ตลาดสมุนไพรโต 6 หมื่นล้านบาท ดันสมุนไพรสู่ Soft power ส่งออก

ตลาดสมุนไพรโต 6 หมื่นล้านบาท  ดันสมุนไพรสู่ Soft power ส่งออก

"จำเป็นต้องมีการสร้างแบรนด์ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์สมุนไพรให้เป็นที่ยอมรับในตลาดทั่วโลก ไปพร้อมกับการสื่อสารเรื่องราวและคุณค่า เพื่อดึงดูดและเข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ"

Keypoint:

  • เดินหน้าผลักดันสมุนไพรไทยเป็น Soft Power และสร้างโอกาสให้กับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมสมุนไพร 
  • มูลค่าการส่งออกสมุนไพรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสมุนไพร มีแนวโน้มลดลง 
  • ภาครัฐต้องผลักดันในเรื่องสมุนไพร 3 ด้าน ได้แก่ เป็นกระบอกเสียงรวบรวมข้อมูลร่วมกันพัฒนาสมุนไพร  ,สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ และผลักดันเรื่อง Soft Powerในด้านแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย 

ข้อมูลตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วโลก มีมูลค่า 60,165.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในภูมิภาคเอเชียถึง 57.6 % อเมริกา 22.1 % ยุโรป 18 % ตะวันออกกลาง 1.5% ออสเตรเลีย 0.9% ประเทศไทยมีการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพร ติดอันดับ 7 ของของโลก

ส่วนภูมิภาคเอเชียประเทศไทยมีขนาดตลาดสมุนไพรเป็นอันดับ 4 รองจากประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ในขณะที่ไทยเป็นผู้นำการส่งออกสมุนไพรอันดับ 1 ของอาเซียน แต่ในตลาดโลกยังไม่ติด 1 ใน 10 เนื่องจากยังมีข้อจำกัดด้านมาตรฐานการผลิต อย่างไรก็ดียังพบมูลค่าการส่งออกสมุนไพรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

'อุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์' โอกาส SMEs ไทย

“สมุนไพรออร์แกนิค” มาแรง ตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพทั่วโลก

คาดตลาดสมุนไพรปี 70 โตแสนล้านบาท

‘สิทธิชัย แดงประเสริฐ’ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพรคนใหม่ คนที่ 5 กล่าวว่าภารกิจสำคัญ คือการเดินหน้าผลักดันสมุนไพรไทยเป็นSoft Power และสร้างโอกาสให้กับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมสมุนไพร เช่น เกษตรกรผู้ปลูกที่จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น และยั่งยืนขึ้น สร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งต่อเศรษฐกิจฐานราก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยรวมได้อย่างยั่งยืน โดยสมุนไพรไทยมีศักยภาพสูงในตลาดโลก เพราะมีความหลากหลายของสายพันธุ์ และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เข้มแข็ง

“มูลค่าการส่งออกสมุนไพรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสมุนไพร มีแนวโน้มลดลง ประเภทของสมุนไพรที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุด ได้แก่ พรรณไม้และส่วนของพรรณไม้ ประเภทของสมุนไพรที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงที่สุด ได้แก่ สารสกัด จากคาดการณ์ตลาดสมุนไพรในประเทศ ในปี 2570 มีมูลค่า 100,000 ล้านบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์ ยาอาหารเสริมสุขภาพ เครื่องสำอางเครื่องดื่มสมุนไพรที่ได้รับความนิยม ขมิ้นชัน กระชายขาว ตะไคร้หอม บัวบก” สิทธิชัย กล่าว

ตลาดสมุนไพรโต 6 หมื่นล้านบาท  ดันสมุนไพรสู่ Soft power ส่งออก

ตลาดสมุนไพรโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดการณ์ปี 2573 ทะลุ 2.7 ล้านล้านบาท เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สุขภาพยา เครื่องสำอาง สมุนไพรที่ได้รับความนิยม ขิง กระเทียม โสม และคาโมมายล์

เพิ่มการบริโภคสมุนไพรภายในประเทศ-ส่งออก

กลยุทธ์ที่วางไว้คือการเพิ่มการบริโภคสมุนไพรภายในประเทศ และการส่งออกผลิตภัณฑ์สมุนไพรมูลค่าสูง อาทิ สารสกัด สมุนไพรแปรรูป ยาและอาหารเสริม ส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคที่มีความต้องการสูงในการบริโภคสมุนไพร อย่าง ตลาดอาเซียน และ CLMV ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการเร่งเดินหน้าสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ เข้าถึงการวิจัยและพัฒนาในห้องแล็บที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อสร้างมาตรฐานรองรับสินค้า

“จำเป็นต้องมีการสร้างแบรนด์ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์สมุนไพรให้เป็นที่ยอมรับในตลาดทั่วโลก ไปพร้อมกับการสื่อสารเรื่องราวและคุณค่า เพื่อดึงดูดและเข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ในการโปรโมทเข้าถึงผู้บริโภคและการเก็บฐานข้อมูลไว้ต่อยอดในการวางกลยุทธ์ผลักดันสมุนไพรไทยได้แม่นยำมากขึ้น โดยเชื่อมโยงความร่วมมือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ตลอดห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสมุนไพร“สิทธิชัย กล่าว

ตลาดสมุนไพรโต 6 หมื่นล้านบาท  ดันสมุนไพรสู่ Soft power ส่งออก

ผลักดันสมุนไพรSoft Power สู่ตลาดโลก

สำหรับกลยุทธ์ในการยกระดับสมุนไพรไทยที่จะนำมาขับเคลื่อนคือ 'Economy Sharing' ผนึกความร่วมมือ รัฐ-เอกชน มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น การสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กเข้าถึงการวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษา และสร้างพันธมิตรเพื่อรวมกลุ่มเข้าถึงโรงงานการผลิตขนาดใหญ่ได้มาตรฐานสากล เนื่องจากปัจจุบันการส่งออกสมุนไพรไทยยังมีข้อจำกัดจากบางประเทศที่ไม่สามารถส่งออกไปได้

ปัจจุบัน ภาครัฐและเอกชนไทยได้เกิดความร่วมมือภาครัฐและเอกชน เช่น ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเซลส์ (TCELS) ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ศูนย์สัตว์ทดลองแห่งชาติ และเครือข่าย TOPT เพื่อพัฒนายาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้จะส่งเสริมให้เกิดการเข้าถึงการผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐานด้วยการใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“สิ่งที่ต้องการให้ทางภาครัฐเข้ามาผลักดันในเรื่องของสมุนไพรนั้น มี 3 ด้านสำคัญ คือ 1.การเป็นกระบอกเสียงในการรวบรวมข้อมูลเพื่อร่วมกันพัฒนากับภาครัฐ หน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนาสมุนไพรไทยให้ตอบโจทย์ตลาด 2.สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการด้านสมุนไพรไทยในการช่วยกันสร้างผลิตภัณฑ์ ช่องทางการสร้างมูลค่าในตลาด และ3.ผลักดันเรื่อง Soft Powerในด้านแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย ซึ่งสมุนไพรบางชนิดมีแหล่งกำเนิดในไทยเท่านั้น อาหารไทยที่มีเครื่องเทศของสมุนไพรผสมอยู่”สิทธิชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสมุนไพรไทยยังขาดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันผลักดันให้เกิดSoft Power อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งจากภาครัฐ เอกชน หน่วยงานวิจัย และแหล่งเงินทุน เนื่องจากโรงงานยาสมุนไพรส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ยังเข้าถึงแหลางเงินทุนได้ยาก

ตลาดสมุนไพรโต 6 หมื่นล้านบาท  ดันสมุนไพรสู่ Soft power ส่งออก

ยกระดับนวัตกรรมสมุนไพร 6 ด้าน

‘เมธา สิมะวรา’ อดีตประธานกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ประธานกลุ่มสมุนไพรคนใหม่สานต่อภารกิจและต่อยอดแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2567 ที่วางเป้าประเทศไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ที่ได้มาตรฐาน และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน

“จะต้องมีการต่อยอดด้วยนวัตกรรมให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล 6 ด้านได้แก่ 1.การส่งเสริมสมุนไพรผ่านอาหารไทย จากครัวไทยสู่ครัวโลก 2.การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของ SMEs ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม 3. เน้นตลาดในประเทศ และ CLMV 4. ยกระดับการผลิตด้วยเทคโนโลยี (SMART) 5.ส่งเสริมให้ส่วนภูมิภาคใช้สมุนไพรเป็นกลไกการพัฒนา และ 6. ส่งเสริมอุตสาหกรรมสารสกัด เพิ่มมูลค่าและความสามารถในการแข่งขัน โดยจะเน้นผลักดันให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น”เมธา กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนที่จะไปตลาดโลกจะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นระดับโลกก่อน ซึ่งธุรกิจ SMEs ของไทย หากต้องการส่งออก ต้องมองหาแหล่งเงินทุน และจำเป็นต้องไปออกงานนิทรรศการต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ได้พบกับแหล่งเงินทุนทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันควรจะมีการส่งเสริมให้มีการขึ้นทะเบียนสารสกัดแยกประเภท เพื่อทำให้การขึ้นทะเบียนสารสกัดสมุนไพรต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ตลาดสมุนไพรโต 6 หมื่นล้านบาท  ดันสมุนไพรสู่ Soft power ส่งออก