์ตี้
เตรียมตับ ดูแลสุขภาพ ฟื้นฟูหลังปาร์ตี้
หลังปาร์ตี้อันหนักหน่วง หลายคนจะมีอาการเมาค้าง เพราะร่างกายนำ อะเซทัลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารพิษรุนแรงต่อร่างกายไปย่อยเป็นกรดอะซิติกไม่ทัน นำมาสู่อาการอันไม่พึงประสงค์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นหลังจากสร่างเมาแล้ว เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ เสียการทรงตัว หิวน้ำ ปากแห้ง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว เราจึงขอเสนอวิธีแก้เบื้องต้นดังนี้
- ดื่มน้ำให้มาก หรือหาอาหารรองท้อง จะช่วยลดอาการเมาค้างได้
- หากมีอาการปวดหัว สามารถทานยาแก้ปวด ลดไข้ได้
- หากมีอาการคลื่นไส้ สามารถทานน้ำขิงอุ่นๆ หรือชาเปปเปอร์มินต์ จะช่วยลดอาการนี้ได้
- เติมวิตามินแร่ธาตุให้ร่างกาย จากน้ำผักผลไม้ วิตามินบีรวม หรือวิตามินรวม
- เพิ่มการสร้างกลูตาไธโอนในตับ ด้วย สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากดอกมิลค์ทิสเทิล กรดอะมิโนเอ็นอะซิติลซีสเทอีน
อะโวคาโด หน่อไม้ฝรั่ง เพื่อฟื้นฟูเซลล์ตับและเร่งการกำจัดสารตกค้างที่ทำให้มีอาการเมาค้าง - หากง่วง สามารถดื่มกาแฟได้ เพราะคาเฟอีนในกาแฟทำให้ร่างกายตื่นตัวมากขึ้น
อ้างอิง : โรงพยาบาลพญาไท ,โรงพยาบาลสมิติเวช ,ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์