ไขความลับ 'มอยส์เจอไรเซอร์' ไอเทมจำเป็น สำหรับคนรักผิว
การทา มอยส์เจอไรเซอร์ เป็นสิ่งสำคัญต่อผิว ไม่ว่าจะในสภาพอากาศหนาว หรือ อากาศร้อน เพราะการที่ผิวขาดน้ำ จะส่งผลเสียตามมา ผิวแห้ง กร้าน ฝ้า กระ สิว ผิวหนังอักเสบ
Key Point :
- มอยส์เจอไรเซอร์ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความจำเป็น หลายคนอาจเข้าใจว่า ผิวมันไม่จำเป็นต้องทา แต่ความจริงแล้ว ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม มีโอกาสผิวขาดน้ำได้เช่นกัน
- เมื่อเรารู้สึกว่า ผิวแห้งกว่าปกติ เห็นริ้วรอยชัด ลูบแล้วสาก เป็นขุย นั่นคือ อาการแสดงผิวขาดน้ำที่เกิดขึ้น
- การเลือก มอยส์เจอไรเซอร์ มี 2 ปัจจัย หรือ คือ สภาพผิวของเรา และ ประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
เมื่อพูดถึงการดูแลผิว มอยส์เจอไรเซอร์ ถือเป็นหนึ่งในสกินแคร์ที่หลายคนเลือกใช้ เพราะช่วยเปลี่ยนผิวที่แห้งกร้าน กลับมาชุ่มชื้น โดยเฉพาะหากเลือกได้ถูกต้องและทาอย่างถูกวิธีในทุกๆ วัน ยิ่งในช่วงหน้าหนาว ที่อากาศแห้ง ลมแรง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวสาวๆ ได้โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้ง
ภญ.ไพลิน วาสนาวิไล เภสัชกรงานเภสัชกรรม ฝ่ายสนับสนุนทางการแพทย์ ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของมอยส์เจอไรเซอร์ ในช่วงหน้าหนาว ผ่านช่องทาง รามาแชนแนล Rama Channel โดยอธิบายว่า สำหรับภาวะผิวแห้ง หรือผิวขาดน้ำ เป็นสภาวะที่น้ำใต้ผิวหนังมีปริมาณน้อยกว่าปกติ ทำให้เรามีอาการแสดงผิวขาดน้ำเกิดขึ้น
วิธีการสังเกต
- ผิวแห้งกว่าปกติ
- เห็นริ้วรอยชัดขึ้น
- ลูบแล้วสากมือ เป็นขุย
เป็นสัญญาณว่าร่างกายเรากำลังเผชิญกับภาวะผิวขาดน้ำ
ข่าวที่กี่ยวข้อง
7 เคล็ดลับ ดูแล 'ผิว' ไม่ลอก ไม่แห้ง ไม่ขุย ช่วงหน้าหนาว
‘สะเก็ดเงิน’ รักษา-ดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อโรคไม่หายขาด
ดูแลอย่างไร ? เมื่อ 'ผิวเครียด' โรคใหม่ของคนวัยทำงาน
ปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้ง
ปัจจัยภายในและภายนอก ที่ทำให้ส่งผลให้ผิวแห้ง เช่น
- การสัมผัสกับรังสียูวีในปริมาณมาก เป็นระยะเวลานาน
- การใช้ผลิตภัณฑ์เร่งการผลัดเซลล์ผิวที่มากกว่าปกติ
- อายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลต่อการสร้างสารให้ความชุ่มชื้น
- รวมถึงสภาวะอากาศหนาว มีโอกาสพัดพาความชื่นจากผิวหนังได้มากขึ้น
ปัญหาสุขภาพผิวที่ตามมา
เมื่อเกิดภาวะผิวขาดความชุ่มชื่น ไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง นำมาซึ่งปัญหาสุขภาพผิวมากมาย เช่น
- สิว
- ฝ้า
- กระ
- ผิวหมองคล้ำ
- หากผิวขาดน้ำนานๆ จะทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นนอกเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ทำให้รูขุมขนกว้าง มีโอกาสที่สิ่งแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าสู่ชั้นผิวหนัง อาจทำให้ติดเชื้อ ผิวหนังอักเสบตามมาได้
"ดังนั้น เมื่อเผชิญกับภาวะผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื่น จำเป็นต้องได้รับสารให้ความชุ่มชื้นที่เหมาะสม เพื่อให้ผิวได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง"
ผิวมัน จำเป็นต้องทา มอยส์เจอไรเซอร์ หรือไม่
ทั้งนี้ มอยส์เจอไรเซอร์ มีความสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว แม้ผิวของเราจะผลิต มอยส์เจอไรเซอร์ ได้เอง แต่ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากมาย ที่มีส่วนผสมที่ไม่เป็นมิตรกับผิว มีฤทธิ์ระคายเคือง ทำให้ผิวอ่อนแอ และผลิตมอยส์เจอไรเซอร์ได้น้อยลง การบำรุงผิวโดยคำนึงถึงส่วนผสมของ มอยส์เจอไรเซอร์ จึงมีความสำคัญ
บางคนหน้ามันแล้วกลัวว่าใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ แล้วจะยิ่งทำให้ผิวมันยิ่งขึ้น เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะ มอยส์เจอไรเซอร์ มีหลายประเภท สามารถเลือกใช้ให้ตรงกับผิวของเราได้
ภญ.ไพลิน อธิบายต่อไปว่า ความเข้าใจที่ว่า คนผิวมันไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ อาจจะยังไม่ถูกต้อง เพราะทุกสภาพผิวหน้า ไม่ว่าจะผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม มีโอกาสที่จะผิวขาดน้ำได้ ดังนั้น มอยส์เจอไรเซอร์ มีความจำเป็นในการดูแลสภาวะผิวขาดน้ำ ในทุกสภาพผิวหนัง เพียงแค่ เมื่อเกิดภาวะผิวขาดน้ำ หรือ ขาดความชุ่มชื้น ต้องเลือกผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ หรือ สารให้ความชุ่มชื้นที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของเรา เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสภาพผิวหน้า
ทั้งนี้ มอยส์เจอไรเซอร์ มากมาย ที่สามารถทำให้ผิวดีขึ้น ในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญ คือ การหามอยส์เจอไรเซอร์ ที่สามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และตอบสนองความต้องการของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้ครีมกันแดด แม้จะอยู่ในฤดูหนาว หรือในวันที่มีเมฆมาก เพราะแสงอาทิตย์ ทำให้ผิวแห้ง และหยาบกร้าน
เลือก มอยส์เจอไรเซอร์ อย่างไร
สำหรับการเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อรักษาภาวะผิวขาดน้ำ ให้คำนึงถึง 2 ปัจจัยหลัก คือ สภาพผิว และ ชนิดของมอยส์เจอไรเซอร์
ภญ.ไพลิน กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าชนิดของ มอยส์เจอไรเซอร์ ในท้องตลาดมีกี่ประเภท และสารประเภทใดที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนังได้ และช่วยให้ความชุ่มชื้นได้อย่างไร โดย มอยส์เจอไรเซอร์ ในท้องตลาดแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1) ชนิดเคลือบผิว (Occlusives) มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นกับผิว ทำให้เกิดน้ำมันเคลือบผิวหนังส่วนนอก ลดการระเหยน้ำใต้ผิวหนัง ทำให้ความชุ่มชื่นกลับเข้าสู่ผิวหนังของผู้ใช้
2) ชนิดดูดน้ำ (Humectants) เช่น ไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือ ยูเรีย มีหน้าที่ในการดูดน้ำ ไม่ว่าจะน้ำจากสภาพอากาศภายนอก หรือน้ำจากผิวหนังด้านใต้มาสะสมในชั้นผิวหนังด้านนอก จะช่วยเก็บกักน้ำในผิวของเราได้ดียิ่งขึ้น
3) ชนิดช่วยให้ผิวนุ่ม ดูเรียบเนียน (Emollient) เช่น กรดไขมันชนิดต่างๆ เติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวหนัง ทำให้โอกาสน้ำใต้ผิวหนังรั่วไหลออกไปข้างนอกลดน้อยลง อีกทั้ง Emollient มีคุณสมบัติพิเศษทำให้ผิวหนังมีความเนียนเรียบมากยิ่งขึ้น และนุ่มมากยิ่งขึ้น
สภาพผิวแบบไหน ควรเลือกอย่างไร
นอกจากนี้ ยังควรจะรู้สภาพผิวเดิมของเราว่าเป็นสภาพผิวแบบไหน โดยคนเราจะมีสภาพผิว 3 แบบ คือ
- ผิวแห้ง
- ผิวมัน
- ผิวผสม
สำหรับ ผิวแห้ง ส่วนใหญ่ที่ผิวขาดน้ำ เกิดจากเดิมคนผิวแห้งจะมีการสร้างน้ำมันจากต่อมไขมันน้อย ดังนั้น การสร้างชั้นฟิล์มลดการระเหยของน้ำอาจจะน้อยกว่าคนปกติ ทำให้น้ำมีการระเหยออกไปได้มาก สารที่เหมาะสมจะเป็น กลุ่ม Occlusives
ขณะเดียวกัน กลุ่ม Humectants หรือ กลุ่ม Emollient คนผิวแห้งใช้ได้เช่นกัน โดยรวม คนผิวแห้งสามารถใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ ได้ทั้ง 3 ชนิด
สำหรับ ผิวมัน และ ผิวผสม ร่างกายมีการผลิตน้ำมันมากอยู่แล้ว ดังนั้น สารประเภท Occlusives อาจจะไม่เหมาะสม เนื่องจากค่อนข้างมีความมัน การใช้ในคนที่ผิวมันและผิวผสม อาจเพิ่มการอุดตันในรูขุมขน และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพผิว สิว ผิวอักเสบตามมา ดังนั้น มอยส์เจอไรเซอร์ ที่เหมาะสมกับคนผิวมัน ผิวผสม คือ กลุ่ม Humectants หรือ กลุ่ม Emollient มากกว่า
ครีมทาตัวทาหน้าได้หรือไม่
ภญ.ไพลิน อธิบายว่า หากทาหน้า แล้วเอามาทาตัว ตรงนี้ยอมรับได้ แต่หากครีมทาตัวแล้วจะเอามาใช้ทาหน้าต้องดูสาร เพราะสารให้ความชุ่มชื้นที่ทาตัว อาจจะมีการระคายเคืองที่มากกว่า หากไปทาหน้าที่มีผิวบอบบางกว่าตัว อาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมาได้