WFH ‘วันศุกร์’ จนเป็นกึ่งวันหยุด คนไม่กล้าทวงงาน ทำยอดปาร์ตี้วันพฤหัสพุ่ง

Key points : 

• ผลสำรวจทั่วโลกเผย ยุคหลังโควิด พนักงานที่เรียกกลับเข้าออฟฟิศเลือกเข้าทำงานวันอังคาร-พฤหัสบดีมากที่สุด ส่วนวันศุกร์กลายเป็นคนที่เข้าออฟฟิศน้อยที่สุด เลือก Work From Home แทน
• มุมมองของคนที่มีต่อวันศุกร์เปลี่ยนไป กลายเป็นวันที่คนทำงานไม่เต็มที่ ไม่นัดประชุม ไม่กล้าทำงาน
• เมื่อคนไม่ออกมาทำงานในวันศุกร์ ทำให้ผู้คนต่างพากันไปสังสรรค์ในคืนวันพฤหัสบดีแทน ส่งผลให้ร้านอาหาร ผับ บาร์และธุรกิจโรงแรม พลอยทำมีรายได้เพิ่มขึ้นไปด้วย 

 

ทุกคนต่างดีใจ เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าวันนี้เป็น “วันศุกร์” เพราะเป็นสัญลักษณ์ว่าจะได้หยุดทำงาน หยุดเรียน พักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ จนกระทั่งฝรั่งมีคำพูดติดปากอย่าง “TGIF” หรือ “Thank God it's Friday” ที่หมายถึง ‘ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดก็วันศุกร์เสียที’ หลังจากทำงานหรือเรียนอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอดสัปดาห์ 

การทำงานในปัจจุบัน พนักงานส่วนใหญ่พยายามสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตประจำวัน บริษัทหลายแห่งปรับเหลือเพียง 4 วัน เพราะฉะนั้นวันศุกร์ของบางคนจึงกลายเป็นวันหยุด แม้ส่วนใหญ่ยังคงทำงาน 5 วัน แต่หลายคนก็ปรับให้วันศุกร์เป็นวันที่ทำงานไม่เต็มเวลา ไม่มีประชุม เลือกทำแต่งานเบา ๆ เพื่อจะได้เตรียมตัวพักผ่อน 

ดังนั้นวันศุกร์จึงเป็นวันที่อยู่ในดินแดนสนธยา จังหวะเกรงใจ จะทำงานก็ทำไม่เต็มที่ แต่จะหยุดทำงานก็ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้พนักงานจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเข้าออฟฟิศในวันศุกร์ 

• ไม่เข้าออฟฟิศวันศุกร์

การสำรวจในปี 2022 ของ Advanced Workplace Associates องค์กรให้คำปรึกษาเรื่องการทำงาน ที่ทำการสำรวจความเห็นพนักงาน 80,000 คนจาก 13 ประเทศ พบว่า วันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดียังคงเป็นวันที่ผู้คนนิยมมาทำงานในออฟฟิศมากที่สุด โดยมีคนทั่วโลกเข้าออฟฟิศในวันศุกร์เพียง 12% เท่านั้น (ส่วนในสหราชอาณาจักรขยับมาเป็น 13%)

เทรนด์การไม่เข้าออฟฟิศยังคงได้รับความนิยมในปี 2023 จากการสำรวจของจัดทำโดยหอการค้าแห่งดับลิน ในไอร์แลนด์ พบว่า 55% ของบริษัทกำหนดให้พนักงานทำงานเข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 7% จากการสำรวจในปี 2022 โดยบริษัทที่ต้องการให้พนักงานทำงานที่ออฟฟิศส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและกลุ่มที่ให้บริการเฉพาะด้าน

อีกทั้งบริษัทส่วนใหญ่ยังกำหนดวันเข้าออฟฟิศของพนักงาน ซึ่งมักจะเป็นช่วง “กลางสัปดาห์” มีเพียง 33% เท่านั้น ที่ให้พนักงานเลือกวันเข้าออฟฟิศเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในปีนี้สำนักส่วนใหญ่คึกคักในวันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดี เพราะมีพนักงานเข้ามาทำงานถึง 71% ของทั้งหมด ตามมาด้วยวันจันทร์ ส่วนวันศุกร์นั้นเป็นวันที่คนเข้าออฟฟิศน้อยที่สุด ในระดับที่ต่ำกว่า 30% 

ยิ่งไปกว่านั้นใน 26% ของบริษัทที่ทำการสำรวจ ระบุว่า แทบไม่มีใครเข้างานในวันศุกร์ มีไม่ถึง 10% เท่านั้นที่ยอมเข้าออฟฟิศ คนส่วนใหญ่เลือกทำงานจากที่บ้านแทน ซึ่งเป็นการยอมรับกลาย ๆ ว่าวันศุกร์เป็นวันทำงานสบาย ๆ และ “วันพฤหัสบดีกลายเป็นวันศุกร์ใหม่” (Thursday being the new Friday)

ดูเหมือนว่าการทำงานแบบผสมผสาน ทั้งการเข้าออฟฟิศและทำงานจากที่บ้าน จะสร้างความพึงพอใจให้แก่นายจ้าง โดย 40% ของนายจ้างยอมรับว่าการทำงานแบบนี้เหมาะสมกับธุรกิจของพวกเขา อีก 41% กล่าวว่า การทำงานแบบไฮบริดสร้างขวัญและกำลังใจในที่ทำงาน

แมรี่ โรส เบิร์ก ประธานหอการค้าแห่งดับลินระบุว่า ธุรกิจขนาดเล็กจะชอบให้พนักงานทำงานจากที่บ้านมากกว่า สวนทางกับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปมีแนวโน้มที่ให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศมากยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นว่า รูปแบบการทำงานแต่ละแบบมีความเหมาะสมกับบริษัทแต่ละขนาดแตกต่างกัน

 

• วันพฤหัสบดีกลายเป็นวันศุกร์

เมื่อพนักงานไม่ออกจากบ้านไปทำงานในวันศุกร์ ก็ทำให้ผู้คนต่างพากันไปสังสรรค์ในคืนวันพฤหัสบดีแทน ส่งผลให้ร้านอาหาร ผับ บาร์และธุรกิจโรงแรม พลอยทำมีรายได้เพิ่มขึ้นไปด้วย 

พอล วอเตอร์สัน ฃผู้บริหารระดับสูงของ Australian Venue Co เจ้าของโรงแรมและผับบาร์ในออสเตรเลียระบุว่า ธุรกิจในย่านธุรกิจกลาง (CBD) ทั้งโรงแรมและร้านอาหาร มียอดขายในวันพฤหัสบดีโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเกือบ 10% เมื่อเทียบกับยุคก่อนโควิด-19 

วอเตอร์สันยังกล่าวอีกว่า Duke Of Wellington ร้านอาหารในย่าน Collins Street ซึ่งเป็นโซนธุรกิจใจกลางเมือง ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 39% ในวันพฤหัสบดีเมื่อเทียบกับปี 2019

ส่วนเกร็ก แซนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ Speakeasy Group เจ้าของบาร์ของ Nick และ Nora's, Eau De Vie และ Boilermaker House สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นับตั้งแต่ยุคโควิด-19 เป็นต้นมา 

“ปรกติแล้วเรามักจะคุ้นตากับภาพร้านอาหารที่เนืองแน่นไปด้วยฝูงคนตั้งเที่ยงวันศุกร์ และบางคนก็รีบไปบาร์ตั้งแต่หัวค่ำ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับวันพฤหัสบดีแทน เพราะวันศุกร์คนจะอยู่บ้านเคลียร์งานให้เสร็จ แล้วออกมาอีกทีในวันเสาร์”  แซนเดอร์สันกล่าว

ขณะที่ชั่วเวลาที่วุ่นวายมากที่สุดในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร คือ ช่วงวันอังคาร-พฤหัวบดี โดยมาร์ค อัลเลน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ LandSec ให้ข้อมูลว่า วันจันทร์จะมีคนออกมาทำกิจกรรมเพียง 50-60% ของช่วงกลางสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์นั้นเงียบเหงาพอ ๆ กับวันหยุดสุดสัปดาห์ 

ส่วนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ CBRE Investment Management เปิดเผยว่า พื้นที่สำนักงานว่างในลอนดอนเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ด้านเดวิด อินสกิป หัวหน้าฝ่ายวิจัยในยุโรปของ CBRE เตือนว่าออฟฟิศหลายแห่งอาจจะเผชิญหน้ากับวิกฤติได้ หากไม่ปรับปรุงออฟฟิศให้เหมาะสมกับการทำงาน มีมากกว่าแค่อุปกรณ์สำนักงานและคอมพิวเตอร์

ที่มา: BBC, Financial Times, Irish Times, SHRM, The Age, The Wall Street Journals, Washington Post