เช็ก 2 จังหวัด ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงระดับสีแดง กระทบต่อสุขภาพ - กทม.อ่วมทุกเขต

ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ (16 มกราคม 2567) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น 'เช็คฝุ่น' เมื่อเวลา 10.00 น. พบว่า 2 จังหวัดมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ

 

 

โดยการ 'เช็คฝุ่น' เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 16 มกราคม 2567 พบว่า 2 จังหวัด คือ สมุทรสงคราม 90.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ สมุทรสาคร 75.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง

 

และพบอีก 18 จังหวัด ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม โดย 3 อันดับแรกสีส้ม ได้แก่ ราชบุรี 67.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , นครปฐม 57.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และระยอง 55.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

 

ในขณะที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้มทั่วทุกเขตพื้นที่ โดย 5 อันดับแรก คือ หนองแขม 58.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , ดอนเมือง 56.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , หลักสี่ 52.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , ทวีวัฒนา 49.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และบางบอน 48.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

 

 

 

ทั้งนี้ จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 244 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 106 จุด ตามด้วยพื้นที่เขต สปก. 45 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 42 จุด ชุมชนและอื่นๆ 25 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 19 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ลพบุรี 42 จุด , ปราจีนบุรี 18 จุด และชัยภูมิ 16 จุด

 

นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่ กัมพูชา 2,224 จุด ตามด้วยพม่า 226 จุด เวียดนาม 115 จุด และลาว 114 จุด

 

ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

 

 

 

เช็กค่าฝุ่นรายจังหวัดล่าสุด (คลิก)